By Lady Manager @Bitchy
เพลิดกว่าเซ็กซ์ทอยเสียอีก มีเพื่อนสาวใหญ่ซึ่งตั้งรกรากเปิดร้านอาหารไทยในอเมริกา เม้าท์มอยด้วยความอิ่มเอมเอ็นโดรฟินเมื่อทริปเยี่ยมบ้านเกิดเดือนก่อนว่า ตั้งแต่ไปทำ G-Shot เธอตะโกนเยส-เยส-เยส ทุกครั้งที่ปฏิบัติกิจกามกับคุณสามี
เราก็ได้แต่ทำตาปริบๆ กลืนน้ำลายเอื๊อกๆ อิจฉานะเซ่! G-Shot คืออะไรหว่า? มันเป็นญาติฝ่ายไหนกับ G-Spot ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าของสาวเราฟระ? ถึงขึ้นหัวคอลัมน์บิทชี่ เรื่องวิชาการแบบนี้ต้องถามหมอ ไม่ว่าจะเป็นผลดี ผลเสีย และแน่นอนผลข้างเคียง ต้องให้รู้ชัดแจ้งรอบด้านเพื่อความรอบคอบก่อนฮิตทำตามเพื่อน…
จึงแจ้นไปถาม หมออาร์ม-นพ.วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ เพราะแกไม่เพียงแค่จบเกียรตินิยมจุฬาฯ ยังได้เกียรติบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์จาก Harvard Medical School ด้วย
“พูดกันเยอะมากครับ มีคนไข้มาถามผมไม่น้อย เห็นผมเชี่ยวชาญเรื่องฟิลเลอร์ เข้ามาถาม-ฟิลเลอร์สามารถช่วยเรื่องความรู้สึกทางเพศได้ใช่มั้ยหมอ…
ผมไม่ทำให้นะครับ เพราะคอนเซ็ปต์เรา (หมายถึง Hertitude Clinic ที่แกกับเพื่อนลงขันเปิดในเดอะคริสตัล พาร์ค และเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์) ต้องปลอดภัยที่สุดก่อน”
อ๊ะ! งานเข้าล่ะสิ หมออาร์มออกตัวชัดเจน พร้อมยันว่า เจ้า G-Shot ยังไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ดังนั้น จึงมิต้องหวังอ้างถึงอย.บ้านเราเลย
“ทาง US FDA (Food and Drug Administration) ยังไม่ยอมรับ แสดงว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่ยังเป็นข้อเสีย การทำที่สหรัฐฯ เป็นการทำที่คนไข้ต้องยินยอม ต้องเซ็นยินยอมว่า-ชั้นยอมทำ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ชั้นจะไม่ฟ้องหมอเด็ดขาด” ฟังแล้วสะดุ้งเหยง เพื่อนเรากลายเป็นหนึ่งในบรรดาสาวๆ ผู้ปรารถนาบรรลุจุดสุดยอด จึงยอมเสี่ยงซะงั้น ถ้างั้นเราให้หมออาร์มชำแหละ G-Shot จัดยาวไปเลย
“G-Shot เป็นการฉีดฟิลเลอร์ (Filler สารเติมเต็ม ซึ่งก็คือ ไฮยาลูรอนิค Hyaluronic acid - HA ที่นิยมนำมาฉีดเสริมดั้งกันนั่นแหล่ะ) เพื่อสร้างความพึงพอใจทางเพศ ฉีดในตัวผู้หญิง เพื่อให้ผู้หญิงรู้สึกครับ” หมออาร์มอธิบายจริงจัง เพราะตอนแรกเรานึกว่าฉีดช่องคลอดให้บวมแคบข้างใน เพื่อความกระชับ เวลาช้างน้อยของเขาเข้าไป เขาจะได้รู้สึกคับ มีความสุข และรักเราแน่นขึ้น!
