ตลอดทั้งปี 2552 ที่ผ่านมา มีคู่รักจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นจำนวนมาก และในวงการคนดังไฮโซแล้ว ต้องเรียกว่าเกิดปรากฏการณ์คู่รักหลายคู่ต่างพากันสละโสด แต่ถ้าพูดถึงความอลังการแล้ว งานแต่งบางคู่ในปีนี้สามารถลบสถิติอภิมหึมาวิวาห์ของปีที่แล้วลงไปอย่างสมศักดิ์ศรีทีเดียว และถือเป็นปรากฏการณ์ของงานแต่งที่เริ่มมีคอนเซ็ปต์แปลกใหม่เข้ามาให้ฮือฮา จนกลายเป็น Talk of the Town ให้ลือกันสนั่นเมือง
ขณะที่นักการเมืองชื่อดัง ก็สร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย เพราะคนที่ไม่คาดคิดว่าจะแต่งงาน กลับสร้างเซอร์ไพรส์เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์กันอย่างสายฟ้าแลบชนิดที่กองเชียร์ตั้งตัวไม่ติดกันเลยทีเดียว
ส่วนคู่ใดจะถูกจัดให้เป็นสีสันงานวิวาห์แห่งปีลองติดตามกันดู...
อภิมหามหึมาวิวาห์ลูกเจ้าสัว
งานแต่งระดับอภิมหาวิวาห์แห่งปี 2552 ต้องยกให้คู่ของระดับลูกเจ้าสัว 2 ตระกูลใหญ่ของเมืองไทยอย่าง อุราภา เลาหพงศ์ชนะ กับ วรวรรธน์ มาลีนนท์ ลูกชายของ ประวิทย์ มาลีนนท์ ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เพราะเพียงแค่งานหมั้นที่ โรงแรมโอเรียนเต็ล ก็ทำเอารถติดยาวไปหลายกิโล
นอกจากผู้คนจะฮือฮากับความมั่งคั่งของ 2 ตระกูลมหาเศรษฐีเมืองไทย ที่มาเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว เรื่องสินสอดที่ญาติทั้งฝ่ายเจ้าสาวและเจ้าบ่าวต่างกระหน่ำขนมาประเคนกันนั้น ถือว่าธรรมดาสำหรับคนระดับนี้ แต่ที่ยกให้เป็นไฮไลต์แห่งปีคือ ความอลังการของการตกแต่งดอกไม้ในงานแต่งได้รับการกล่าวขานไม่รู้จบ เพราะงานนี้ถึงกับว่าจ้าง แดเนียล ออสท์ นักจัดดอกไม้ชาวเบลเยียม ที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือระดับราชสำนักก็ว่าได้ เพราะเขาได้รับความไว้วางใจจาก "พระราชวงศ์ญี่ปุ่น" ให้จัดดอกไม้ในพระราชพิธีสำคัญอยู่บ่อยครั้ง นี่ยังไม่นับรวมผลงานการสร้างสรรค์ดอกไม้มาอย่างโชกโชน ซึ่งจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานในพิธีส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับประเทศจีน จนเป็นที่กล่าวขานมาแล้วทั่วโลก
ว่ากันว่างบที่ปิดกันให้แซ่ดในการจ้างแดเนียลมาสร้างความอลังการของงานแต่งครั้งนี้ คาดว่าเฉียดๆ เลขเจ็ดหลักแน่นอน
แต่ฝีมือของแดเนียลก็สมราคา เพราะเขาเนรมิตห้องบอลรูมของโรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ ให้งดงามด้วยดอกไม้สีขาว ประหนึ่งว่าอยู่ในวิมานตามความต้องการของเจ้าสาว ขณะเดียวกัน ก็เลือกทำซุ้มดอกไม้รูปหัวใจในคอนเซ็ปต์ “ขาว-เขียว-ทอง” อันงดงาม เพื่อต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ที่สำคัญแดเนียลเลือกใช้ดอกไม้ไทยล้วนๆ มาประดับประดาในครั้งนี้ โดยใช้ดอกกล้วยไม้ไทยสีขาวและดอกบัว เป็นต้น รวมทั้งระดมนักจัดดอกไม้มือดีของกรุงเทพฯ จากทุกโรงแรมมาช่วยงานทั้งหมด
