ก่อนที่เราจะไปไกลถึงเรื่อง IoT (Internet of Things) เราลองมาทำความคุ้นชินกับเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริงอย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่แม่บ้านสมัยใหม่ถวิลหากันสักที วันนี้ทีมงานได้ Mister Robot Mars หุ่นยนต์ยนต์ดูดฝุ่นที่มากไปด้วยความสามารถ และราคาเอื้อมถึงมาทดสอบ เราลองมาดูกันว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ราคาลดลงมาเหลือเพียงหมื่นต้นๆจะสามารถตอบสนองการทำความสะอาดบ้านได้อย่างที่แม่บ้านยุคใหม่ต้องการหรือไม่
การออกแบบและสเปก
หลังจากที่เปิดกล่องออกมาต้องบอกว่าร้องว้าวได้เลย เพราะ Mister Robot Mars ถูกออกแบบมาให้มีความคล้ายคลึงกับแมลงที่เราคุ้นเคยนั่นก็คือแมงเต่าทองนั่นเอง (จริงๆเค้าตั้งใจออกแบบมาให้เป็นตัวอะไรผมก็ไม่รู้นะครับ แต่เอาเป็นว่าลูกชายผมเค้าเห็นครั้งแรกเค้าเรียกบั๊กก็เอาตามนั้นเลย) ตัวเครื่องส่วนใหญ่เป็นวัสดุพลาสติกเคลือบสีแดงทับทิมสด ซึ่งมาพร้อมแนวเส้นสายของการออกแบบวัสดุจากด้านมนวิ่งออกปลายแหลมให้ความรู้สึกของปีกแมลงได้ดีจริงๆ และถัดขึ้นมาด้านบนมีการวางไฟแสดงสถานะและเซ็นเซอร์ที่เป็นเสมือนตานำทาง ส่งผลให้การออกแบบโดยรวมพุ่งเป้าไปที่แมลงอย่างที่ลูกผมเข้าใจแน่นอน
ด้านหน้า - นับเป็นส่วนที่มีความสำคัญเพราะเป็นด่านแรกของการปะทะเมื่อต้องเดินหน้าสร้างรูปแบบพื้นที่ในการเปิดใช้งานในพื้นที่นั้นๆครั้งแรก โดยมีลักษณะเป็นแผ่นโค้งสีดำรับกับการออกแบบโดยรวม มีขนาดโค้งรับแค่แนวด้านหน้า ซึ่งเมื่อกดเข้าไปจะสามารถยุบตัวและคืนตัวเสมือนมีโช้คอยู่ด้านใน
ด้านบน - นอกจากจะมีลวดลายอย่างที่บอกแล้ว ตรงกลางยังมีตราสัญลักษณ์ของ Mister Robot อยู่ พร้อมทั้งปุ่มเปิดปิดเครื่องแบบสัมผัสอีก 1 ปุ่มใหญ่ อีกทั้งยังมีไฟสีน้ำเงิน 6 ดวง บ่งบอกสถานะของแบตเตอรี่และการทำงาน ขณะที่ด้านหน้าสุดมีก้อนสีดำใหญ่วางอยู่ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ที่เป็นเสมือนตาที่จะคอยนำทางให้ Mister Robot Mars เดินทางเข้าหาพื้นที่สกปรกได้อย่างสมบูรณ์
ด้านหลัง - เลือกใช้เป็นช่องระบายอากาศโดยออกแบบเป็นรวงผื้งสีขาว เป็นแนวโค้งเว้าตามรูปทรง รับกับขอบสีดำที่เดินมาโดยรอบ ขณะที่ตรงกลางมีปุ่มเปิดฝาด้านบนสำหรับเก็บกล่องใส่มุลฝอยที่ดูดเข้าไปในกล่อง และด้านล่างสุดเป็นช่องสำหรับเสียบสายชาร์จตรงเข้าเครื่อง
ด้านใน - ภายในของตัวเครื่องเมื่อกดเปิดขึ้นมาจากด้านท้าย จะเป็นช่องสำหรับวางกล่องดักมูลฝอยหรือสิ่งปฏิกูลที่ถูกดูดขึ้นมา ซึ่งกล่องดังกล่าวจะมีหูจับที่สามารถพับลงได้เมื่อวางลงในตัวเครื่อง อีกทั้งยังมีส่วนของฝาปิด-เปิดที่มาพร้อมตัวล็อกแบบกดเข้าล็อกช่วยให้สะดวกเมื่อต้องการยกเทมูลฝอย โดยจะมีช่องเสียบแผ่นกรองอยู่ด้านหน้า สามารถถอดล้างได้อย่างสะดวก