“ไม่ใช่ให้ชายรู้สึก แต่การกระทำนี้เพื่อประโยชน์สตรีฝ่ายเดียวครับ” หมอย้ำ แถมวรรคทอง “ผู้หญิงจะเจ็บ ตัวเราต้องเจ็บเพื่อตัวเองครับ อย่างเช่น จะมาทำสวยก็สวยเพื่อตัวเองครับ เราไม่ทำเพื่อคนอื่นครับ เราต้องทำเพื่อตัวเอง” ..ช่างโดนใจสาวบิทชี่อย่างเราจังเลย อิอิ ว่าต่อเลยค่ะ
“ผู้หญิงจะออกัสซึ่ม (Orgasm จุดสุดยอดของความรู้สึกทางเพศ) อย่างแรก Clitoral Orgasm จาก คลิตอริส (Clitoris ปุ่มกระสัน) อีกอย่าง Deep Vaginal Orgasm ก็คือ ออกัสซึ่มที่เราไปกระตุ้นถูกจุดจี-สปอต (*G-Spot นี้ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Ernst Grafenberg แพทย์ชาวเยอรมันผู้เขียนบทความหนึ่งในทศวรรษที่ 1950 กล่าวถึงบริเวณเสียวกระสันบนผนังส่วนหน้าของช่องคลอด ซึ่งจะบวมตัวในระหว่างการกระตุ้นอารมณ์เพศ)
เป็นที่รู้อยู่ว่าผู้หญิงมักมีปัญหาเรื่องการถึงจุดสุดยอดทางเพศค่อนข้างเยอะ จึงมีศัลยแพทย์ชาวอเมริกันท่านหนึ่งคิดขึ้นมาว่า ถ้าเราไปเพิ่มขนาดให้ตัวจี-สปอตใหญ่ขึ้น มันย่อมถูกเข้าถึง-สัมผัสได้ง่ายขึ้น ผู้หญิงก็สามารถตอบสนองความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น
เราก็เลยใช้สารไฮยาลูรอนิค หรือฟิลเลอร์ ฉีดตรงบริเวณจี-สปอตให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ชื่อทางการแพทย์จริงๆ เรียกว่า G-Spot Amplification - GSA ชื่อเล่นก็ G-Shot”
อ้าว! ในเมื่อจี-สปอตออกจะลี้ลับ หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร คุณหมอจะฉีดโดนเป๊ะได้อย่างไร เราไม่รอช้ารีบถาม
“นั่นแหล่ะครับคือ ประเด็น ตัวผู้หญิงเองเกิน 50% ไม่รู้จักจี-สปอต ไม่รู้ว่าตัวเองมีจี-สปอต พี่เลยสงสัยว่าหมอรู้ได้ไง คือ หมอรู้อยู่แล้วว่าโลเกชันมันอยู่ตรงไหน ในการรักษา G-Spot Amplification อันดับแรก เราจะให้ความรู้กับคนไข้ก่อนว่า สรีระเพศหญิงเป็นอย่างไร และตัวจี-สปอตอยู่บริเวณไหน หมอจะมีโมเดลอวัยวะเพศหญิงและชี้ให้ดู..มันอยู่บริเวณนี้นะ แล้วก็จะพูดถึงผลดี ผลเสีย ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการทำ G-Shot
หลังจากนั้น เราจะให้คนไข้อยู่ในห้องมิดชิดคนเดียว และสำรวจร่างกายตัวเองว่าจี-สปอตของตัวเองอยู่ตรงไหน จากการรู้โลเกชันไปแล้ว คนไข้ก็สามารถ locate ชี้ชัดจุดจี-สปอตของตัวเองได้ มันเป็นจุดที่อยู่บริเวณผนังด้านบนของช่องคลอด ลึกเข้าไปด้านในประมาณ 1-2 นิ้วจากปากช่องคลอด