แค่เพียงนาทีเมื่อลงจากรถหน้าโรงแรม แขกที่มาร่วมงานก็ต้องตะลึงกับความงดงามแปลกตาของ Path of Life หรือประตูทางผ่านของชีวิต ที่จัดทำไว้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกคน โดยแดเนียลนำไม้ไผ่ ซึ่งเป็นศิลปะแบบจีนมาทำเป็นซุ้มประตูทางเข้า เติมความงดงามด้วยการผสานวัฒนธรรมดอกไม้ของ 3 ชาติเข้ามาร้อยรวมกัน คือความอ่อนช้อยของไทยผสานกับความอ่อนหวานของญี่ปุ่น และเพิ่มความหรูหราแบบฝรั่ง
เมื่อก้าวเข้าสู่ล็อบบี้ทุกคนจะได้ตื่นตากับน้ำตกที่ล้อมรอบด้วยดอกกล้วยไม้ฟาแลนนอบซีสสีขาว เปรียบเสมือนเมื่อชีวิตเริ่มต้นขึ้นมาก็จะพบกับความสวยงาม และถ้ากวาดตามองไปทั้งด้านซ้ายและขวาจะพบกับกำแพงดอกยิบโซทั้ง 4 แท่งที่ตั้งตระหง่านเป็นเส้นทางนำไปสู่ห้องจัดเลี้ยงชั้นบน ในขณะที่ บันไดทางขึ้นนั้นประดับด้วยดอกเดนโดรเบรียม ส่วนพานดอกไม้ที่เรียงรายอยู่ด้านบนนั้น ใช้ดอกกล้วยไม้สีขาวและดอกรักมาร้อยเป็นพวงมาลัย
เรียกว่า ถ้าไม่มีงานแต่งอภิมหามหึมาวิวาห์ระดับลูกเจ้าสัว ใช่ว่าคนไทยจะมีโอกาสได้เจอะเจอกับนักจัดดอกไม้ฝีมือระดับโลกอย่าง “แดเนียล ออสท์” ได้ง่ายๆ
การเมืองเรื่องของหัวใจ
นักการเมืองแต่งงานถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ปี 2552เรียกได้ว่า เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักในแวดวงการเมือง เพราะนักการเมืองที่แต่งงาน 3 คู่นี้ อยู่เหนือความคาดหมายของคนทั่วไป
สู้อุตส่าห์ทนรอครองตนเป็นโสดเนื้อหอมมานานถึง 54 ปีเต็ม สำหรับ องอาจ คล้ามไพบูลย์ หนุ่มใหญ่ผู้ครองตำแหน่ง ส.ส.ยาวนานของพรรคประชาธิปัตย์ คนนี้ก็ขอโบกมือบ๊ายบายอำลาชีวิตโสด เข้าสู่ประตูวิวาห์เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ท่ามกลางความฉงนงงงวยของคนทั่วไป ส่วนหญิงสาวผู้มาเขย่าหัวใจเป็นนักธุรกิจสาวด้านไอที ดร.หนอย-อโณทัย ศรีกิจจา ที่มีดีกรีทั้งความสวย รวย เก่ง ครบเครื่อง แต่ที่ทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตาร้อนไปตามๆกันก็คือ ดร.หนอย อ่อนกว่าหนุ่มใหญ่เราถึง 18 ปี
งานฉลองสมรสพระราชทานครั้งนี้ จัดขึ้นอย่างอลังการ ณ ห้องคริสตัลฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ซึ่งอบอุ่นไปด้วยบรรดานักการเมืองทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่พากันยุติความขัดแย้งจากสภาวะการเมืองอันร้อนฉ่า ตบเท้ามาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคึกคัก อาทิ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ว่าภาระงานจะมากเพียงไรก็ตาม สำหรับงานนี้อย่างไรก็ต้องมาให้ได้, ชวน หลีกภัย, สุเทพ เทือกสุบรรณ, จาตุรนต์ ฉายแสง, ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร, จักรภพ เพ็ญแข ฯลฯ