ด้านล่าง - ส่วนนี้นับเป็นหัวใจของการทำงานทั้งหมดเนื่องจากด้านล่างนี้จะเป็นส่วนของช่องดูดฝุ่นที่มีกำลังดูดอย่างดีเยี่ยม มาพร้อมแปรงปั่นแบบเกลียวที่พร้อมจะปัดพื้นและดูดทุกสิ่งที่เข้ามาในพื้นที่ระยะดูดได้อย่างทันที อีกทั้งยังมีแปรงแบบสามขาอยู่ทั้ง 2 ด้าน ช่วยปัดเศษฝุ่นเข้ามาในระยะทำงานของช่องดูดได้อีกทางหนึ่ง
การทำงานของล้อขนาดใหญ่ด้านหลังทั้งสองแบบล้อยางตะกรุยซึ่งสามารถยกตัวให้พ้นสิ่งกีดขวางได้อย่างสะดวก ขณะที่ล้อด้านหน้าแบบหมุนรอบทิศทางก็ดูมีความแน่นหนาอย่างเหมาะสม ซึ่งล้อดังกล่าวมาพร้อมหน้ายางขนาดใหญ่ช่วยให้สามารถไตร่ระดับที่ลาดเอียงได้ถึง 15 องศา
อีกทั้งแผ่นเหล็กที่เห็นเป็นสีเหรี่ยมทั้ง 2 ด้าน เป็นส่วนของหน้าสัมผัสของการชาร์จไฟเมื่อเครื่องวิ่งกลับเข้าสู่แท่นชาร์จอย่างอัตโนมัติ
ด้านช่องดูดสามารถถอดตัวครอบพลาสติกด้านหน้าออกเพื่อช่วยให้ทำความสะอาดด้านแปรงปัดได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยแนะนำว่าควรหมั่นทำความสะอาดแปรงปัดเนื่องจากเศษผมและเศษเส้นด้ายอาจจะเข้าไปพันแกนจนขัดการทำงานของระบบขับเคลื่อนได้
นอกจากนี้ Mister Robot Mars ยังสามารถเพิ่มเติมส่วนของผ้าถู โดยนำมาเข้าล็อกกับด้านในของล้อ เพื่อช่วยเพิ่มความสะอาดในพื้นที่เรียบและอ่อนนุ่มได้เป็นอย่างดี
และที่สำคัญ ด้านล่างของ Mister Robot Mars ยังเป็นที่วางของเซ็นเซอร์ทั้ง 5 จุดโดยรอบ เพื่ออ่านค่าความหนาแน่นของสิ่งสกปรก ตลอดจนระยะความปลอดภัยของพื้นต่างระดับ เพื่อสามารถหยุดหรือเปลี่ยนเส้นทางไปในทิศทางที่ปลอดภัยอย่างอัตโนมัติ
Mister Robot Mars ยังมาพร้อมแท่นชาร์จที่เป็นเสมือนฐานบัญชาการ โดยตัวแท่นชาร์จดังกล่าวจะมีส่วนของปุ่มกดเพื่อตั้งเวลา และปุ่มโปรแกรม Full Go เพื่อให้เครื่องทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยด้านล่างจะมีหน้าปัดเรืองแสงสีแดงแสดงผลอยู่ภายในทั้งวันและเวลา พร้อมเตือนสถานะการตั้งเวลาทำงานอีกด้วย ขณะที่ด้านฐานจะมีลักษณแบนราบ พร้อมปุ่มโลหะ 2 ปุ่ม เพื่อรับกับหน้าสัมผัสโลหะที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่องเพื่อชาร์จไปเข้าสู่ตัวเครื่อง Mister Robot Mars นั่นเอง