หลังจากคนไข้รู้จุดของตัวเองแล้ว หมอก็จะให้คนไข้อยู่ในท่าตรวจภายใน เมื่อกี้คนไข้ตรวจหาด้วยตัวเองแล้ว พอหมอตรวจปุ๊บ คนไข้ก็จะบอกจุดนี้แหล่ะ หมอจะใส่เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า Speculum ฉีดยาชาเล็กน้อยตรงบริเวณจี-สปอต และใช้เข็มขนาดเล็กมาก เล็กเท่าเส้นผมเลย ฉีดเติมฟิลเลอร์เข้าตรงบริเวณจี-สปอต ใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ”
แต่ยังไม่เบ็ดเสร็จจ้า ใจเย็นๆ หมอบอกยังต้องรออีก 4 ชั่วโมงถึงไปจิ๊จ๊ะกับแฟนได้
“หลังทำทรีตเมนต์ตัวนี้ หมอจะใส่แทมปอน (Tampon คล้ายผ้าอนามัยแบบสอดไงล่ะ) สอดเข้าไปในช่องคลอดประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อห้ามเลือด เพราะแม้ฉีดด้วยเข็มฉีดยาเล็กๆ แต่บริเวณผิวตรงนั้นบอบบางมากครับ ฉะนั้นจึงมีโอกาสเกิดเลือดซึมได้
ผ่านไป 4 ชั่วโมง ถอดออก ก็ไปดำเนินชีวิตประจำวันชีวิตรักตามปกติได้เลยครับ”
หมออาร์มบรรยายสรรพคุณว่า
“เวลามีเพศสัมพันธ์ จี-สปอตซึ่งหนาใหญ่ขึ้นนี้จะได้รับการสัมผัสเสียดสีง่ายขึ้น คนไข้รู้สึกถึงอารมณ์ความพึงพอใจทางเพศมากขึ้น ถึงจุดสุดยอดได้ดียิ่งขึ้น
เน้นนะครับว่า ไม่ได้ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศง่ายหรือบ่อย แต่มันทำให้เวลามีเพศสัมพันธ์ รู้สึกถึงอารมณ์ทางเพศได้เร็วขึ้น และขอย้ำด้วยนะครับว่า ไม่ได้มากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ แต่ทำให้คนรู้สึกช้า รู้สึกเร็วขึ้น หรือคนที่มีความรู้สึกระดับปกติ ให้รู้สึกพึงพอใจมากยิ่งขึ้น”
แหม อะไรจะดีเริ่ดประเสริฐศรีไปซะหมด หญิงบิทชี่ไม่เชื่อง่ายๆ หร๊อก
“ฉีดหนึ่งครั้ง ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4 เดือนที่รู้สึกมาก และจากการศึกษานะครับ คนไข้จะมีความพึงพอใจเรื่องเพศมากขึ้น 87% เท่ากับว่ายังมีอีก 13% ที่ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น ไม่ได้รู้สึกแย่ลง”
…หากไม่ได้ผล ไม่ต้องเสียดายตังค์ซึ่งตกราว 2-3 หมื่นบาทต่อครั้งหรอกค่ะ เพราะสิ่งน่ากลัวต้องพึงตระหนักก่อนตัดสินใจคือ ผลข้างเคียง หมออาร์มลิสต์ข้อเสียยาวเหยียดดังนี้
“กรณีเอาแทมปอนออกแล้ว หนึ่ง-ยังมีเลือดไหลกะปริดกะปรอย โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ต้องรีบกลับมาเจอหมอเลยนะครับ สอง-ปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก เกิดภาวะปัสสาวะคั่งได้ เหมือนเราไปเหยียบสายยางอยู่ คือ ฉีดแล้ว มันไปเบียดท่อปัสสาวะ ทำให้ท่อปัสสาวะปิด สาม-หากหมอไม่เชี่ยวชาญพอ เกิดจิ้มเข็มไปโดนท่อปัสสาวะ ก็มีโอกาสที่ปัสสาวะจะไหลเล็ดผ่านมาทางช่องนั้นได้ สี่-เป็นศัลยกรรมทางการแพทย์และอยู่ในจุดตรงนั้น จึงมีโอกาสติดเชื้อเป็นหนองได้
