บรรยากาศวาเลนไทน์มาทีไร สาวโสดอย่างเราๆ สุดเซ็ง ทำยังไง๊ถึงจะผ่านความรู้สึก lonely นี้ไปได้
ต่อประเด็นนี้ แทนที่จะไปหาหมอดู.. เราพาตัวเองไปโรงพยาบาลมนารมย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางที่ให้บริการด้านสุขภาพจิตแห่งแรกในประเทศไทย
เพราะแค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็ไม่เหงาสักหน่อย
พญ.อังคณา อัญญมณี จิตแพทย์วัยรุ่นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรักความสัมพันธ์ มาแนะนำค่ะ
“ถ้าเราติดว่า วาเลนไทน์มีแต่เรื่องคู่รักเท่านั้น มันก็จะทำให้เรารู้สึกเหงาโดดเดี่ยว เท่ากับเป็นการตั้งวางให้รู้สึกว่ าชีวิตไม่แฮปปี้ แล้วมองคนอื่น อิจฉาเค้า รู้สึกน้องเนื้อต่ำใจ ทำไมชั้นไม่ดีตรงไหน ทำไมป่านนี้ยังไม่แฟน ถ้าเราเอาตรงนี้มาเป็นตัวกำหนด ก็เป็นมุมมองที่ไม่ถูกต้อง
จริงๆ แล้ว ความรักมาจากหลายที่ คนที่เราให้ความรัก หรือคนที่ให้ความรักเรา ไม่ใช่แค่เพศตรงข้าม กรณีคนโสด อยู่คนเดียว ไม่มีแฟน หากเปลี่ยนมุมมองใหม่ จะไม่เหงาเลย ขึ้นอยู่กับมุมมองความคิดของเรา
ชีวิตคนเราแต่ละคนล้วนมีคุณค่า มีคุณความดีความน่ารัก ถ้าเราเอาเรื่องการมีแฟนไม่มีแฟนเป็นตัวตัดสิน มันยิ่งทำให้เราลดคุณค่าตัวเราเองลงไป เพราะคนที่ไม่มีแฟนก็เป็นคนที่มีคุณค่าได้อยู่แล้ว อย่างน้อยถึงเราไม่มีแฟน เราก็มีพ่อแม่ มีญาติพี่น้อง มีเพื่อน มีคนรู้จัก และพวกเค้าก็รักเรา
สาววัยรุ่นมักมองว่า ความรักชายหญิงเป็นเรื่องสำคัญ เอ๊ะ..ไปไหน จะมีหนุ่มๆ มองเรารึเปล่า ถ้ามีคนมองก็เป็นมุมสะท้อนว่า ตัวชั้นน่ารักเหมือนกัน ตัวชั้นมีอะไรที่ดีๆ ซึ่งถ้าไม่มีใครมอง ไม่มีใครมาจีบ เด็กวัยรุ่นก็สรุปว่า ตัวเองไม่ดี จึงต้องไขว่คว้าอยู่ตลอด ถ้าชั้นไม่มีแฟน ชั้นต้องมีให้ได้เพื่อให้รู้สึกดีต่อตัวเอง
อีกปัจจัยหนึ่งขึ้นกับตัวบุคคลด้วยว่า ได้รับการปลูกฝังมายังไง อย่างเช่น ถูกเลี้ยงมาให้มีความรับผิดชอบ เป็นลูกที่ดูแลพ่อแม่ มีน้ำใจ ต่อให้มีแฟนหรือไม่ตัวเด็กคนนั้นก็จะรู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่า พวกเค้าจะไม่รู้สึกว่าการมีใครสักคนเป็นแฟน..เป็นเรื่องจำเป็น หรือมีครอบครัวที่เอาใจใส่เพียงพอแล้ว เค้าก็ไม่จำเป็นที่จะไขว่คว้าหาความเอาใจใส่จากเพศตรงข้าม
สาววัยทำงานยังไม่มีแฟน อายุ 30 แล้วเจอใครสักคนก็หยิบมาเลยโดยไม่พิจารณาว่า คนนั้นเหมาะกับเรามั้ย บางทีคุณไม่รู้หรอกว่า อายุ 32 อาจจะเจอคนที่เหมาะสมก็ได้ เราต้องให้ตัวเราเองกำหนดอีกครึ่งหนึ่งชีวิตว่า เราจะเจออะไร ไม่ใช่ให้ตัวเลขอายุกำหนด อย่าให้ชีวิตที่เหลือไม่มีความสุข เพียงเพราะคุณรีบไปนิดเดียว
หลายคนอยากมีแฟนเพราะเหงา พยายาม ‘มี’ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า ชั้นก็มี ชั้นจะได้ไม่ต้องอายใคร
สาวโสดทั้งหลายถามตัวเองก่อนว่า เรามีมุมมองความคิดกับการอยากออกจากความเป็นโสดยังไง ถ้าจะออกเพราะเหงา อายุ หรือการคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ก็อย่าเพิ่งมีเลยค่ะ