Mister Robot Mars มาพร้อมพลังดูดแรงด้วยเทอร์โบมอเตอร์พร้อมแปรงหมุนบิดเกลียว โดยสร้างเสียงรบกวนเทียบเท่าการสนทนาปกติในระดับ 60 เดซิเบล นำทางด้วยระบบเซนเซอร์ป้องกันการชน ติดตั้งผ้าถูพื้นแบบไมโครไฟเบอร์ ทำงานด้วยแบตเตอรี่ Lithinium Ion 2,200 มิลลิแอมป์ ช่วยเพิ่มระยะเวลาทำงานได้นานขึ้นมากกว่าแบตเตอรี่ธรรมดา 50% ครอบคลุมพื้นที่การทำงานกว่า 120 ตารางเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง สามารถทำความสะอาดได้ต่อเนื่องนานถึง 90 นาที พร้อมแผ่นกรอง Hepa Filter ช่วยกรองฝุ่นละออง อนุภาคขนาดเล็กได้สูงสุดถึง 99.97% สามารถตั้งเวลา วันทำงานได้ล่วงหน้าสูงสุดถึง 7 วัน และกลับแท่นชาร์จได้เอง เมื่อแบตเตอรี่กำลังจะหมด
ขนาดตัวเครื่อง กว้าง 36 มิลลิเมตร ยาว38 มิลลิเมตรและสูง 8 มิลลิเมตร ด้านหน้ากว้างเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร กว้างมากกว่ารุ่นอื่นๆในตลาดกว่า 135% ระยะขนแปรงกวาดทั้ง 2ด้านยาวกว่า 231 มิลลิเมตร มากกว่ารุ่นอื่น 60% ครอบคลุมระยะการกวาดเข้าสู่ระบบดูดกว่า 418 มิลลิเมตร ด้านแปรงเกลียวดูดกว้าง 218 มิลลิเมตร ติดตั้งผ้าถูแบบไมโครไฟเบอร์ขนาด 187x70 มิลลิเมตร สามารถทำงานบนพื้นที่แตกต่างได้ทั้งพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ พื้นพรม และพื้นหินเรียบ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
Wall Detector Sensor เซนเซอร์ป้องกันการชน กำแพงหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมที่แถมมาพร้อมกับตัวเครื่อง โดยเป็นเซ็นเซอร์ที่เป็นเสมือนกำแพงกั้นไม่ให้เครื่องผ่านเข้าไปทำงานอีกฝั่งได้ ซึ่งวิธีการใช้ก็แสนง่ายดาย เพราะเพียงแค่กดปุ่มให้เป็น สีแดง แล้วนำไปวางกั้นไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ Mister Robot Mars ก็จะตรวจจับเซ็นเซอร์นี้และไม่ผ่านเข้าไปอย่างแน่นอน
Powerful Vacuum Power พลังดูดแรงด้วยเทอร์โบมอเตอร์ที่ให้พลังหมุนสูงสุดถึง 10,000 รอบต่อนาที สามารถเพิ่มระดับความเร็วรอบได้ถึง 3 ระดับแบบอัตโนมัติเมื่อตรวจพบสิ่งสกปรก ทำให้หมดกังวลกับฝุ่นผงขนาดเล็ก รวมถึง ขนสัตว์เลี้ยงต่างๆได้แบบอยู่หมัด
รูปแบบทิศทางการทำงาน 4 แบบอัตโนมัติ แบ่งเป็น 1.Straight Ling Mode จะเริ่มวิ่งออกด้านข้าง วิ่งลงและวิ่งกลับ ซึ่งจะทำเช่นนี้เรื่อยไป 2.Along Wall Mode เป็นรูปแบบการวิ่งชิดขอบกำแพงเป็นสี่เหลี่ยมของขอบกำแพง 3.Auto Mode เป็นการวิ่งทำงานแบบอัตโนมัติตามการตรวจพบสิ่งสกปรกผ่านระบบเซ็นเซอร์ 4.DIY Remote Mode เป็นรูปแบบการวิ่งทำงานตามทิศทางการบังคับด้วยรีโมทโดยผู้ใช้งานเอง
กล่องเก็บฝุ่นแบบพลาสติก ที่ช่วยลดต้นทุนจากการเปลี่ยนต่อครั้งได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเมื่อดูดฝุ่นเต็มแล้ว ก็เพียงแค่นำออกมาเททิ้งและทำความสะอาด ก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างทันที ต่างจากการใช้เป็นถุงกระดาษที่มีอายุการใช้งานไม่ยาวนาน และเป็นของสิ้นเปลืองอย่างที่ไม่ควรจะเป็นเช่นในอดีต