ห้า-ทางอเมริกาค่อนข้างเคร่ง เค้าบอกว่าอาจมีผลต่อการรับรู้ประสาทความรู้สึกน้อยลงได้ เนื่องจากอาจไปสะกิดเข็มโดนเส้นประสาทพอดี ทำให้เส้นประสาทรับความรู้สึกน้อยลงได้ และหก-อาจจะทำให้เกิดภาวะหวาดระแวงได้ คนอเมริกันเป็นกันเยอะ คือ ไปทำมาแล้วไม่มั่นใจ จะเป็นไรรึเปล่า ก็หวาดระแวง อาจมีอาการนอนไม่หลับ เป็นเรื่องทางจิต”
หมออาร์มถอนหายใจ พูดตรงๆ ว่า
“พออ่านดูแล้ว โอ้ว! คงไม่มีใครฉีดแล้วล่ะ แต่คนอเมริกาก็ฮิต ผม.ง๊ง งง”
แต่เราไม่งง ข้อมูลคุณหมออาร์มออกจะแจ่มแจ๋แดงจ๋าขนาดนี้ ดังนั้นต่อให้ฮิตเสียวซี๊ดขนาดไหน ก็ไม่เสี่ยงทำเด็ดขาด
“ผมแนะนำสาวไทยว่าอย่าเพิ่งทำดีกว่า เพราะหมอในเมืองไทยก็ยังไม่มีใครที่ไปเทรนเรื่องนี้มาโดยตรง ที่ทำเล็กมากต้องฉีดให้เป๊ะพอดีเลย ขอให้รอไปก่อนนะครับ รอให้ปลอดภัยได้รับการรับรองจริงๆ ก่อน ค่อยว่ากัน”
เตือนคุณผู้หญิงที่ชอบแอบไปทำสวยเสริมสุข ต่อให้คุณหาที่ทำจนได้ ถือว่าเป็นการลักลอบ ผิดกฎหมายอย่างแรงค่ะ และถ้าเกิดผลข้างเคียง คุณก็ได้แต่รับสภาพ หรือไม่ก็โวยวาย ทว่าหาคนรับผิดชอบไม่ได้
…กระบี่อยู่ที่ใจจ๊ะ อย่ามัวพึ่งเทคโนศัลย์กันนักเลย
*อ่านประกอบเรื่องจี-สปอต
จุดกระสันเสียวของสาวๆ อยู่ตรงไหน!?/Dr.DEN Sexociety
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
เพลิดกว่าเซ็กซ์ทอยเสียอีก มีเพื่อนสาวใหญ่ซึ่งตั้งรกรากเปิดร้านอาหารไทยในอเมริกา เม้าท์มอยด้วยความอิ่มเอมเอ็นโดรฟินเมื่อทริปเยี่ยมบ้านเกิดเดือนก่อนว่า ตั้งแต่ไปทำ G-Shot เธอตะโกนเยส-เยส-เยส ทุกครั้งที่ปฏิบัติกิจกามกับคุณสามี
เราก็ได้แต่ทำตาปริบๆ กลืนน้ำลายเอื๊อกๆ อิจฉานะเซ่! G-Shot คืออะไรหว่า? มันเป็นญาติฝ่ายไหนกับ G-Spot ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าของสาวเราฟระ? ถึงขึ้นหัวคอลัมน์บิทชี่ เรื่องวิชาการแบบนี้ต้องถามหมอ ไม่ว่าจะเป็นผลดี ผลเสีย และแน่นอนผลข้างเคียง ต้องให้รู้ชัดแจ้งรอบด้านเพื่อความรอบคอบก่อนฮิตทำตามเพื่อน…
จึงแจ้นไปถาม หมออาร์ม-นพ.วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ เพราะแกไม่เพียงแค่จบเกียรตินิยมจุฬาฯ ยังได้เกียรติบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์จาก Harvard Medical School ด้วย
“พูดกันเยอะมากครับ มีคนไข้มาถามผมไม่น้อย เห็นผมเชี่ยวชาญเรื่องฟิลเลอร์ เข้ามาถาม-ฟิลเลอร์สามารถช่วยเรื่องความรู้สึกทางเพศได้ใช่มั้ยหมอ…
ผมไม่ทำให้นะครับ เพราะคอนเซ็ปต์เรา (หมายถึง Hertitude Clinic ที่แกกับเพื่อนลงขันเปิดในเดอะคริสตัล พาร์ค และเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์) ต้องปลอดภัยที่สุดก่อน”