แต่ถ้ามี เพื่อเราจะรักเขาจริง เพื่อการสร้างครอบครัวที่ดีต่อไปในอนาคต และเลือกโดยใช้สมองมากกว่าอารมณ์ จริงๆ แล้ว มันต้องไปด้วยกัน เริ่มแรกคงไม่มีใครใช้สมองอย่างเดียว ล้วนใช้อารมณ์ความรู้สึกก่อนทั้งนั้น แต่ต้องมีการเรียนรู้ ระหว่างคบใช้สมอง คนนี้เข้ากับเราได้มั้ย ในอนาคตจะอยู่ด้วยกันได้รึเปล่า เค้ารักเราจริงใช่มั้ย เค้าเข้าใจเราอย่างที่เราเป็นรึเปล่า เราต้องแกล้งไม่เป็นตัวเรา คอยทำดี เพื่อให้เค้ารักยอมรับเราหรือไม่
การคบกันมันจะมีปัญหาอยู่แล้ว ไม่ว่าปัญหาด้านไหนก็ตาม ดูด้วยว่าเราสองคนช่วยกันไขกันมั้ย ถ้าผ่านไปได้ก็โอเค แต่ถ้ากลายเป็นปัญหาหนักขึ้นเพราะเค้าไม่แก้ เราก็แก้ไม่ได้ หรือเป็นฝ่ายต้องแก้คนเดียว อันนั้นต้องมาทบทวนอีกทีหนึ่งว่า คนนี้ใช่สำหรับเรามั้ย มองไปในอนาคตด้วยว่า ถ้าเราต้องเป็นฝ่ายอดทนมาก มันก็อาจเป็นตัวหนึ่งที่บอกเราว่า คนนี้ไม่เหมาะกับเรา อาจจะใจเย็น ค่อยๆ มองหาคนที่ใช่ คนที่เหมาะกับเรา ซึ่งมีแน่นอนสำหรับเรา เพียงแต่ว่ายังไม่ถึงเวลานั้นต่างหาก”
และระหว่างยังไม่พบ Mr.Right วาเลนไทน์สำหรับสาวโสดน่าจะเป็นวันที่คุณให้ความรักกับพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ เพื่อนๆ คนที่ทำให้คุณรู้ว่าชีวิตตัวเองมีคุณค่าสิ่งดีงามในตัวเองอยู่แล้ว คุณหมออังคณาฝากมาบอกว่า
“เราสามารถให้ความรักกับทุกคนได้ ไม่ใช่แค่เรื่องคู่รัก”
แล้วคุณ-คนไม่มีแฟน..จะไม่เหงาใจเลย ไม่ว่าเทศกาลใด!
ต่อประเด็นนี้ แทนที่จะไปหาหมอดู.. เราพาตัวเองไปโรงพยาบาลมนารมย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางที่ให้บริการด้านสุขภาพจิตแห่งแรกในประเทศไทย
เพราะแค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็ไม่เหงาสักหน่อย
พญ.อังคณา อัญญมณี จิตแพทย์วัยรุ่นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรักความสัมพันธ์ มาแนะนำค่ะ
“ถ้าเราติดว่า วาเลนไทน์มีแต่เรื่องคู่รักเท่านั้น มันก็จะทำให้เรารู้สึกเหงาโดดเดี่ยว เท่ากับเป็นการตั้งวางให้รู้สึกว่ าชีวิตไม่แฮปปี้ แล้วมองคนอื่น อิจฉาเค้า รู้สึกน้องเนื้อต่ำใจ ทำไมชั้นไม่ดีตรงไหน ทำไมป่านนี้ยังไม่แฟน ถ้าเราเอาตรงนี้มาเป็นตัวกำหนด ก็เป็นมุมมองที่ไม่ถูกต้อง
จริงๆ แล้ว ความรักมาจากหลายที่ คนที่เราให้ความรัก หรือคนที่ให้ความรักเรา ไม่ใช่แค่เพศตรงข้าม กรณีคนโสด อยู่คนเดียว ไม่มีแฟน หากเปลี่ยนมุมมองใหม่ จะไม่เหงาเลย ขึ้นอยู่กับมุมมองความคิดของเรา
ชีวิตคนเราแต่ละคนล้วนมีคุณค่า มีคุณความดีความน่ารัก ถ้าเราเอาเรื่องการมีแฟนไม่มีแฟนเป็นตัวตัดสิน มันยิ่งทำให้เราลดคุณค่าตัวเราเองลงไป เพราะคนที่ไม่มีแฟนก็เป็นคนที่มีคุณค่าได้อยู่แล้ว อย่างน้อยถึงเราไม่มีแฟน เราก็มีพ่อแม่ มีญาติพี่น้อง มีเพื่อน มีคนรู้จัก และพวกเค้าก็รักเรา