ความรักของทั้งคู่ ถ้าใครฟังแล้วอาจจะไม่เชื่อว่า คนทั้งคู่ต่างไม่เคยผ่านการมีแฟนมาก่อน เพราะต่างยุ่งกับงานประจำที่ต้องทำในแต่ละวัน แต่แล้ววันหนึ่งพรหมลิขิตก็ขีดให้ทั้งคู่มาเจอกันและรักกัน ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สุดท้ายก็บ่มรักจนสุกงอมและตัดสินใจเข้าสู่ประตูวิวาห์ก่อนวันวาเลนไทน์เพียงแค่ 13 วันเท่านั้น
ตามด้วยนักการเมืองสาวรุ่นน้อง แบม-จณิสตา ลิ่มเฉลิมวงศ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นดาวสภาที่สร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้กับบรรดานักการเมืองหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในสภาได้แทบทุกวัน โดยเฉพาะ ป๋าเติ้ง-บรรหาร ศิลปอาชา ที่ครั้งหนึ่งเคยออกปากว่า...เพียงได้เห็นหน้าน้องแบมก็มีความสุขที่สุดแล้ว
แต่แล้วหลังจากที่ถูกตัดสิทธิ์ให้เว้นวรรคทางการเมืองไป 5 ปี เธอจึงใช้เวลาที่ว่างจากงานทางการเมืองมาศึกษาดูใจแฟนหนุ่ม โบ๊ท-บุตรรัตย์ จรูญสมิทธิ์ ที่คบกันมาปีเศษอย่างเป็นจริงเป็นจัง เมื่อความรักสุกงอมในวันที่ 16 มิ.ย. 52 ทั้งคู่จึงตัดสินใจรวมสองกายให้เป็นใจเดียวกัน ด้วยการจัดงานฉลองพิธีสมรสพระราชทานอย่างยิ่งใหญ่ขึ้น ณ ห้องรอยัล บอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Book of Love” เพราะความรักก็เปรียบเหมือนหนังสือที่ต้องอ่านจนจบเล่ม กว่าจะรู้ว่าใช่อย่างที่ใจแสวงหาหรือไม่
ทั้งคู่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกอบพิธีสมรสพระราชทาน และพระราชทานโอวาทอันนับเป็นพรมงคลสูงสุดแก่คู่บ่าวสาวว่า “ขอให้ทั้งคู่ครองรักกันนานๆ ครองรักด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันและมีความอดทน”
ค่ำคืนวันนั้นแบมเหมือนเจ้าหญิงที่งดงามด้วยชุดสีขาวสไตล์คอร์เซตชายกระโปรงลากยาวอิมพอร์ตมาจากสหรัฐอเมริกา ว่ากันว่าชุดนี้มูลค่าเรือนแสนเลยทีเดียว บนศีรษะประดับเทียร่า พร้อมด้วยสร้อยคอ ต่างหูเพชรเม็ดงามครบเซ็ต
ภายในห้องบอลรูมและห้องอาหารลอร์ดจิมถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายประดับประดาด้วยกุหลาบสีขาวและกล้วยไม้สีขาวไว้คอยต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานกว่า 1,500 คน แต่ไม่ว่าบรรยากาศภายในงานจะสวยสดแค่ไหนก็คงไม่ดึงดูดสายตาของแขกเหรื่อได้ เพราะทุกคนเมื่อเห็นเจ้าสาวแล้วต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า “คุณแบมเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย” แบมบอกว่า ก็คงเหมือนกับผู้หญิงทุกคนที่เคยมีจิตนาการครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้ามีโอกาสได้เป็นเจ้าสาว ก็จะใส่ชุดเหมือนกับที่ฝันเอาไว้ และวันนี้ความฝันของเธอก็เป็นความจริง
