วีโว่กลายเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีนที่หันมาให้ความสนใจในตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทย เพราะมองว่า ยังมีช่องว่างให้บริษัทสามารถเติบโตได้ ภายใต้การนำแบรนด์จีนเข้ามาตีตลาดในสินค้าระดับพรีเมียมราคาจับต้องได้
การมาของ Vivo X5Pro จึงเหมือนกับการเข้ามากระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟนในระดับกลางบนให้มีสีสันมากขึ้น ด้วยการชูดีไซน์ตัวเครื่องที่บาง 6.44 มิลลิเมตร หน้าจอ 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD และกล้องถ่ายภาพ 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ที่มากับระบบแยกเพศในขณะถ่ายเซลฟี่ เพื่อให้ไม่ผู้ชายหน้าแบ๊วเกินไป
การออกแบบและสเปก
ในแง่ของการออกแบบ วีโว่ พยายามชูจุดเด่นในแง่ของความบางตัวเครื่องเป็นหลักด้วยขนาดรอบตัว 147.9 x 73.45 x 6.44 มิลลิเมตร น้ำหนัก 174 กรัม โดยใช้วัสดุเป็นพลาสติก ผสมกับโลหะทรงโค้ง และกระจก Gorila Glass ครอบหน้าและหลังเครื่อง เพื่อให้ดูแล้วมีความเงางาม
ด้านหน้า - มีหน้าจอทัชสกรีนที่เป็น SuperAMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) โดยมีลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.0 และตราสัญลักษณ์ ‘Vivo’ อยู่ส่วนบน ถัดลงมาล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัสแบบ 3 ปุ่ม คือปุ่มเรียกเมนู โฮม และย้อนกลับ
ด้านหลัง - จะมีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล F2.4 พร้อมไฟแฟลช ที่มุมบน โดยมีสัญลักษณ์ vivo อยู่ตรงกึ่งกลาง และข้อมูลบอกรายละเอียดการออกแบบของตัวเครื่อง ภายในมีแบตเตอรีขนาด 2,450 mAh แต่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้
ด้านซ้าย - ถูกปล่อยว่างไว้ ด้านขวา - เป็นที่อยู่ของปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเปิด-ปิด และถาดใส่ไมโครเอสดีการ์ด (สามารถใส่เป็นซิมการ์ดที่ 2 ได้ใช้แบบนาโนซิม) และซิมการ์ดแรกที่เป็นแบบไมโครซิม (ต้องใช้เข็มจิ้มออกมา)
ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้านล่าง - เป็นที่อยู่ของพอร์ตไมโครยูเอสบี และลำโพง ที่มากับระบบเสียง Hi-Fi
อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาประกอบไปด้วยตัวสมาร์ทโฟน สายชาร์จ อะแดปเตอร์ หูฟังแบบอินเอียร์พร้อมจุกเปลี่ยน ที่จิ้มถาดซิมการ์ด เคสใส พร้อมคู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
สำหรับสเปกภายในของ Vivo X5Pro ทำงานบนหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615 ที่เป็น Octa Core 1.5 GHz RAM 2 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 16 GB รองรับไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 128 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.0 (Lolipop) ภายใต้ Funtouch OS 2.1
ด้านการเชื่อมต่อรองรับเครือข่าย 3G และ 4G ทุกคลื่นที่ให้บริการในประเทศไทย ไวไฟ มาตรฐาน 802.11 b/g/n บลูทูธ 4.0 วิทยุFM และ จีพีเอส แต่ไม่รองรับ NFC และวิทยุ FM
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจภายใน Funtouch OS 2.1 ที่วีโว่มองว่าเป็นทั้งระบบปฏิบัติการ และอินเตอร์เฟสที่ครอบ แอนดรอยด์ 5.0 ใน Vivo X5Pro เลยคือการปรับเปลี่ยนการใช้งานหลายๆจุดให้คล้ายคลึงกับการใช้งานสมาร์ทโฟนยอดนิยมอย่าง iPhone
จุดแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเลยคือไม่มีหน้ารวมเมนู แต่จะใช้หน้าจอหลักที่มีมาให้ไว้ใช้งานทั้งในส่วนของวิตเจ็ต และไอคอนสำหรับการเรียกใช้งานโปรแกรม โดยผู้ใช้สามารถจัดกลุ่มแอปพลิเคชันประเภทเดียวกันไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันได้ โดยจะมี 4 ไอคอนหลักในแถบล่างสุดที่เป็นปุ่มโทรศัพท์ ข้อความ รายชื่อ และกล้องที่ค้างอยู่เช่นเดิม
