xs
xsm
sm
md
lg

ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์ใส่อารมณ์ให้ชุดอิฟนิ่งเดรส สืบทอดมรดกความประณีต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คงเพราะเธอซึมซับความละเอียดอ่อน และเห็นการทำงานของ “คุณย่าลำยงค์ บุญยรัตพันธ์” แห่งห้องเสื้อระพี มาตั้งแต่เด็ก “ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์” จึงรู้สึกสนุกกับงานออกแบบ และปลื้มใจที่ได้สัมผัสชุดที่สวยงามและมีความประณีตเสมอ และด้วยหนึ่งแรงบันดาลใจที่อยากทำเพื่อผู้หญิงช่างแต่งองค์ทรงเครื่องทุกคน วันนี้เธอจึงได้เปิดห้องเสื้อที่มาจากชื่อของตัวเอง “ภาณุมาศ” (Panumas) ห้องเสื้ออีฟนิ่งเดรส และเครื่องประดับจากงานฝีมือที่มาจากหัวใจรักในการออกแบบของเธอ

หลังจาก “นก-ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์” จบปริญญาโทด้านการบริหารโรงแรมจากสถาบันจอห์นสัน แอนด์ เวลล์ ที่โรดไอแลนด์ และคลุกคลีงานด้านแคเทอริงในโรงแรมชื่อดังอยู่หลายปี จึงเริ่มหันมาศึกษาเรื่องการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าอย่างจริงจังกับคุณย่าลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์ เจ้าของห้องเสื้อระพี และคุณป้าบวรพร สุทธิวานิช กระทั่งมีโอกาสช่วยงานญาติสนิทอย่าง “เจี๊ยบ-พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์” อยู่หลายปี
ด้วยเสน่ห์ของแขนงศิลปะการออกแบบมัดใจเธอหลังจากนั้นจึงบินไปศึกษาต่อด้านการออกแบบแฟชั่นที่ เลกอ เฟลอรี เดอลาปอร์ต (L’Ecole fleuri Delaporte) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และระหว่างนั้นก็ยังฝึกปรือฝีมือด้านการออกแบบตัดเย็บอยู่ไม่ขาด ในที่สุดก็สร้างแบรนด์ของตัวเอง
“ตอนแรกไม่รู้ตัวว่าชอบ เพียงแต่ว่าเราอยู่กับคุณย่า (คุณลำยงค์ บุญยรัตพันธ์) ได้เดินทางไปซื้อผ้ากับท่าน ก็ซึมซับมาเรื่อยๆ โดยเราไม่รู้ตัว พอมีโอกาสเข้าไปช่วยงานอาเจี๊ยบ-พิจิตรา ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ยูนิฟอร์มของโรงแรม ซึ่งใกล้กับงานเดิมที่เราเคยทำอยู่ เราจะรู้ว่าตำแหน่งในโรงแรมมีอะไรบ้าง ก็เลยช่วยคุณอาได้ในตอนนั้น เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เราเข้ามาสู่วงการเสื้อผ้า”

ก่อร่างสร้างภาณุมาศ
เมื่อได้ชิมลางในงานด้านเสื้อผ้าบ้างแล้ว ทำให้เธอจุดประกายว่าน่าจะทำแบรนด์ของตัวเองบ้าง เธอจึงหยิบชื่อของเธอนั่นเองมาเป็นชื่อแบรนด์ “ภาณุมาศ”...แบรนด์ที่ใส่ความเป็นสาวมีรสนิยมของเธอเข้าไป
“เคยช่วยคุณอาทำงาน แล้วเมื่อหันมามองความชอบของตัวเองก็คิดว่าอยากทำแบรนด์เสื้อผ้า ซึ่งเราเองก็มีเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้อยู่แล้ว จนวันหนึ่งทุกอย่างพร้อมก็เริ่มเซ็ตทีมช่างแพตเทิร์น ช่างตัดเย็บ ซึ่งก็เป็นมืออาชีพที่ได้รับการฝึกอย่างดีจากคุณย่า ประจวบกับได้สถานที่ก็เลยสามารถเปิดร้านอย่างเต็มรูปแบบ
ถึงแม้จะเปิดร้านแล้ว แต่ก็ยังศึกษาโน่นนี่อยู่ตลอด เพราะเราเป็นคนไม่หยุดนิ่งชอบศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอด ถ้าเราหยุดนิ่งเสื้อผ้าเราก็คงไม่น่าสนใจ ทุกวันนี้ก็ยังเรียนรู้เรื่องแพตเทิร์นอยู่ เคยคิดว่าอยากเรียนจริงจังแต่ด้วยเวลาคงลำบาก
แบรนด์เราเน้นถึงความคลาสสิก เรียบโก้ แต่เราจะแตะเรื่องของเทรนด์ด้วย เช่น ซีซั่นนี้สีอะไร ลวดลายอะไร ส่วนใหญ่แล้วเวลาออกแบบจะชอบสไตล์ยุค 80’s ที่เป็นเดรสจับจีบถ่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำยากมาก แต่ถ้าเรารู้จักใช้ เทคนิคนี้จะทำให้ช่วยพรางรูปร่างได้
ช่วงปลายปีเทศกาลจะเยอะมาก ซึ่งเป็นโอกาสของดีไซเนอร์ไทยที่จะสามารถใส่ความสนุกและความสวยงามได้เต็มที่ และด้วยความที่เราเป็นชุดออกงาน ถ้าทำตามต่างประเทศที่คอลเลกชั่นในช่วงฤดูหนาวจะเป็นสีขรึมๆ อย่างดำ เทา บางครั้งการไปงานมงคลคนไทยยังถืออยู่ เราก็อาจจะไม่ได้ตามต่างประเทศมากนัก ขอเป็นสไตล์สวยคลาสสิกมีกลิ่นอายตามเทรนด์หน่อยๆ ใส่ได้ทั้งปีดีกว่า”
แม้ว่าก่อนหน้านี้งานที่เธอผูกพันอยู่ด้วยเป็นเวลาถึง 5 ปี จะเป็นงานด้านโรงแรม แต่เธอก็ได้หยิบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มาใส่ไว้ในงานด้านเสื้อผ้าของเธอด้วย
“งานเสื้อผ้ากับงานโรงแรมเป็นงานด้านบริการเหมือนกัน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้มาคือ “Never say NO to the guest” ต้องทำให้ลูกค้าประทับใจที่สุด ซึ่งเราก็เอามาปรับกับงานร้านเสื้อ เพราะเรามีทั้งสำเร็จรูปและสั่งตัด เพื่อให้เหมาะกับรูปร่าง ซึ่งเราพยายามดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด”