คู่เซอร์ไพรส์สุดท้าย เป็นสาวดาวเด่นของรัฐสภา ที่มีหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ตามมาขายขนมจีบมากที่สุด ไม่เชื่อลองไปถามอดีตนายกรัฐมนตรีหน้าเหลี่ยม หรืออดีตรัฐมนตรีตาเหล่ดูก็ได้ แต่ในที่สุดเมื่อวันที่ 31 ต.ค.52 ดร.อ้อ-ณหทัย ทิวไผ่งาม ก็ตัดสินใจยอมสละโสดแต่งงานกับเจ้าของนักธุรกิจหนุ่มด้านไอทีสายเลือดไทยแคนาเดียน แทน-ธันธเนศ สมบูรณ์ทรัพย์ ถือเป็นวิวาห์สายฟ้าแลบ เพราะใช้เวลาคบหากันไม่ถึงปี ท่ามกลางความปลื้มปีติของญาติสนิทและคนใกล้ชิด ที่มาร่วมแสดงความยินดี ที่แม้ฝ่ายชายจะอายุน้อยกว่าถึง 3 ปี แต่บุพเพฯ ก็อาละวาดให้ทั้งคู่มาเจอกันโดยบังเอิญ ในงานไวน์เทสติ้ง และปิ๊งรักซึ่งกันและกันในที่สุด
สินสอดทองหมั้นในครั้งนั้น ประกอบไปด้วย เครื่องเพชรชุดใหญ่, ทองคำแท่ง, บ้าน และที่ดินประเทศแคนาดามูลค่า 14 ล้านบาท, ที่ดินย่านอโศกกว่า 10 ไร่ และเรือยอชต์ รวมทั้งเงินสดกองใหญ่มูลค่าหลายล้านบาทที่ฝ่ายเจ้าสาวไม่ขอเปิดเผย
คราวนี้ก็เหลือเพียงรอลุ้นว่า จะมีเจ้าตัวเล็กออกมาให้ทั้งคู่ชื่นใจอีกเมื่อไหร่
คู่ทรหด...รักแท้ต้องไม่แพ้ระยะทาง
ความรักของคู่นี้ช่างโรแมนติ๊ก...โรแมนติก สมกับประโยคที่ว่า ระยะทางไม่อาจขวางกั้นความรักของเรา !! เพราะบ้านฝ่ายชาย ดนัยธร จารุพฤกษ์พันธ์ อยู่ถึงจังหวัดสงขลา ส่วนบ้านเจ้าสาว ธัศรัศม์ อภิสิทธิ์อมรกุล อยู่ใกล้ดอนเมือง แต่กามเทพก็แผลงศรให้ทั้งคู่ได้อยู่เป็นคู่ตุนาหงัน ความรักเริ่มขึ้นจากการที่พ่อแม่ของทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้กัน ทุกครั้งที่ฝ่ายชายเข้ากรุงเมื่อไหร่ คุณพ่อกระจ่างจะต้องมีของฝากไปถึงเจ๊เล้ง แต่มาทีไรก็เจอแต่ “น้องหลิน-ธัศรัศม์” จนในที่สุดทั้งคู่ก็เกิดอาการปิ๊งๆๆ และก็เกิดอภิมหางานวิวาห์แห่งปีให้ผู้คนได้ร้องโอ้โหหหหห....
ฝ่ายเจ้าสาวเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ๊เล้งทั้งที ก็ต้องไม่ธรรมดา โดยทั้งคู่เลือกจัดงานหมั้นและแต่งในวันเดียวกัน พิธีหมั้นทำกันที่บ้านฝ่ายหญิง ย่านถนนวิภาวดีฯ เจ้าบ่าวซึ่งมีคุณพ่อเป็นถึงอดีต ส.ว.ของสงขลา แถมยังเป็นนักธุรกิจค้าทองคำและมีรีสอร์ตหรูในภาคใต้หลายแห่ง ดังนั้น ของหมั้นที่ยกมาสู่ขอก็ต้องไม่ธรรมดา ได้แก่ แหวนเพชรรูปหัวใจ ไม่ต่ำกว่า 5 กะรัต ทองคำแท่งอีก 3 กิโลกรัม เข็มขัดทองโบราณฝังเพชรหนัก 50 บาท ยังมีทั้งไพลิน ทับทิม แถมเงินสดมูลค่าเก๋อีก 4 ล้าน 4 แสน 4หมื่น 4 พัน 4 ร้อย 44 บาท
ด้านฝ่ายเจ้าสาวก็ไม่น้อยหน้า งานนี้คุณแม่เล้งทุ่มทุนสร้างเพื่อลูกสาวคนเดียวโดยเฉพาะ โปะเงินสดให้แก่เจ้าบ่าวเท่าๆ กับที่ฝ่ายชายขนมาหมั้น พร้อมด้วยเครื่องเพชร เงินทอง คอนโดฯ หรูมอบให้ทั้งคู่ด้วยมูลค่าถึง 130 ล้านบาท พ่วงท้ายด้วยโฉนดที่ดินอีกหนึ่งแปลง ส่วนงานแต่งตอนเย็นก็ไม่ธรรมดา จัดอย่างยิ่งใหญ่ ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
เห็นว่ากว่าที่ลูกเขยจะมัดใจแม่ยายยอมยกลูกสาวคนสวยให้ ต้องใช้เวลาพิสูจน์ถึง 10 ปี แถมงานแต่งครั้งนี้บวก ลบ คูณ หาร พร้อมกับค่าเครื่องบินเทียวขนของจากสงขลามากรุงเทพฯ ไปกลับรวมแล้วมีมูลค่าถึง 30 ล้าน !!