ระบบการกรองฝุ่นขนาดเล็กด้วยตัวกรองแบบ Hepa Filter (High-efficiency particulate arrestance) ที่สามารถกรองฝุ่นละออง อนุภาคขนาดเล็กได้สูงสุดถึง 99.97% อีกทั้งยังสามารถถอดเปลี่ยนหรือล้างได้อย่างสะดวก โดยติดตั้งอยู่ที่กล่องเก็บฝุ่นนั่นเอง
ระบบ Time Scheduling ที่ตัวแท่นชาร์จสามารถตั้งเวลา วันทำงานได้ล่วงหน้าสูงสุดถึง 7 วัน โดยเลือกกดตั้งเวลาตามปุ่มทั้ง 5 ปุ่มตามที่ต้องการ และเมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ เครื่องจะเดินออกจากแท่นชาร์จและทำงานดูดฝุ่นพื้นที่โดยรอบทันที นับว่าสะดวกสำหรับการไม่อยู่บ้านแต่ยังสามารถตั้งเวลาสั่งการให้เครื่องทำงานได้อยู่
ระบบกลับเข้าแท่นชาร์จอัตโนมัติ Auto Charging โดยเมื่อเครื่องเริ่มมีแบตเตอรี่อ่อนระบบจะสามารถเรียกตัวเองกลับมาที่แท่นชาร์จได้อย่างอัตโนมัติ หรือจะเรียกจากปุ่มโฮมที่รีโมทก็ได้เช่นกัน ซึ่งมีข้อแม้ว่าระยะห่างจากตัวเครื่องถึงแท่นชาร์จจะต้องอยู่ห่างไม่เกิน 3 เมตรจากด้านหน้า หรือ 1 เมตรจากด้านข้างหรือขวาของแท่นชาร์จ
รีโมทคอนโทรลที่สามารถควบคุมทิศทางการดูผ่านปลายนิ้วได้อย่างง่ายดายจากปุ่มทิศทางทั้ง 4 ปุ่ม อีกทั้งยังสามารถเรียกตัวเครื่องกลับเข้าแท่นชาร์จได้จากปุ่มโฮม นอกจากนี้ยังมีปุ่มกำหนดทิศทางการดูดแบบอัตโนมัติได้ 3 รูปแบบซึ่งก็คือ 1.ทิศทางแบบออโต้ 2.ทิศทางแบบเฉพาะจุด (Straight Ling Mode) และ 3.ทิศทางแบบเดินเรียบกำแพง (Along Wall Mode) รวมทั้งยังมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องที่ด้านบนขวามือเพื่อช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุแบตเตอรี่อีกด้วย
ในส่วนของผลการทดสอบการทำงานด้านเสียงรบกวนภายในบ้านถือว่ายังดังอยู่พอสมควร แม้ว่าความดังจะอยู่ที่ระดับ 60 เดซิเบลก็ตาม ซึ่งต้องยอมรับว่าระดับของการดังเป็นระดับเสียงสนทนาในที่ชุมชน โดยแนะนำว่าเมื่อต้องการให้เครื่องทำงานควรเว้นให้ห้องนั้นเพื่อการดูดฝุ่นโดยเฉพาะ หรือตั้งเวลาการทำงานล่วงหน้าเมื่อไม่มีใครอยูบ้าน จะช่วยลดการรบกวนได้เป็นอย่างดี
การทดสอบความสะอาดหลังการดูด โดยพื้นโดยรอบมีความสะอาดเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนที่อยู่ชิดขอบหรือแม้กระทั่งใต้โต๊ะใต้เตียงก็สามารถทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี อันนี้ยอมรับว่าตัวเครื่องมีประสิทธิภาพในการดูดและปัดสิ่งสกปรกได้อย่างดีเยี่ยม
การทดสอบตั้งเวลาทำงาน สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อเครื่องตั้งอยู่ที่แท่นชาร์จและเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ เครื่องมีการเคลื่อนตัวออกจากตัวแท่นและวิ่งออกมาดูดฝุ่นเป็นปกติ โดยเวลาของการตั้งเวลาสามารถตั้งได้ล่วงหน้า 7 วันตามที่สเปกเครื่องแจ้งไว้