สาววัยรุ่นมักมองว่า ความรักชายหญิงเป็นเรื่องสำคัญ เอ๊ะ..ไปไหน จะมีหนุ่มๆ มองเรารึเปล่า ถ้ามีคนมองก็เป็นมุมสะท้อนว่า ตัวชั้นน่ารักเหมือนกัน ตัวชั้นมีอะไรที่ดีๆ ซึ่งถ้าไม่มีใครมอง ไม่มีใครมาจีบ เด็กวัยรุ่นก็สรุปว่า ตัวเองไม่ดี จึงต้องไขว่คว้าอยู่ตลอด ถ้าชั้นไม่มีแฟน ชั้นต้องมีให้ได้เพื่อให้รู้สึกดีต่อตัวเอง
อีกปัจจัยหนึ่งขึ้นกับตัวบุคคลด้วยว่า ได้รับการปลูกฝังมายังไง อย่างเช่น ถูกเลี้ยงมาให้มีความรับผิดชอบ เป็นลูกที่ดูแลพ่อแม่ มีน้ำใจ ต่อให้มีแฟนหรือไม่ตัวเด็กคนนั้นก็จะรู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่า พวกเค้าจะไม่รู้สึกว่าการมีใครสักคนเป็นแฟน..เป็นเรื่องจำเป็น หรือมีครอบครัวที่เอาใจใส่เพียงพอแล้ว เค้าก็ไม่จำเป็นที่จะไขว่คว้าหาความเอาใจใส่จากเพศตรงข้าม
สาววัยทำงานยังไม่มีแฟน อายุ 30 แล้วเจอใครสักคนก็หยิบมาเลยโดยไม่พิจารณาว่า คนนั้นเหมาะกับเรามั้ย บางทีคุณไม่รู้หรอกว่า อายุ 32 อาจจะเจอคนที่เหมาะสมก็ได้ เราต้องให้ตัวเราเองกำหนดอีกครึ่งหนึ่งชีวิตว่า เราจะเจออะไร ไม่ใช่ให้ตัวเลขอายุกำหนด อย่าให้ชีวิตที่เหลือไม่มีความสุข เพียงเพราะคุณรีบไปนิดเดียว
หลายคนอยากมีแฟนเพราะเหงา พยายาม ‘มี’ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า ชั้นก็มี ชั้นจะได้ไม่ต้องอายใคร
สาวโสดทั้งหลายถามตัวเองก่อนว่า เรามีมุมมองความคิดกับการอยากออกจากความเป็นโสดยังไง ถ้าจะออกเพราะเหงา อายุ หรือการคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ก็อย่าเพิ่งมีเลยค่ะ
แต่ถ้ามี เพื่อเราจะรักเขาจริง เพื่อการสร้างครอบครัวที่ดีต่อไปในอนาคต และเลือกโดยใช้สมองมากกว่าอารมณ์ จริงๆ แล้ว มันต้องไปด้วยกัน เริ่มแรกคงไม่มีใครใช้สมองอย่างเดียว ล้วนใช้อารมณ์ความรู้สึกก่อนทั้งนั้น แต่ต้องมีการเรียนรู้ ระหว่างคบใช้สมอง คนนี้เข้ากับเราได้มั้ย ในอนาคตจะอยู่ด้วยกันได้รึเปล่า เค้ารักเราจริงใช่มั้ย เค้าเข้าใจเราอย่างที่เราเป็นรึเปล่า เราต้องแกล้งไม่เป็นตัวเรา คอยทำดี เพื่อให้เค้ารักยอมรับเราหรือไม่
การคบกันมันจะมีปัญหาอยู่แล้ว ไม่ว่าปัญหาด้านไหนก็ตาม ดูด้วยว่าเราสองคนช่วยกันไขกันมั้ย ถ้าผ่านไปได้ก็โอเค แต่ถ้ากลายเป็นปัญหาหนักขึ้นเพราะเค้าไม่แก้ เราก็แก้ไม่ได้ หรือเป็นฝ่ายต้องแก้คนเดียว อันนั้นต้องมาทบทวนอีกทีหนึ่งว่า คนนี้ใช่สำหรับเรามั้ย มองไปในอนาคตด้วยว่า ถ้าเราต้องเป็นฝ่ายอดทนมาก มันก็อาจเป็นตัวหนึ่งที่บอกเราว่า คนนี้ไม่เหมาะกับเรา อาจจะใจเย็น ค่อยๆ มองหาคนที่ใช่ คนที่เหมาะกับเรา ซึ่งมีแน่นอนสำหรับเรา เพียงแต่ว่ายังไม่ถึงเวลานั้นต่างหาก”
และระหว่างยังไม่พบ Mr.Right วาเลนไทน์สำหรับสาวโสดน่าจะเป็นวันที่คุณให้ความรักกับพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ เพื่อนๆ คนที่ทำให้คุณรู้ว่าชีวิตตัวเองมีคุณค่าสิ่งดีงามในตัวเองอยู่แล้ว คุณหมออังคณาฝากมาบอกว่า
“เราสามารถให้ความรักกับทุกคนได้ ไม่ใช่แค่เรื่องคู่รัก”
แล้วคุณ-คนไม่มีแฟน..จะไม่เหงาใจเลย ไม่ว่าเทศกาลใด!