xs
xsm
sm
md
lg

Review: Galaxy Tab A with S Pen ต่อยอดตำนานแท็บเล็ตเน้นขีดเขียนจากซัมซุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




เชื่อว่าหลายคนคงตั้งหน้าตั้งตารอคอยการมาของแท็บเล็ตเน้นขีดเขียน Galaxy Note 8.0 รุ่นใหม่มานาน และในวันนี้ก็ถือเป็นฤกษ์งานยามดีที่ซัมซุงจะต่อยอดความสำเร็จครั้งใหม่กับตระกูล “Galaxy Note” ด้วย “Samsung Galaxy Tab A with S Pen” กับแท็บเล็ตเน้นขีดเขียนที่มาพร้อมขนาดหน้าจอ 2 ขนาดได้แก่ 8.0 นิ้ว (เป็นรุ่นที่เราจะทดสอบกันในบทความ) และ 9.7 นิ้ว

การออกแบบ




การออกแบบของ Tab A เป็นตามแนวทางซัมซุงยุค 2015 คือเปลี่ยนวัสดุตัวเครื่องให้เน้นเป็นกระจกและอลูมิเนียมที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยหน้าจอของ Tab A มีการปรับไปใช้อัตรส่วน 4:3 ด้วยเหตุผลคือเหมาะสมกับการใช้อ่านหนังสือ นิตยสารรวมถึงการท่องเว็บไซต์ ด้วยความละเอียดหน้าจอระดับ XGA 1,024x768 พิกเซล และเลือกใช้พาเนลจอแบบ TFT

ในส่วนขนาดตัวเครื่อง Tab A 8.0 นิ้วมีความหนา 7.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 490 กรัม พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 720p 30 เฟรมต่อวินาทีและรองรับระบบโทรศัพท์เหมือนแท็บเล็ตทุกรุ่นของซัมซุง

นอกจากนั้นบริเวณฝาหลัง สังเกตตรงด้านขวาจะเป็นรูยึดกับตัวล็อคของเคสซัมซุง Book Cover จำนวน 2 รู



และอย่างที่ทราบกันดีว่า Tab A มาต่อยอดความสำเร็จของ Note 8.0 เพราะฉะนั้นตัวเครื่องจะมาพร้อมกับปากกา S Pen สเปกเดียวกับที่ซัมซุงเลือกใช้บน Galaxy Note 4 และ Note edge (รองรับ Air View และ Air Command) โดยตำแหน่งที่เก็บปากกาจะอยู่บริเวณสันเครื่องด้านขวาบน



มาสำรวจปุ่มคำสั่งรอบตัวเครื่องและพอร์ตเชื่อมต่อ เริ่มจากด้านขวามือของตัวเครื่องจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบ MicroSIM ถัดมาเป็นช่องใส่การ์ดความจำ MicroSD รองรับความจุสูงสุด 128GB ปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และสุดท้ายปุ่มปิดเปิดเครื่อง



ส่วนด้านล่างจากซ้ายมือเป็นที่อยู่ของลำโพง ช่อง 3.5 มิลลิเมตรเชื่อมต่อหูฟัง Headset หรือ Smalltalk ช่อง MicroUSB และสุดท้ายรูไมโครโฟนรับเสียง

สเปก



แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab A with S Pen 8.0” มาพร้อมสเปกหน่วยประมวลผล (ซีพียู) Qualcomm Snapdragon 410 Quad-core แบบ 32 บิต ความเร็ว 1.2GHz กราฟิก Adreno 306 แรม 2GB รอม 16GB เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 10.40GB ระบบปฏิบัติการเลือกใช้แอนดรอยด์ 5.0.2 Lollipop ตัวเดียวกับที่ใช้บน Galaxy S6/S6 edge ครอบทับด้วย TouchWiz UI รุ่นใหม่ ส่วนแบตเตอรีให้ความจุมา 4,200mAh



ด้าน GPS รองรับทั้ง AGPS, GLONASS และ Beidou ของจีน ทำให้การจับสัญญาณดาวเทียมทำได้ค่อนข้างรวดเร็วและแม่นยำพอสมควร

สำหรับการรองรับเครือข่ายและระบบเน็ตเวริก์ Tab A รองรับ 2G (GSM850/900/1,800/1,900MHz) 3G (850/900/1,900/2,100MHz) และ 4G LTE (700/850/900/1,800/2,100/2,600MHz) ทุกเครือข่ายที่มีในประเทศไทย ส่วน WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11 a/b/g/n และ WiFi Direct ที่คลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz บลูทูธรองรับเวอร์ชัน 4.1 รองรับ ANT+ ร่วมกับอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพภายนอก ไม่รองรับ NFC และ MHL สำหรัยต่อสัญญาณภาพออกจอทีวีผ่านสาย HDMI แต่รองรับเทคโนโลยี Screen Mirroring แชร์ภาพจากหน้าจอแท็บเล็ตขึ้นสมาร์ททีวีของซัมซุงผ่านระบบไร้สาย