คู่รักกิ่งทองใบหยก
คู่บ่าวสาวที่ใครเห็นต้องชมว่าสมกันอย่างกับ “กิ่งทองใบหยก” แห่งปี ต้องยกให้คู่ของ ทศพร สิหนาทกถากุล ทายาทคนเล็กแห่งโรงแรมแลนด์มาร์ค ที่ทั้งหล่อและรวย กับ ธีร์พร พร้อมพันธุ์ เจ้าสาวคนสวยที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติ ทั้งด้านการงานและความรู้ ได้โคจรมาพบกัน แถมคุณพ่อของเจ้าสาว นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ยังเป็นถึงอดีตนักการเมืองใหญ่คู่หูนายกฯ มาร์ค งานวิวาห์ครั้งนี้จึงมีแขกเหรื่อมาร่วมงานระดับบิ๊กๆ ทั้งนั้น
เจ้าสาวเป็นถึงลูกสาวอดีตนักการเมือง แขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยานกับทั้งสองก็ต้องไม่ธรรมดา เริ่มตั้งแต่งานหมั้นที่พ่อเจ้าสาวเปิดบ้านหลังหรู ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ต้อนรับว่าที่ลูกเขย โดยมีประธานฝ่ายชายเป็นถึงองคมนตรีอย่าง ศุภชัย ภู่งาม ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้รับเกียรติจาก นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นประธานฝ่ายหญิงอีกด้วย นอกจากนั้น ยังมีนักการเมืองรุ่นใหญ่อีกหลายคนมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น ชวน หลีกภัย, สุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมภริยา และ ชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ไปร่วมงานด้วย
ครั้นถึงพิธีสมรสพระราชทาน เจ้าสาวยังสวยสุดในชุดวิวาห์ที่สั่งตัดพิเศษจากดีไซเนอร์ชื่อดัง ที่ออกแบบชุดเจ้าสาวระดับโลกอย่าง เวรา แวง ลูกครึ่งเชื้อสายจีน อเมริกัน มีห้องเสื้ออยู่ที่นิวยอร์กตัดด้วยผ้าไหมสีขาวกับผ้าซาตินในราคาสูงถึง 6 แสนบาททีเดียว
งานนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จแทนพระองค์เป็นประธานในพิธี โดยมี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยเสด็จด้วย อีกทั้งยังมีเหล่านักการเมืองและผู้บริหารประเทศพร้อมใจกันมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคึกคัก เรียกว่าองค์ประชุมที่สภายังอาย
บรรยากาศในวันแต่งงานถูกเสกด้วยเวทมนตร์แห่งความรัก ดอกไม้สีขาว-เขียว ที่ถูกประดับประดาบ่งบอกถึงความบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยคู่แต่งงานได้ตัดเค้กและนำไปถวายแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พร้อมถวายที่ห้อยกระเป๋าเดินทางสีเขียว ของชำร่วยในงานที่เขียนข้อความว่า Have a lovely Trip สื่อให้เห็นถึงความรักที่ทั้งคู่พบกันบนเครื่องบิน
