ในวาระที่ พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร อายุครบ 96 ปี และ ท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร อายุครบ 92 ปี จนเป็นที่มาของงาน แสดงมุทิตาจิตในโอกาสข้างต้น แก่ปูชนียบุคคลทั้งสอง ผู้เป็นที่รักยิ่งของกัลยาณมิตรหลากรุ่นจากหลายแวดวง อาทิ นักการเมือง นักธุรกิจ ตลอดจนลูกๆ หลานๆ ทายาทซอยราชครู อาทิ ครอบครัวศรียานนท์,ครอบครัวทัพพะรังสี,ครอบครัวชุณหะวัณ,ครอบครัวเชี่ยวสกุล,ครอบครัวปุณณกันต์ ฯลฯ ที่พร้อมใจกันมาร่วมงานอย่างอบอุ่น ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ของ เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพกับครอบครัวอดิเรกสาร จัดงาน “แสดงมุทิตาจิต 96 ปี พลเอก/พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร และครบรอบ 92 ปี ท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร” เมื่อวันก่อน
งานนี้ยังได้รับเกียรติจาก พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา ขึ้นกล่าวอวยพรผู้ใหญ่ทั้ง 2 บนเวที ด้วยความรักและผูกพัน ซาบซึ้งกินใจ ทำให้แขกเหรื่อในงานได้ทราบทั่วกันว่าประสบการณ์ของชีวิตนักการเมืองและหัวหน้าครอบครัว ที่ชื่อ ประมาณ อดิเรกสาร นั้น ล้วนแต่เป็นที่น่าเคารพ และเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย ทั้งในฐานะนักการเมือง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคชาติไทย ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้แทน จ.สระบุรี ติดต่อกันถึง 12 สมัย และยังเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญอีกมาก อาทิ รมช.คมนาคม,รมว.อุตสาหกรรม,รมว.ต่างประเทศ,รมว.มหาดไทย,รมว.เกษตรและสหกรณ์ และรองนายกรัฐมนตรี
ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้คนมากมาย ที่ยังคงเดินทางมาแสดงความยินดีในวันเกิดท่านเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ คำอวยพรของท่านองคมนตรี ยังสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตคู่ของผู้ใหญ่ทั้ง 2 ด้วยว่า ถือเป็นแบบอย่างของการครองเรือนให้คนรุ่นต่อไปได้เป็นอย่างดี เป็นครอบครัวที่สมถะ ยึดคติ ทำดีต้องได้ดี และไม่ว่าจะครองรักกันมานานถึง 69 ปี จนมีทายาทรุ่นเหลนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงเห็นภาพท่านประมาณ ที่คอยดูแลเอาใจใส่ศรีภริยาอย่างใกล้ชิด จนเป็นภาพที่คุ้นตา ถือได้ว่าเป็นปูชนียบุคคลที่น่ายกย่องเป็นแบบอย่างที่ดี
ด้าน พล.ต.อ.ประมาณ เจ้าของวันเกิด ไม่เพียงแต่จะโชว์หอมแก้มท่านผู้หญิงเจริญ ศรีภริยาฟอดใหญ่ เพื่อยืนยันหนักแน่นถึงความรักที่มั่นคง ก่อนบรรจงตัดเค้กก้อนโต ยังโชว์พลังหนุ่มในวัยเกือบ 100 ปี ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อทุกคนด้วยใบหน้าแจ่มใส และย้ำว่า
“วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก คือ ผมได้ผ่านชีวิตมาแล้วถึง 96 ปี และท่านผู้หญิงเจริญคู่ชีวิตของผม ก็มีอายุ 92 ปี ซึ่งเราทั้งสองน่าจะเป็นคู่ที่มีอายุยืนมากที่สุด และได้ใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานอย่างมีความสุขถึง 69 ปี ในปีนี้
ประการที่สอง เราทั้งสองยังมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถมาร่วมงานวันนี้ได้ และยังเป็นบุญของเราที่ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรง ที่จะก่อภาระให้ลูกหลาน
ประการที่สาม ผมมีครอบครัวที่ดีและอบอุ่น โดยมีลูก 2 คน หลาน 8 คน และเหลน ขณะนี้มี 10 คน และกำลังจะมีคนที่ 11 ในเดือนมีนาคม
ประการที่สี่ ผมมีญาติมิตรเพื่อนฝูงมากมาย ที่มีจิตใจเอื้ออาทรต่อกัน มีหลายคนยังไปมาหาสู่กันเป็นประจำ หลายคนไม่ได้พบกันมานานเนื่องจากมีภารกิจของตน แต่วันนี้ท่านเหล่านั้นได้สละเวลามาร่วมงานของเรา ผมดีใจจริงๆ ที่ได้พบปะพวกเรากันอีก ทำให้นึกถึงวันเก่าๆ ที่หลายท่านเคยร่วมงานกับผมมา ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน และหวังอย่างยิ่งว่า ผมคงจะมีบุญและได้พบกับท่านทั้งหลายในอีก 4 ปีข้างหน้า เมื่อผมอายุครบ 100 ปี และท่านผู้หญิงมีอายุครบ 8 รอบ (96 ปี)”
ส่วนของที่ระลึกภายในงาน ครอบครัวอดิเรกสาร ในฐานะเจ้าภาพยังได้จัดพิมพ์ หนังสืออัตชีวประวัติ “อยู่อย่าง ประมาณ ก้าวสู่นักษัตรที่ 9 แห่งชีวิต พลเอก/พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร” หน้าปกสีชมพู แจกให้แขกทุกคน ซึ่งภายในหนังสือเล่มนี้ บรรจุภาพและเรื่องราวในแต่ละช่วงชีวิต ตั้งแต่ เด็กเมื่องเก่า “สระบุรี” ลูกชาวนา กำพร้าพ่อจากเด็กวัดสู่นักเรียนนายร้อย การได้เป็นนายทหารปืนใหญ่ ชีวิตคู่ การเผชิญสงครามมหาเอเชียบูรพา และจังหวะชีวิตที่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงกับวงการเมืองของประเทศ ที่เป็นช่วงพลิกผันชีวิตครั้งสำคัญหลายต่อหลายครั้ง ตลอดจนการรับรางวัลเลี้ยงลูกดีเด่น และการได้อยู่เคียงข้างท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร ผู้ซึ่งทำหน้าที่ “ช้างเท้าหลัง” และถือเป็นมิ่งขวัญของลูกหลานทุกคนใน “ราชครู” ในตระกูล “อดิเรกสาร” และ “ชุณหะวัณ” ผู้คอยค้ำยันผู้นำครอบครัวมาตลอดเวลา