ชีวิตคนเรามักเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เช่นเดียวกับ “ปียารัตน์ ชวนะนันท์” ผู้ทำงานรุ่นใหม่ที่เคยทำงานอย่างทุ่มเท จนในที่สุดเธอต้องขอเบรกตัวเอง แม้จะห่างหายไปจากชีวิตเกือบ 2 ปี วันนี้เธอกลับมาทำงานอีกครั้งในตำแหน่งรีเทล แมนเนจเจอร์ ของแบรนด์หรู อย่างปราด้า ซึ่งเธอพร้อมแล้วที่จะบาลานซ์ชีวิตกับการทำงาน!
สำหรับคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการแฟชั่นเมืองไทยคงคุ้นหน้าคุ้นตา “แอน-ปียารัตน์ ชวนะนันท์” เป็นอย่างดี เพราะก่อนหน้านี้เธอทำงานเป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย ให้กับแบรนด์สินค้าแฟชั่นชื่อดังระดับโลก อย่าง คริสเตียน ดิออร์ ก่อนที่วันหนึ่งเธอจะลาวงการเพื่อไปชาร์จร่างกายให้กระชุ่มกระชวยอีกครั้ง
“ข้อเสียขอตัวเอง คือ เวลาที่ทำงานอะไรก็จะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ จนไม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพร่างกาย จนสร้างผลเสียมากมายตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ตั้งครรภ์แล้วเกิดการแท้งถึง 2 ครั้ง เนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง ซึ่งเพิ่มความทุกข์ใจเข้าไปอีก ส่งผลให้ทั้งร่างกายและจิตใจย่ำแย่ ทำให้ต้องตัดสินใจพักงาน เพื่อไปพักผ่อนและชาร์จพลังงานให้กับตัวเอง ทั้งไปออกกำลังกาย และปฏิบัติธรรม เมื่อชาร์จพลังจนร่างกายพร้อมแล้ว จึงกลับมาทำงานอีกครั้ง”
โอกาสมาถึงทันทีเมื่อร่างกายเธอพร้อมที่จะทำงานอีกครั้ง โดยเธอเข้าไปทำงานให้กับ ปราด้า ประเทศไทย ในตำแหน่งรีเทล แมเนเจอร์ หลังจากร้างราจากการทำงานไป 2 ปี เมื่อกลับมาทำงานอีกครั้งเธอจึงต้องเคาะสนิมสตาร์ทเครื่องในการทำงาน แต่ไม่นานความเป็นมืออาชีพก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
“หยุดทำงานไป 2 ปี ก็รู้สึกว่าตัวเองมีพลังมากขึ้น และมีสไตล์การทำงานใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ ทำให้งานราบรื่นและเกิดอุปสรรคบ้างเล็กน้อย”
เธอเริ่มต้นทำงานที่ ปราด้า ประเทศไทย ได้ประมาณ 4 เดือนกว่า “ตำแหน่งปัจจุบันคือรีเทล แมนเนเจอร์ เป็นงานที่มีรายละเอียดเยอะ ต้องลงลึกในเรื่องสินค้า รวมไปถึงการสั่งสินค้า หน้าร้าน และยอดขาย โชคดีที่ทางปราด้ามีการวางระบบงานที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เขาวางไว้ ซึ่งพนักงานที่ร้านและทุกคนในออฟฟิศก็ทำงานกันแบบมืออาชีพ”
การร่วมงานกับปราด้าในครั้งนี้เธอบอกกับเราว่า เธอมีความตั้งใจอย่างมากที่จะเห็นการเติบโตของบริษัท อีกทั้งยังมองว่าบริษัทเองก็มีศักยภาพอีกหลายอย่าง รวมไปถึงตัวสินค้าที่มีคุณภาพและการทำงานของคนที่เป็นมืออาชีพที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนองค์กรต่อไป และที่สำคัญเธอต้องไม่ลืมบาลานซ์ชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวเพื่อให้ทุกอย่างลงตัวที่สุดด้วย :: Text by FLASH mag
Profile
ชื่อเล่น :: แอน
อายุ :: 38 ปี
ประสบการณ์การทำงาน :
:: ทำงานด้านไฟแนนซ์ 7 ปี
:: แบรนด์ แมเนเจอร์ เอ็มโปริโอ อาร์มานี 1 ปี
:: ผู้จัดการทั่วไป คริสเตียน ดิออร์ ประเทศไทย 3 ปี
ปัจจุบัน :: รีเทล แมเนเจอร์ ปราด้า ประเทศไทย
คำแนะนำจากเวิร์กกิ้ง วูแมนมืออาชีพ
6 ข้อคิดก่อนเปลี่ยนงาน!!
1. สำหรับคนที่มีงานอยู่แล้ว เราต้องถามตัวเองก่อนว่าทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนงาน? เปลี่ยนงานเพราะอยากหนีปัญหาหรือเปล่า? ถ้าเปลี่ยนเพราะหนีปัญหา เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะถึงไปอยู่ที่ใหม่ก็อาจมีปัญหาเหมือนเดิม อยากให้ดูว่าเปลี่ยนเพราะปัญหาหรือเพราะค้นพบว่างานที่ทำไม่ใช่ตัวตนของเรา แล้วลองพิจารณาว่าเราสนใจอะไร เพราะถ้าเรารักและมีความสุขที่จะทำงานนั้นแล้วความสำเร็จในการทำงานก็ไปแล้วเกินครึ่งทางแล้ว
2. อีกสาเหตุที่คนนิยมเปลี่ยนงานเป็นเพราะผลตอนแทนที่สูงขึ้นกว่าเดิม แต่บางครั้งเงินไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง แม้ว่าจะได้เงินเยอะขึ้นแต่ทำไปแล้วไม่ใช่ก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นอาจทำให้ชีวิตเราเป๋ได้ และแน่นอนว่าเมื่ออีกบริษัทให้เงินเดือนที่สูงเขาก็ต้องคาดหวังกับเราสูงเช่นกัน ดังนั้นลองพิจารณาดูว่างานนั้นใช่ที่เราชอบและอยากทำหรือเปล่า แล้วเนื้องานเป็นอย่างไร และเราจะรับกับความเครียดตรงนั้นไหวหรือไม่
3. ก่อนไปสัมภาษณ์งานควรศึกษาองค์กร และเนื้อหางานในตำแหน่งที่เราจะไปทำไปก่อนเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันกับบริษัทที่เราไปสัมภาษณ์งาน
4. เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนงานแล้ว เราต้องปรับตัวให้ไปตามทิศทางขององค์กรด้วย ศึกษาเพื่อนร่วมงาน เพราะในการทำงานต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมเวิร์ก
5. ในการเริ่มงานกับองค์กรใหม่คุณอาจต้องใช้ความพยายามในการพิสูจน์ตัวเองให้เพื่อนร่วมงานและเจ้านายเห็น ซึ่งคุณต้องตั้งใจนิดนึง
6. การสร้างมิตรสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานใหม่ เราก็พยายามเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ จริงใจ ไม่เสแสร้ง และต้องคำนึงถึงเรื่องความสุภาพ ความอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้ที่อาวุโสกว่าเราด้วย