ยูสเซอร์อินเตอร์เฟสและฟีเจอร์เด่น




Samsung TouchWiz ยูสเซอร์อินเตอร์เฟสรุ่นใหม่บนแอนดรอยด์ 5.0.2 Lollipop จะมีการปรับหน้าตาให้เรียบง่ายขึ้นตามรูปแบบ Material Design ตั้งแต่หน้า Lock Screen, Home Screen และส่วนแจ้งเตือน โดยแอปฯเสริมที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับ Tab A จะมีแค่ S Note, สมุดภาพ, Galaxy Gift, Galaxy Rewards และโปรแกรมจัดการเอกสาร Hancom Office เท่านั้น




ในส่วนฟีเจอร์เด่นสำหรับ Tab A จะเน้นในเรื่องการวาดเขียนและการอ่านเป็นสำคัญมากกว่าด้านความบันเทิง เราจะพบเห็น Flipboard ที่ปรับปรุงหน้าตาให้เข้ากับอัตราส่วนหน้าจอ 4:3 ทำให้เราเกิดความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือจากสื่อสิ่งพิมพ์จริงๆ หรือแม้กระทั่งโหมด Reading Mode หรือโหมดปรับจอภาพให้ติดสีเหลืองเพื่อถนอมสายตา



มาถึงความสามารถด้านการวาดเขียนของ S Pen พร้อมส่วนซอฟต์แวร์ควบคุมที่ถอดมาจาก Galaxy Note 4, Note edge มาทั้งหมด โดยเมื่อผู้ใช้ดึงปากกาออกมาจากที่เก็บปากกา Air Command จะปรากฏขึ้น ซึ่งผู้ใช้สามารถยกปากกาเหนือจอภาพเล็กน้อยและเลือกคำสั่งที่ต้องการได้โดยวิธีการจิ้มลงไป

สำหรับคำสั่งบน Air Command มีดังต่อไปนี้ได้



Action memo หรือกระดาษโน้ตย่อที่มาพร้อมความพิเศษ คือ สามารถแปลงลายมือเป็นตัวเลขหรือตัวอักษรแล้วใช้งานร่วมกับแอปฯที่อยู่ในเครื่องได้ เช่น เขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้แล้วสั่งให้บันทึกในสมุดรายชื่อโทรศัพท์หรือเลือกโทรออกได้ทันที หรือแม้แต่การจดชื่อเว็บไซต์หรือเขียน To-Do List ไว้แล้วสั่งให้บันทึกไว้ในแอปฯต่างๆ หรือเปิดเว็บบราวเซอร์พร้อมเข้า URL ที่เราจดไว้ทันทีโดยไม่ต้องไปนั่งพิมพ์ใหม่ให้เสียเวลา




นอกจากนั้น S Pen ยังสามารถเลือกตัดภาพ ข้อความ ได้อย่างอิสระ พร้อมนำไปเก็บรวมไว้ในส่วน Clipboard เมื่อผู้ใช้ต้องการนำภาพที่ตัดมาจากแหล่งต่างๆมาใช้งาน เช่น ใส่ลงใน Email ส่งภาพผ่านแอปฯแชท เป็นต้น ก็สามารถเข้าไปดูภาพทั้งหมดจากคลิปบอร์ดแล้วเลือกเฉพาะรูปที่ต้องการได้



สุดท้ายกับฟีเจอร์เขียนหน้าจอ ที่ระบบจะจับภาพหน้าจอที่ใช้อยู่ในขณะนั้นแล้วเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ขีดเขียนหน้าจอด้วยปากรูปแบบต่างๆได้ตามต้องการ เช่น จับภาพแผนที่ที่เราอาศัยอยู่แล้วใช้ปากกาเขียนเส้นทางเดินทางให้เพื่อนทราบ เป็นต้น



มาถึงแอปฯ S Note สำหรับคนที่ชอบวาดภาพหรือจดบันทึกสิ่งต่างๆ แอปฯนี้มีหน้าที่เหมือนสมุดเปล่าที่มาพร้อมเครื่องมือวาดเขียนหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกใช้ไม่ว่าจะวาดภาพ ระบายสีหรือเขียนบันทึกสามารถทำผ่านแอปฯนี้แอปเดียวได้ทั้งหมด



หรือถ้ายังไม่พอใจ ทางซัมซุงก็มีของขวัญเป็นแอปฯวาดเขียนจากผู้ผลิตรายอื่นให้ดาวน์โหลดไปใช้งานฟรีๆผ่าน Galaxy Apps เช่น Autodesk SketchBook, ArtRage หรือ Evernote เป็นต้น