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ประทานพระพุทธรูปทีปังกรรัศมีโชติ ทำด้วยทองคำแท้จำนวน 2 องค์ เป็นของขวัญแต่งงาน ด้านพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงป้อนเค้กประทานแก่คู่บ่าวสาวด้วย ท่ามกลางความรักที่อบอวลไปทั่วงาน
งานวิวาห์สุดครีเอทแห่งปี
ต้องยกตำแหน่งงานวิวาห์แสนครีเอทของปีให้คู่รัก พัลลภา ภัทรไพศาลสิน ทายาทเจ้าของโรงงานตุ๊กตา แซนต้าแฟคตอรี่ กับ เบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา หลายชายคนโตของตระกูลส่งวัฒนา เจ้าของแบรนด์ฟลายนาว งานนี้ได้ คุณลิ้ม-สมชัย ส่งวัฒนา คุณอาของฝ่ายเจ้าบ่าวมาช่วยครีเอทงาน ระดมมันสมองแถวหน้าของเมืองไทย อย่าง ปู-ชำนัญ ภักดีสุข ดีไซเนอร์ใหญ่ของ Fly Now และ ตือ-สมบัษร ถิรสาโรช ออกาไนเซอร์มือทอง บริหารงบประมาณการจัดงานเกือบ 50 ล้าน เนรมิตบรรยากาศการแต่งงานสุดคลาสสิก ฉีกแนวไม่เหมือนใคร โดยจัดให้มีแฟชั่นโชว์ในงานแต่งครั้งแรกของไทย ภายใต้แนวคิด “Fairy Tale the Inspiration of Love”
ภายในห้องแกรนด์ บอลรูม ของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถูกเนรมิตให้เป็นสวนสวยในยุโรป โดยใจกลางห้องจัดเลี้ยงถูกรังสรรค์ขึ้นให้เป็นเวทีแฟชั่นสำหรับโพสต์ท่าของนางแบบ ประดับตกแต่งด้วยงานตัดฉลุกระดาษ ซึ่งเป็นชิ้นมาสเตอร์พีซของการตกแต่งงานในครั้งนี้ เพราะในงานไม่ได้มีดอกไม้หลากสีให้ดูสิ้นเปลืองและเพิ่มภาวะโลกร้อน
หลังจากม่านผืนใหญ่เปิดขึ้นเผยให้เห็นคู่รักทั้งสองที่ยืนอยู่บนเวทีแฟชั่น ขนาบด้วยนางแบบที่พร้อมใจกันมาเดินอวดโฉมชุดหรูที่ดีไซเนอร์ใหญ่ประจำ Fly Now ได้ครีเอท ไฮไลต์ของโชว์คือชุดเจ้าสาวมูลค่ากว่า 7 หลัก ที่ดีไซเนอร์นำเทคนิคการปริ้นท์ลวดลายดอกไม้สีสันสดใสด้วยอิงค์เจ็ต ลงบนผ้าไหม เนรมิตให้ชุดเจ้าสาวชุดนี้โดดเด่นและแตกต่างกว่าชุดแต่งงานทั่วไป
โอเวอร์ทั้งสถานที่และแฟชั่นแล้ว ของชำร่วยยังเก๋เริ่ดสมกับทายาทเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Fly Now ที่นำผ้าคลุมไหล่ ทำด้วยเส้นใย Bamboo Yarn ที่ DKNY ใช้ทำเสื้อยืดขายตัวละ 300 ดอลลาร์ สนนราคาสูงถึงผืนละ 5,000 บาท มามอบให้แขกเป็นที่ระลึกถึงความอลังการของงานแต่ง
ค่าแต่งก็เกือบ 50 ล้าน อยากรู้จังว่าค่าสินสอดของคู่รักมหาเศรษฐีคู่นี้จะสูงลิบแค่ไหน งานนี้เห็นว่าเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะครอบครัวเท่านั้น แต่ก็แอบมีข้อมูลเล็ดลอดออกมาว่า พ่อเจ้าบ่าวหอบเงินสดไปขอลูกสะใภ้ด้วยค่าสินสอดถึง 8 หลัก ส่วนพ่อเจ้าสาวก็ไม่น้อยหน้า รับไหว้ลูกเขยด้วยรถ BMW Z4 คันหรู แถมยังเตรียมรังนกแท้ กิโลละแสนกว่าบาทแทนผ้าขนหนูที่ใช้เป็นของชำร่วยในพิธียกน้ำชาอีกด้วย
ถือเป็นคู่ปิดท้ายอภิมหึมาวิวาห์แห่งปี 2552 ไปอย่างแฮปปี้