ด้วยกลยุทธ์ของหัวเว่ย (HUAWEI) ที่เน้นนำเสนอเรื่องของ Seamless AI Life ในการใช้ชีวิต และการทำงาน พร้อมกับการเปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ HUAWEI MateBook D ซีรีส์ออกมาทำตลาด ด้วยการอัปเกรดซีพียูเป็น 11 Gen Intel เพื่อให้รองรับการใช้งานมากขึ้น พร้อมแพลนจะนำรุ่นที่ใช้ 12 Gen Intel มาวางจำหน่ายในอนาคตด้วย
การใช้งาน HUAWEI MateBook D Series ที่มีกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 และความสามารถใหม่ของ HUAWEI PC Manager ที่รองรับฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ทำให้ MateBook D Series สามารถทำงานเป็นศูนย์กลางการใช้งานของทุกดีไวซ์ได้
ลักษณะการทำงานของ HUAWEI Super Device คือสามารถใช้โน้ตบุ๊กเชื่อมต่อไปใช้งานแบบไร้สายร่วมกับอุปกรณ์อื่นไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต จอมอนิเตอร์ จนถึงจอแสดงผลขนาดใหญ่อย่าง Vision S ให้ทำงานร่วมกันได้แบบไร้รอยต่อ
เชื่อมต่อ MateBook คู่กับ P50 Pro
รูปแบบการใช้งานแรกที่เชื่อว่าหลายคนจะใช้งานกันบ่อยมากที่สุดคือ การทำงานร่วมกันระหว่างโน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน โดยที่ผ่านมาหัวเว่ยนำเสนอทั้ง One Hop และ HUAWEI Share มาให้ใช้งานกันอยู่แล้ว พอเปลี่ยนมาเป็น Super Device ก็ทำให้ฉลาดขึ้น และใช้งานได้หลากหลายขึ้น
ขั้นตอนการเชื่อมต่อก็สะดวกมากเพียงล็อกอินใช้งาน HUAWEI ID และเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กเดียวกัน หลังจากนั้นเปิดหน้าจอ HUAWEI Share ขึ้นมาจะเห็นสัญลักษณ์ของ MateBook D Series ที่ใช้งานอยู่ตรงกึ่งกลาง ล้อมรอบด้วยดีไวซ์อื่นๆ ที่พร้อมให้เชื่อมต่อ
อย่างกรณีต้องการเชื่อมต่อกับ P50 Pro ก็สามารถลากไอคอน P50 Pro เข้ามาเชื่อมต่อกับ MateBook ได้ทันที หลังจากนั้นจะปรากฏเป็นหน้าจอสมาร์ทโฟนป็อปอัปขึ้นมาให้สามารถควบคุมใช้งานได้จากบนโน้ตบุ๊ก ช่วยให้เวลาที่ต้องการข้อมูล หรือเปิดใช้งานแอปบน P50 Pro ทำได้บนโน้ตบุ๊กทันที โดยไม่ต้องหยิบเครื่องขึ้นมา
หลังจากเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถเปิดหน้าต่างเพิ่มเพื่อใช้งานหลายแอปได้สูงสุด 3 หน้าจอ และยังรองรับการโยนไฟล์ข้ามไปมาระหว่างสมาร์ทโฟน และโน้ตบุ๊กด้วย อย่างกรณีที่ต้องการใช้รูปจากบน P50 Pro ที่ถ่ายมาสามารถลากรูปที่ต้องการมาไว้บนเดสก์ท็อปได้ทันที
นอกจากนี้ ตัวเครื่องโน้ตบุ๊กยังสามารถมองเห็น P50 Pro หรือแม้แต่แท็บเล็ต MatePad ที่กลายเป็นเหมือน Extermal Harddisk เชื่อมต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ด้วย ที่สำคัญคือสามารถใช้ระบบค้นหาไฟล์จากในคอมพิวเตอร์เพื่อหาไฟล์เอกสารต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้
รวมถึงความสามารถในการรับสายโทรศัพท์จากบนโน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่การใช้งานวิดีโอคอล ที่จะสลับมาใช้กล้องของโน้ตบุ๊กแทน ทำให้เวลาทำงานแทบไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเลย เพราะสามารถควบคุมได้จากหน้าจอโน้ตบุ๊กอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดในการทำงานของ Super Device คือสามารถเชื่อมต่อได้เพียงคู่เดียวเท่านั้น กรณีที่ใช้งาน MateBook คู่กับจอมอนิเตอร์ MateView แบบไร้สายอยู่แล้วต้องการเชื่อมต่อกับ P50 Pro หรือ MatePad 11 ที่เชื่อมต่อจอมอนิเตอร์ไว้ก็จะหลุดออกไป ดังนั้น ถ้าให้ใช้งานได้ครบที่สุดอาจจะต้องผสมผสานร่วมกันระหว่างการเชื่อมต่อแบบมีสาย และไร้สาย เพื่อให้โต๊ะทำงานออกมาครบ พร้อมใช้งานมากที่สุด
Pop-Up Pairing เชื่อมต่อบลูทูธสะดวกขึ้น
อีกความสามารถใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาในอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ของ HUAWEI คือมากับฟีเจอร์อย่าง Pop-Up Pairing ที่จะช่วยให้จับคู่โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน เข้ากับอุปกรณ์บลูทูธทั้งหูฟังไร้สาย เมาส์ไร้สาย คีย์บอร์ดไร้สาย และลำโพงไร้สายได้สะดวกขึ้น
อย่างลำโพงไร้สาย HUAWEI Sound Joy ที่หัวเว่ย ทำงานร่วมกับ Devialet มาทำลำโพงแบบ 2 ทิศทาง ลำโพง 4 ตัว ที่ประกอบด้วยลำโพงความถี่เต็ม 1 ตัว ทวีตเตอร์ 1 ตัว และ Passive Radiator 2 ตัว มาช่วยเก็บทุกรายละเอียดเสียง รองรับการใช้งานต่อเนื่อง 26 ชั่วโมง จากแบตเตอรรี่ 8,800 mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W ผ่าน USB-C
จุดเด่นสำคัญของ HUAWEI Sound Joy คือการจับคู่ลำโพงเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้เสียงแบบสเตอริโอรอบทิศทางมากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับพลังเสียงจาก Devialet ทำให้ประสบการณ์ใช้งานลำโพงไร้สายรุ่นนี้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และกลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เวลาใช้งานเพื่อความบันเทิง
HUAWEI MateBook D Series วางจำหน่ายแล้วในราคาเริ่มต้น 22,990 บาท ส่วนลำโพงไร้สาย HUAWEI Sound Joy พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 15 เมษายน ในราคา 4,999 บาท