สืบทอดมรดกความประณีต
เพราะว่าเป็นหลานสาวคนโปรดของคุณย่า-ลำยงค์ ที่มักจะชักชวนหลานสาวคนนี้ไปเดินเลือกซื้อผ้า และสอนเรื่องแพตเทิร์นอยู่เสมอ หลายสิ่งจึงซึมซับเข้ามาโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้สึกอีกทีก็เมื่อเธอได้ทำแบรนด์ของตัวเองและต้องคุมงานทุกขั้นตอน ทำให้เธอนึกถึงทุกสิ่งที่คุณย่าเคยพร่ำสอน
“งานเสื้อเป็นงานที่ละเอียดอ่อนมาก เราต้องควบคุมตั้งแต่ออกแบบ สร้างแพตเทิร์น ซึ่งถ้าไม่ถูกใจก็ปรับจนกว่าจะดีที่สุด คุณย่าจะสอนเสมอว่า เสื้อแบบเดียวกัน แต่แพตเทิร์นไม่เหมือนกัน ก็จะทำให้เสื้อดูแตกต่างกัน ฉะนั้นเราต้องมีแพตเทิร์นที่ดี และมีการตัดเย็บเนี้ยบ
มีหลายสิ่งที่เราได้มาจากคุณย่าเพราะเราเดินตามท่านตั้งแต่เด็กๆ เทคนิคที่ได้มาจากคุณย่า คงจะเป็นเรื่องของรสนิยมและความละเอียดรอบครอบ ในเรื่องการตัดเย็บและแพตเทิร์น ท่านจะสอนให้เรารู้จักเนื้อผ้า การเลือกผ้า ต้องพิถีพิถันมาก ตอนเปิดร้านคุณย่าก็สนับสนุนมาก ให้คำปรึกษาตลอด ตอนเปิดร้านวันแรก คุณแม่สามีเป็นลูกค้าเบอร์หนึ่ง คุณย่าก็มาช่วยเรื่องฟิตติ้ง ทำให้เราเห็นว่าท่านละเอียดมาก
อีกส่วนที่ได้มาจากท่านคือ การบริหารงาน ท่านให้ใจลูกน้อง ดูแลทุกคนเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งตรงนี้เองเมื่อบวกกับความที่เราเคยเป็นลูกน้องมาก่อน ก็จะรู้ว่าลูกน้องรู้สึกอย่างไร เราจึงให้ความกันเองกับคนที่เราทำงานด้วย ถามสารทุกข์สุขดิบ ให้ใจกัน และเป็นคนพูดตรงๆ แต่ที่พูดไม่ใช้ว่าโกรธหรือเกลียด แต่อยากให้งานโดยรวมทุกอย่างออกมาดี เพราะจุดประสงค์ในการทำงานของเราทุกคนคือต้องการให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี”