ถัดมาคือในหน้าจอหลักนี้ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วลากลง เพื่อเรียกแถบป้อนข้อมูลขึ้นมาพิมพ์เพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆในเครื่องได้ทันที โดยส่วนของแถบการแจ้งเตือนก็ยังอยู่เช่นเดิมโดยใช้การลากนิ้วจากขอบบนลงมา โดยจะแสดงเฉพาะการแจ้งเตือน และวันเวลาเท่านั้น
ถ้าต้องการเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่าลัด ทำได้ด้วยการลากนิ้วจากขอบล่างขึ้นมาบริเวณกลางจอ ก็จะมีแถบพิเศษขึ้นมาใช้ทั้งสลับการเรียกใช้งานระหว่างแอปพลิเคชัน ปรับความสว่างหน้าจอ และไอค่อนลัดสำหรับการตั้งค่าด่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ ไฟฉาย จับภาพหน้าจอ ตั้งระบบสั่น ล็อกการหมุน รวมถึงรีสตาร์ท และปิดเครื่อง
ต่อมาคือในส่วนของฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ตั้งแต่เริ่มเปิดใช้งานเลยคือ Smart Wake 2.0 ที่เสริมมานอกจากหน้าจอปลดล็อกทั่วไป ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกเครื่อง หรือจะเลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อก เลื่อนลงเพื่อถ่ายรูป วาดตัวอักษรเพื่อเรียกใช้งานแอป (สามารถกำหนดได้เอง)
รวมถึงระบบการใช้งานโดยไม่สัมผัส อย่างการวาดมือเหนือหน้าจอไปมาเพื่อดูการแจ้งเตือน หรือปลดล็อกหน้าจอ ระบบการโทรอัจฉริยะเมื่อนำโทรศัพท์เข้าแนบหู ที่ใช้ๆได้ทั้งการโทรออก รับสาย เปลี่ยนโหมดระหว่างใช้แฮนด์ฟรีกับลำโพง แนบมือกับจอเพื่อปิดเสียง รวมถึงการเขย่าเครื่องเพื่อเปิดไฟฉาย และระบบการสั่นเตือนเมื่อจับโทรศัพท์ขึ้นมา และมีการแจ้งเตือนค้างอยู่
ขณะที่แอปพลิเคชันที่ให้มานอกจากแอปใช้งานทั่วไปในแอนดรอยด์แล้ว ก็จะมีอย่าง iManager ไว้ใช้บริหารจัดการตัวเครื่องอย่างการล้างข้อมูล ลบแคชตัวเครื่อง ดูปริมาณการใช้งานดาต้า จัดการแอป จัดการแบต บล็อกการโทร
i Theme ไว้สำหรับเข้าไปดาวน์โหลดธีมเพิ่มเติมจากระบบออนไลน์ ทำให้สามารถเปลี่ยนธีมเครื่องได้ง่ายๆ i-Music เป็นเครื่องเล่นเพลง นอกจากนี้ก็จะมีอย่าง Vivo Cloud เป็นระบบสำรองข้อมูลในระบบคลาวด์ของวีโว่ ไว้เก็บข้อมูลรายชื่อ ข้อความ และบุ๊กมาร์คอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์
ที่เหลือก็จะเป็นแอปทั่วไปอย่างบริการต่างๆของกูเกิล ปฏิทิน เครื่องคิดเลข สมุดจด เครื่องบันทึกเสียง วิทยุ ตัวจัดการไฟล์ อีเมล เครื่องเล่นวิดีโอ นาฬิกาปลุก
ตัวเว็บเบราว์เซอร์ที่ให้มาถือว่าตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วดี เลือกแสดงผลได้ทั้งโหมดของโทรศัพท์ และหน้าเดสก์ท็อปปกติ สามารถเปิดขึ้นมาหลายๆแท็ปแล้วสลับไปมาได้ รองรับการแสดงผลทั้งแนวตั้งและแนวนอน
ขณะที่การใช้งานโหมดโทรศัพท์มาพร้อมระบบเดารายชื่ออัตโนมัติ โดยขณะสนทนาจะมีไอค่อนลัดให้กดเรียกปุ่มตัวเลข บันทึกเสียงสนทนา พักสาย ปิดเสียง เปิดสมุดโน้ต เข้ารายชื่อผู้ติดต่อ และเปิดลำโพง ส่วนหน้าจอสายเรียกเข้าใช้วิธีการสไลด์วงกลมลงล่างเพื่อรับสาย และขึ้นบนเพื่อตัดสาย
ตัวคีย์บอร์ดที่ให้มา จะรองรับการใช้งานแบบ Swype ที่ให้ผู้ใช้ลากนิ้วแทนการพิมพ์ได้ด้วย การสลับภาษาระหว่างไทย อังกฤษ ทำได้ด้วยการกดค้างที่ปุ่มสเปซบาร์ เพื่อเลือกภาษา ทำให้เวลาใช้งานอาจสร้างความลำบากเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ชอบคีย์บอร์ดที่ให้มาก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมจากสโตร์ได้