อ๊ะ! งานเข้าล่ะสิ หมออาร์มออกตัวชัดเจน พร้อมยันว่า เจ้า G-Shot ยังไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ดังนั้น จึงมิต้องหวังอ้างถึงอย.บ้านเราเลย
“ทาง US FDA (Food and Drug Administration) ยังไม่ยอมรับ แสดงว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่ยังเป็นข้อเสีย การทำที่สหรัฐฯ เป็นการทำที่คนไข้ต้องยินยอม ต้องเซ็นยินยอมว่า-ชั้นยอมทำ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ชั้นจะไม่ฟ้องหมอเด็ดขาด” ฟังแล้วสะดุ้งเหยง เพื่อนเรากลายเป็นหนึ่งในบรรดาสาวๆ ผู้ปรารถนาบรรลุจุดสุดยอด จึงยอมเสี่ยงซะงั้น ถ้างั้นเราให้หมออาร์มชำแหละ G-Shot จัดยาวไปเลย
“G-Shot เป็นการฉีดฟิลเลอร์ (Filler สารเติมเต็ม ซึ่งก็คือ ไฮยาลูรอนิค Hyaluronic acid - HA ที่นิยมนำมาฉีดเสริมดั้งกันนั่นแหล่ะ) เพื่อสร้างความพึงพอใจทางเพศ ฉีดในตัวผู้หญิง เพื่อให้ผู้หญิงรู้สึกครับ” หมออาร์มอธิบายจริงจัง เพราะตอนแรกเรานึกว่าฉีดช่องคลอดให้บวมแคบข้างใน เพื่อความกระชับ เวลาช้างน้อยของเขาเข้าไป เขาจะได้รู้สึกคับ มีความสุข และรักเราแน่นขึ้น!
“ไม่ใช่ให้ชายรู้สึก แต่การกระทำนี้เพื่อประโยชน์สตรีฝ่ายเดียวครับ” หมอย้ำ แถมวรรคทอง “ผู้หญิงจะเจ็บ ตัวเราต้องเจ็บเพื่อตัวเองครับ อย่างเช่น จะมาทำสวยก็สวยเพื่อตัวเองครับ เราไม่ทำเพื่อคนอื่นครับ เราต้องทำเพื่อตัวเอง” ..ช่างโดนใจสาวบิทชี่อย่างเราจังเลย อิอิ ว่าต่อเลยค่ะ
“ผู้หญิงจะออกัสซึ่ม (Orgasm จุดสุดยอดของความรู้สึกทางเพศ) อย่างแรก Clitoral Orgasm จาก คลิตอริส (Clitoris ปุ่มกระสัน) อีกอย่าง Deep Vaginal Orgasm ก็คือ ออกัสซึ่มที่เราไปกระตุ้นถูกจุดจี-สปอต (*G-Spot นี้ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Ernst Grafenberg แพทย์ชาวเยอรมันผู้เขียนบทความหนึ่งในทศวรรษที่ 1950 กล่าวถึงบริเวณเสียวกระสันบนผนังส่วนหน้าของช่องคลอด ซึ่งจะบวมตัวในระหว่างการกระตุ้นอารมณ์เพศ)
เป็นที่รู้อยู่ว่าผู้หญิงมักมีปัญหาเรื่องการถึงจุดสุดยอดทางเพศค่อนข้างเยอะ จึงมีศัลยแพทย์ชาวอเมริกันท่านหนึ่งคิดขึ้นมาว่า ถ้าเราไปเพิ่มขนาดให้ตัวจี-สปอตใหญ่ขึ้น มันย่อมถูกเข้าถึง-สัมผัสได้ง่ายขึ้น ผู้หญิงก็สามารถตอบสนองความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น
เราก็เลยใช้สารไฮยาลูรอนิค หรือฟิลเลอร์ ฉีดตรงบริเวณจี-สปอตให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ชื่อทางการแพทย์จริงๆ เรียกว่า G-Spot Amplification - GSA ชื่อเล่นก็ G-Shot”