ครอบครัวสมบูรณ์แบบ
นอกจากเรื่องแบรนด์ภาณุมาศที่น่าสนใจแล้ว ในเรื่องครอบครัวและความเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่อย่าง “จิราธิวัฒน์” ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน ซึ่งวันนี้เธอก็ได้สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของตัวเองแล้ว
“กับสามีคุณกิ๊ด-ธีระเกียรติ จิราธิวัฒน์ เจอกันตอนไปเรียนต่อด้านโรงแรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคุณพ่อสามี (คุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์) รับบริหารธุรกิจโรงแรม ได้ส่งลูกชายไปเรียนเรื่องการจัดการโรงแรม ส่วนเราก็อยากเรียนเรื่องโรงแรมอยู่แล้วก็ไปเรียนแล้วพบกัน เขาก็เข้ามาแบบนิ่งๆ เป็นพี่ชายมาคอยเทกแคร์น้อง เพราะว่าต่างถิ่นด้วย พี่เขาก็ดูแลเอาใจใส่เราดี จากนั้นจึงค่อยๆ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน นิสัยก็เข้ากันได้ดี เขาเป็นคนตรงๆ ดีเสมอต้นเสมอปลาย เรารู้จักกันมา 17 ปีแล้ว อดีตเคยดูแลเราดีอย่างไรปัจจุบันก็ยังเหมือนเดิม มีความเป็นแฟมิลี่แมนมาก”
จนวันนี้ก็มีพยานรักแล้วถึง 3 คนด้วยกัน คือ ลูกสาวคนโต เฟน-อติภา วัย 8 ขวบ ลูกชายคนกลาง ฟร้อง-อิทธิวัฒน์ 6 ขวบ และลูกสาวคนเล็กเฟบ-สุพิชชา 4 ขวบ ซึ่งตัวเธอเองบอกว่าไม่เคยสปอยด์ลูก แต่กลับสอนให้เขาได้รู้จักโลกของความเป็นจริงมากที่สุด
“ในเรื่องการเลี้ยงลูกเราพยายามทให้ความรู้สึกว่าเป็นเพื่อน ไม่ให้ลูกมีความลับกับเรา ไม่บังคับให้เขาทำอะไรหรือเรียนอะไร แต่จะดูว่าเขาถนัดด้านไหน แล้วเราก็สนับสนุนเขาในด้านนั้น เราคิดว่าลูกของเรามีโอกาสดีกว่าเด็กหลายๆ คน แต่ด้วยความที่สิ่งแวดล้อมบางอย่างอาจจะสปอยด์เขาโดยเราเองไม่รู้ตัว เราจึงพยายามไม่ให้เขายึดติดกับอะไรมากเกินไป ให้เขาเห็นโลกกว้าง พาไปเที่ยวตลาดน้ำ ไปขี่จักรยานในสวนสาธารณะ ขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน ไปดูถ้ำ สอนความเป็นปกติธรรมดาของชีวิตมนุษย์ ให้เขารู้จักโลกของความเป็นจริง บางทีตัวเองกับสามีกลับบ้านมาเหนื่อยๆ เราสองคนก็นั่งมองหน้าลูก แล้วก็ภูมิใจที่อย่างน้อยเราก็ช่วยกันสร้างครอบครัวมีลูกที่น่ารัก”

ตัวตนภาณุมาศ
เพราะมีหลายบทบาทในคนคนเดียว อย่างไรก็ตาม เธอยังคงไม่ทิ้งเรื่องการดูแลตัวเอง ก็แหมเกิดเป็นผู้หญิงนี่นา!
“ดูแลตัวเองเยอะนะ ทั้งออกกำลังกาย ทั้งกินวิตามิน เกิดเป็นผู้หญิงต้องทำเลยนะ ต้องดูแล ขัดตัว นวดหน้า เหนื่อยหน่อยแต่ก็ต้องรักสวยรักงาม
ส่วนเรื่องสไตล์ของตัวเองชุดที่เราออกแบบในภาณุมาศนั่นแหละตัวเราเลย คำจำกัดความง่ายๆ คือ เรียบแต่ไม่เรียบ นิ่งแต่ไม่นิ่ง โก้มีสไตล์นิดนึง มีลูกเล่นให้ดูสนุก ส่วนใหญ่ชอบใส่แซก เพราะทุกวันนี้ต้องรีบเร่งกับลูก 3 คน แต่เป็นคนชอบสีเทามากเห็นอะไรสีเทาซื้อหมด กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา ในตู้เสื้อผ้าก็จะเน้นเป็นสีดำ เทา เบจ ไม่ได้ติดกับแบรนด์มากแต่ขอให้คุณภาพดีก็พอ”
ณ ตอนนี้เรียกได้ว่าชีวิตเธอมีความสุขอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้เห็นการชื่นชมจากลูกค้ารอบข้าง มีครอบครัวที่ดีมีลูกที่น่ารัก เท่านี้เธอก็มีความสุขแบบสุดๆ แล้ว

Credit
นางแบบ
:: ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์
เสื้อผ้า :: ภาณุมาศ (Panumas) มีจำหน่ายที่ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัล เวิลด์
แต่งหน้า :: จีรวัฒน์ วรรธนะวิริยะกุล จากเครื่องสำอางลังโคม โทรศัพท์ 0-2684-3000
ประสานงาน :: สิริลักษณ์ เขตร์กุฎี
ช่างภาพ & สไตลิสต์ :: จิน ธรรมโชติ
บรรณาธิการแฟชั่น :: ไซม่อน



กำลังโหลดความคิดเห็น