ในส่วนของการตั้งค่า Vivo ได้มีการออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยนำการตั้งค่าที่ใช้งานประจำออกมาไว้ข้างนอกเป็นสัดส่วน และยังคงแบ่งส่วนของการเชื่อมต่อ การตั้งค่าตัวเครื่อง การตั้งบัญชีผู้ใช้ และการตั้งฟีเจอร์พิเศษต่างๆ
อีกจุดเด่นที่วีโว่พยายามชูขึ้นมาคือเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่ใส่ระบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus ทำใ้ห้สามารถโฟกัสภาพได้รวดเร็วขึ้น โดยอินเตอร์เฟสของกล้องจะเน้นที่การใช้งานง่าย มีเพียงปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มอัดวิดีโอที่ฝั่งขวา
ส่วนฝั่งซ้ายจะมีปุ่มไว้เลือกโหมดถ่ายภาพ ที่มีให้เลือกทั้ง HDR โหมดถ่ายหน้าจอพาวเวอร์พอยต์ ถ่ายเด็ก หน้าสวย กลางคืน ขำขัน พาโนราม่า เบลอ ให้เลือก พร้อมกับฟังก์ชันพิเศษอย่างการบันทึกภาพแบบเร็ซและช้า ตั้งสัดส่วนภาพ เปิดระบบตรวจจับการแยกเพศชายหญิง ตั้งเวลา การใช้ฝ่ามือในการสั่งถ่ายภาพ และเลือกกดที่หน้าจอเพื่อโฟกัสและถ่ายในทันที
สุดท้ายในเรื่องของเสียงเพลง X5Pro มาพร้อมกับชิปเสียง DAC AK4375 ที่ให้พลังเสียงในระดับ Hi-Fi ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลง หรือดูหนังบนสมาร์ทโฟนก็อาจจะชื่นชอบกับพลังเสียงที่ได้ ว่าดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปในท้องตลาด อย่างไรก็ตามถ้านำมาใช้งานคู่กับหูฟัง Hi-Res ก็จะช่วยขับพลังเสียงที่ได้ให้ดีกว่าเดิม
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 11,880 คะแนน และ 33,334 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 4,068 คะแนน CPU 46,504 คะแนน Disk 19,990 คะแนน Memory 4,579 คะแนน 2D Graphics 2,279 คะแนน และ 3D Graphics 1,144 คะแนน
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo จากเว็บเบราว์เซอร์ได้ 3,956 คะแนน โครมเบราว์เซอร์ 3,245 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ (Metal) 1,846 คะแนน Multicore 2,313 คะแนน
ส่วนการทดสอบ 3D Mark ตัว Ice Storm Unlimited ได้ 7,867 คะแนน Ice Storm Extream 5,459 คะแนน และ Ice Storm 8890 คะแนน PC Mark ได้ 3,159 คะแนน ขณะที่ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
Geek Bench Single-Core ได้ 511 คะแนน Multi-Core ได้ 1838 คะแนน สุดท้ายระยะเวลาในการใช้งานต่อเนื่องบนแบตเตอรีจากการทดสอบของ Geekbench อยู่ที่ 1,928 คะแนน คิดเป็น 4 ชั่วโมง 49 นาที 10 วินาที
จุดขาย
- ประสิทธิภาพตัวเครื่องจากซีพียูระดับ 8 คอร์ ในราคา 13,900 บาท
- ตัวเครื่องบาง 6.44 มิลลิเมตร จอ 5.2 นิ้ว Full HD
- ระบบเสียง Hi-Fi รองรับการใช้งาน 4G
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- เมื่อมีการประมวลผลหนักๆตัวเครื่องจะร้อน
- แบตเตอรีหมดค่อนข้างเร็วเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
- ไม่มี NFC
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
ถ้ามองถึงสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงในระดับราคาที่สามารถหาซื้อได้ในช่วงหมื่นต้นๆ เชื่อว่า X5Pro จะเป็นรุ่นที่น่าสนใจขึ้นมาในตลาดทันที เพราะจากประสิทธิภาพที่ให้มา รูปแบบการใช้งานที่คล้ายคลึงกับไอโฟน น่าจะทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนคุ้นชินได้ไม่ยาก
เพียงแต่ว่าด้วยการที่ Vivo ยังค่อนข้างใหม่ในตลาดอาจจะต้องดูกันในแง่ของบริการหลังการขาย กับการอัปเดตของซอฟต์แวร์ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร เพราะการที่ Vivo ตั้งแบรนด์ให้อยู่ในระดับพรีเมียม แต่คนก็ยังติดว่าเป็นแบรนด์จากจีนอยู่
Company Related Links :
Vivo