อ้าว! ในเมื่อจี-สปอตออกจะลี้ลับ หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร คุณหมอจะฉีดโดนเป๊ะได้อย่างไร เราไม่รอช้ารีบถาม
“นั่นแหล่ะครับคือ ประเด็น ตัวผู้หญิงเองเกิน 50% ไม่รู้จักจี-สปอต ไม่รู้ว่าตัวเองมีจี-สปอต พี่เลยสงสัยว่าหมอรู้ได้ไง คือ หมอรู้อยู่แล้วว่าโลเกชันมันอยู่ตรงไหน ในการรักษา G-Spot Amplification อันดับแรก เราจะให้ความรู้กับคนไข้ก่อนว่า สรีระเพศหญิงเป็นอย่างไร และตัวจี-สปอตอยู่บริเวณไหน หมอจะมีโมเดลอวัยวะเพศหญิงและชี้ให้ดู..มันอยู่บริเวณนี้นะ แล้วก็จะพูดถึงผลดี ผลเสีย ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการทำ G-Shot
หลังจากนั้น เราจะให้คนไข้อยู่ในห้องมิดชิดคนเดียว และสำรวจร่างกายตัวเองว่าจี-สปอตของตัวเองอยู่ตรงไหน จากการรู้โลเกชันไปแล้ว คนไข้ก็สามารถ locate ชี้ชัดจุดจี-สปอตของตัวเองได้ มันเป็นจุดที่อยู่บริเวณผนังด้านบนของช่องคลอด ลึกเข้าไปด้านในประมาณ 1-2 นิ้วจากปากช่องคลอด
หลังจากคนไข้รู้จุดของตัวเองแล้ว หมอก็จะให้คนไข้อยู่ในท่าตรวจภายใน เมื่อกี้คนไข้ตรวจหาด้วยตัวเองแล้ว พอหมอตรวจปุ๊บ คนไข้ก็จะบอกจุดนี้แหล่ะ หมอจะใส่เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า Speculum ฉีดยาชาเล็กน้อยตรงบริเวณจี-สปอต และใช้เข็มขนาดเล็กมาก เล็กเท่าเส้นผมเลย ฉีดเติมฟิลเลอร์เข้าตรงบริเวณจี-สปอต ใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ”
แต่ยังไม่เบ็ดเสร็จจ้า ใจเย็นๆ หมอบอกยังต้องรออีก 4 ชั่วโมงถึงไปจิ๊จ๊ะกับแฟนได้
“หลังทำทรีตเมนต์ตัวนี้ หมอจะใส่แทมปอน (Tampon คล้ายผ้าอนามัยแบบสอดไงล่ะ) สอดเข้าไปในช่องคลอดประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อห้ามเลือด เพราะแม้ฉีดด้วยเข็มฉีดยาเล็กๆ แต่บริเวณผิวตรงนั้นบอบบางมากครับ ฉะนั้นจึงมีโอกาสเกิดเลือดซึมได้
ผ่านไป 4 ชั่วโมง ถอดออก ก็ไปดำเนินชีวิตประจำวันชีวิตรักตามปกติได้เลยครับ”
หมออาร์มบรรยายสรรพคุณว่า
“เวลามีเพศสัมพันธ์ จี-สปอตซึ่งหนาใหญ่ขึ้นนี้จะได้รับการสัมผัสเสียดสีง่ายขึ้น คนไข้รู้สึกถึงอารมณ์ความพึงพอใจทางเพศมากขึ้น ถึงจุดสุดยอดได้ดียิ่งขึ้น
เน้นนะครับว่า ไม่ได้ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศง่ายหรือบ่อย แต่มันทำให้เวลามีเพศสัมพันธ์ รู้สึกถึงอารมณ์ทางเพศได้เร็วขึ้น และขอย้ำด้วยนะครับว่า ไม่ได้มากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ แต่ทำให้คนรู้สึกช้า รู้สึกเร็วขึ้น หรือคนที่มีความรู้สึกระดับปกติ ให้รู้สึกพึงพอใจมากยิ่งขึ้น”