จบเรื่องแอปฯวาดเขียนและปากกา S Pen ที่เป็นจุดขายหลักของ Galaxy Tab A ไปแล้ว มาดูฟีเจอร์อื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กัน



เริ่มจาก Gestures ที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงในการตรวจจับท่าทางของเราแล้วสั่งระบบตั้งค่าต่างๆแบบอัตโนมัติ เช่น ถ้าเรานั่งอ่านหนังสือเป็นเวลานานโดยไม่มีการสัมผัสหน้าจอ ระบบจะใช้กล้องหน้าและเซ็นเซอร์ตรวจวัดความลาดเอียงตรวจจับเรา ซึ่งถ้าเรายังมองตัวเครื่องอยู่หน้าจอจะไม่ดับ แต่เมื่อใดที่คุณวางแท็บเล็ตลงหน้าจอจะปิดตัวเองตามเวลา Screen Timeout ที่ตั้งไว้

หรือแม้แต่เมื่อเราหยิบตัวเครื่องขึ้น ระบบสามารถสั่งให้เครื่องสั่นเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความหรือสายที่ไม่ได้รับเข้ามา เป็นต้น



ฟีเจอร์ที่น่าสนใจตัวที่สองก็คือ Multitasking ที่ผู้ใช้สามารถแบ่งครึ่งหน้าจอเพื่อใช้งานแอปฯได้สองหน้าจอพร้อมกัน พร้อมความสามารถในการลากข้อความหรือรูปภาพจากหน้าต่างหนึ่งมาใส่อีกหน้าต่างหนึ่งได้หรือจะย่อหน้าต่างให้เล็กลงเพื่อเปิดแอปฯมากกว่า 2 ตัวพร้อมกันก็สามารถทำได้



ฟีเจอร์สุดท้ายที่ขาดไม่ได้สำหรับสมาร์ทดีไวซ์ของซัมซุงทุกรุ่นก็คือ Ultra Power Saving Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง ก็ยังคงมีให้เลือกใช้จากแท็บเล็ตเครื่องนี้เช่นเดิม โดยโหมดดังกล่าวจะเปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวดำพร้อมจำกัดการใช้งานแอปฯเพื่อประหยัดพลังงาน

ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป


คะแนนทดสอบจาก AnTuTu Benchmark 32-bit = 22,128 คะแนน


คะแนนทดสอบจาก PC Mark = 3,899 คะแนน


ทดสอบระบบสัมผัสหน้าจอ Multi touch ได้ 5 จุดพร้อมกัน

ต้องเข้าใจก่อนว่า Samsung Galaxy Tab A with S Pen ถูกตั้งเป้าหมายให้เป็นแท็บเล็ตเน้นขีดเขียนและใช้เป็นดีไวซ์เน้นการอ่าน E-Book, E-Magazine เป็นหลัก ไม่ได้เน้นความบันเทิงและใช้งานแบบหนักหน่วงเหมือนแท็บเล็ตตระกูลอื่นของซัมซุง จุดนี้ถ้าเรามองตามเป้าหมายที่ซัมซุงตั้งไว้ก็ต้องบอกว่า Tab A ถือว่าสอบผ่าน ความเจ๋งของ S Pen ที่เคยเกิดขึ้นกับ Galaxy Note 4 และ Note edge เป็นอย่างไร ใน Tab A คุณจะยังได้ประสบการณ์การใช้งาน S Pen ที่ดีในรูปแบบนั้นอย่างเต็มรูปแบบจนคุณจะลืมเรื่องความละเอียดหน้าจอระดับ XGA ไปเลย



และในส่วนแบตเตอรีที่หลายคนกังวลเรื่องขนาด 4,200mAh จะเล็กเกินไป วันนี้ทีมงานได้ทดสอบด้วย Geekbench มาให้ชมด้วยเวลาที่ทำได้ (100% - 0% จนเครื่องดับ) คือ 8 ชั่วโมง 9 นาที 50 วินาที หรือถ้าคำนวณเป็นเวลาใช้งานทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 13-14 ชั่วโมง ถือว่าสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

สำหรับราคาค่าตัว Samsung Galaxy Tab A 8.0” with S Pen อยู่ที่ 12,900 บาท ถือเป็นแท็บเล็ตที่ออกแบบมาให้เน้นการขีดเขียน และวาดภาพเป็นหลัก ผู้อ่านท่านใดเป็นแฟนคลับของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตระกูล Galaxy Note ที่ชื่นชอบการวาดรูปอยู่แล้ว น่าจะชื่นชอบ Galaxy Tab A 8.0” with S Pen ได้ไม่ยาก

(บทความโฆษณา)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 1
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 2
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 3
กำลังโหลดความคิดเห็น