ขณะที่การทดสอบการควบคุมทิศทางด้วยรีโมทคอนโทรล สามารถทำงานได้เช่นเดียวกับการเล่นรถบังคับวิทยุ ซึ่งก็ไม่ยาก แค่กดปุ่มไปข้างหน้า ทางซ้าย ทางขวา หรือถอยหลังได้ตามต้องการ หรือจะเลือกตั้งปุ่มออโต้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยการวิ่งแบบออโต้นั้นอาจจะต้องระวังพื้นที่ที่ไม่ชัดเจน เช่น ใต้เปลแบบแขวนที่สามารถโยกได้ โดยเครื่องจะพยายามเข้าไปทำความสะอาดจนเกิดรอยขีดข่วนที่ตัวเครื่องได้
และการทดสอบระยะเวลาการทำงานได้ยาวนานกว่า 1.5 ชั่วโมง ซึ่งนับว่าเพียงพอต่อการทำงาน และเมื่อต้องการเรียกกลับแท่นชาร์จเมื่ออยู่ในระยะไม่เกิน 3 เมตร ตัวเครื่องก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อสื่อสารทิศทางกลับแท่นชาร์จได้อย่างราบรื่น
จุดขาย
- มอเตอร์ดูดมีพลังแรงดูดสูง
- การออกแบบที่สวยงาม
- ระบบอัตโนมัติครบครัน พร้อมรีโมท
- มีอุปกรณ์เสริมและอะไหล่สำรองมาพร้อมในกล่อง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
- ทำได้ทั้งดูดและถูไปพร้อมกัน
- ราคาเครื่องไม่แพงทั้งชุดขายเพียง 12,900 บาทเท่านั้น
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- แท่นชาร์จกลายเป็นสิ่งกีดขวางการทำงานเมื่อเครื่องไม่ได้ปล่อยสัญญาณเรียกกลับ
- เมื่อเครื่องอยู่ห่างเกินระยะเรียกกลับอาจจะแบตหมดระหว่างทางได้
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
Mister Robot Mars นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เชื่อแน่ว่าแม่บ้านสมัยใหม่จะต้องถวิลหาอย่างแน่นอน เพราะด้วยคุณสมบัติของการดูดฝุ่นแบบอัตโนมัติดังที่กล่าวมาก่อนหน้า ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถเพิ่มการถูพื้นเข้าไปได้ในคราวเดียวยิ่งช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อมากขึ้น และเมื่อฟีเจอร์ทั้งหมดมาพร้อมอะไหล่ที่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ในราคาที่ลดลงมาเหลือเพียง 12,900 บาท ยิ่งน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ฟันธงว่าคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องเสียไป เพราะความประสิทธิภาพของ Mister Robot Mars เครื่องนี้จะช่วยให้แม่บ้านสะดวกสบายมากขึ้น เสมือนหนึ่งตัวช่วยงานบ้านเรื่องกวาดถูได้อย่างดีเยี่ยม แน่นอนว่านานๆทีอาจจะต้องลงมือเก็บกวาดเสียบ้างเพราะท้ายที่สุดแล้วอุปกรณ์ภายในบ้านทั้งหมดก็ยังต้องการการเช็ดถูอยู่ดี แต่ก็ต้องถือว่าสามารถยืดเวลาการทำงานบ้านครั้งใหญ่ให้นานขึ้นได้ด้วยเครื่องนี้นั่นเอง