แหม อะไรจะดีเริ่ดประเสริฐศรีไปซะหมด หญิงบิทชี่ไม่เชื่อง่ายๆ หร๊อก
“ฉีดหนึ่งครั้ง ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4 เดือนที่รู้สึกมาก และจากการศึกษานะครับ คนไข้จะมีความพึงพอใจเรื่องเพศมากขึ้น 87% เท่ากับว่ายังมีอีก 13% ที่ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น ไม่ได้รู้สึกแย่ลง”
…หากไม่ได้ผล ไม่ต้องเสียดายตังค์ซึ่งตกราว 2-3 หมื่นบาทต่อครั้งหรอกค่ะ เพราะสิ่งน่ากลัวต้องพึงตระหนักก่อนตัดสินใจคือ ผลข้างเคียง หมออาร์มลิสต์ข้อเสียยาวเหยียดดังนี้
“กรณีเอาแทมปอนออกแล้ว หนึ่ง-ยังมีเลือดไหลกะปริดกะปรอย โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ต้องรีบกลับมาเจอหมอเลยนะครับ สอง-ปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก เกิดภาวะปัสสาวะคั่งได้ เหมือนเราไปเหยียบสายยางอยู่ คือ ฉีดแล้ว มันไปเบียดท่อปัสสาวะ ทำให้ท่อปัสสาวะปิด สาม-หากหมอไม่เชี่ยวชาญพอ เกิดจิ้มเข็มไปโดนท่อปัสสาวะ ก็มีโอกาสที่ปัสสาวะจะไหลเล็ดผ่านมาทางช่องนั้นได้ สี่-เป็นศัลยกรรมทางการแพทย์และอยู่ในจุดตรงนั้น จึงมีโอกาสติดเชื้อเป็นหนองได้
ห้า-ทางอเมริกาค่อนข้างเคร่ง เค้าบอกว่าอาจมีผลต่อการรับรู้ประสาทความรู้สึกน้อยลงได้ เนื่องจากอาจไปสะกิดเข็มโดนเส้นประสาทพอดี ทำให้เส้นประสาทรับความรู้สึกน้อยลงได้ และหก-อาจจะทำให้เกิดภาวะหวาดระแวงได้ คนอเมริกันเป็นกันเยอะ คือ ไปทำมาแล้วไม่มั่นใจ จะเป็นไรรึเปล่า ก็หวาดระแวง อาจมีอาการนอนไม่หลับ เป็นเรื่องทางจิต”
หมออาร์มถอนหายใจ พูดตรงๆ ว่า
“พออ่านดูแล้ว โอ้ว! คงไม่มีใครฉีดแล้วล่ะ แต่คนอเมริกาก็ฮิต ผม.ง๊ง งง”
แต่เราไม่งง ข้อมูลคุณหมออาร์มออกจะแจ่มแจ๋แดงจ๋าขนาดนี้ ดังนั้นต่อให้ฮิตเสียวซี๊ดขนาดไหน ก็ไม่เสี่ยงทำเด็ดขาด
“ผมแนะนำสาวไทยว่าอย่าเพิ่งทำดีกว่า เพราะหมอในเมืองไทยก็ยังไม่มีใครที่ไปเทรนเรื่องนี้มาโดยตรง ที่ทำเล็กมากต้องฉีดให้เป๊ะพอดีเลย ขอให้รอไปก่อนนะครับ รอให้ปลอดภัยได้รับการรับรองจริงๆ ก่อน ค่อยว่ากัน”
เตือนคุณผู้หญิงที่ชอบแอบไปทำสวยเสริมสุข ต่อให้คุณหาที่ทำจนได้ ถือว่าเป็นการลักลอบ ผิดกฎหมายอย่างแรงค่ะ และถ้าเกิดผลข้างเคียง คุณก็ได้แต่รับสภาพ หรือไม่ก็โวยวาย ทว่าหาคนรับผิดชอบไม่ได้
…กระบี่อยู่ที่ใจจ๊ะ อย่ามัวพึ่งเทคโนศัลย์กันนักเลย
*อ่านประกอบเรื่องจี-สปอต
จุดกระสันเสียวของสาวๆ อยู่ตรงไหน!?/Dr.DEN Sexociety
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
