เป็นสมาร์ทโฟนที่หลายคนหมายตาไว้ตั้งแต่ทางเลอโนโวเริ่มทำประชาสัมพันธ์ เพราะด้วยการถูกชูจุดเด่นในเรื่องราคาค่าตัวไม่เกิน 6 พันบาทและเป็นสมาร์่ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ไปถึงการรองรับ 3G และ 4G LTE ทุกเครือข่ายในประเทศไทย ทำให้สมาร์ทโฟน Lenovo A7000 มีความน่าสนใจจนทีมงานไซเบอร์บิซต้องหยิบยกมารีวิวเจาะลึกกันในวันนี้
การออกแบบ
เลอโนโวตั้ง A7000 ให้โฟกัสไปที่กลุ่มวัยรุ่นงบน้อยที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนคุ้มค่าคุ้มราคา ทำให้ตัวเครื่องถูกออกแบบให้หน้าจอมีขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,280x720 พิกเซล 267ppi ความหนาตัวเครื่องอยู่ที่ 8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 140 กรัม พร้อมปุ่มคำสั่งแบบสัมผัสใต้จอภาพ (ไม่มีไฟส่องสว่าง) ไล่จากซ้ายไปขวาได้แก่ ปุ่มเรียกเมนู/Recent Apps - ปุ่มโฮม - ปุ่มย้อนกลับ
ส่วนกล้องหน้ารองรับขนาดภาพใหญ่ถึง 5 ล้านพิกเซลพร้อมโหมดเซลฟีและซอฟต์แวร์ทำหน้าใส หน้าเด้งอัตโนมัติแบบเรียลไทม์เอาใจวัยรุ่น
ด้านหลัง (ฝาหลัง) จะเป็นพลาสติกเนื้อเหนียว มุมซ้ายบนเป็นกล้องถ่ายภาพหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (3,264x2,448) พร้อมไฟแฟลชคู่แบบ LED มุมขวาบนเป็นช่องไมโครโฟนตัวที่สองและช่องลำโพงกระจายเสียง ส่วนตรงกลางเป็นโลโก้เลอโนโว
นอกจากนั้นฝาหลังยังสามารถแกะออกได้ โดยภายในจะเป็นที่อยู่ของแบตเตอรีขนาด 2,900mAh ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ช่องใส่การ์ดความจำ MicroSD รองรับความจุสูงสุด 32GB และช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์ 2 ช่อง (Dual Sim) แบบ Micro SIM โดยช่องแรกจะเป็นซิมหลักรองรับเครือข่าย 3G/4G LTE ส่วนช่องที่สองจะรองรับเฉพาะเครือข่าย 2G (เน้นโทรและส่งข้อความ) เท่านั้น
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อและปุ่มกดรอบตัวเครื่อง เริ่มจากข้างขวาจะเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่องและปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง ด้านบนจะเป็นที่อยู่ของพอร์ตเชื่อมต่อหูฟัง/Headset ขนาด 3.5 มิลลิเมตรและช่อง MicroUSB
สเปก
มาดูสเปก A7000 เลอโนโวเลือกใช้หน่วยประมวลผลได้ค่อนข้างน่าสนใจกับ MediaTek MT6752m True8Core ความเร็ว 1.5GHz ซึ่งเป็นซีพียู 64 บิตพร้อมกราฟิก Mali T760 ประกบระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop แบบ 64 บิตครอบทับด้วย Lenovo Vibe UI พร้อมแรมขนาด 2GB รอม (Internal Storage) 8GB เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 3.9GB
ด้านการรองรับเครือข่ายและสเปกอื่นๆ ถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดอีกหนึ่งรุ่นที่รองรับ 3G และ 4G LTE ทุกเครือข่ายในประเทศไทยได้ทั้งหมด ส่วน WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g/n บลูทูธ รุ่น 4.0
สุดท้ายในส่วนภาครับสัญญาณดาวเทียมจากการทดสอบรองรับเฉพาะ GPS และ AGPS ไม่รองรับ GLONASS การจับสัญญาณถ้าอยู่ในอาคารตรวจจับได้ค่อนข้างช้า ส่วนภายนอกอาคารตรวจจับได้ปกติ
ฟีเจอร์เด่น
เริ่มจากส่วนแรกกับ Lenovo Vibe UI ที่ครอบทับแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop แบบ 64 บิตอีกทีหนึ่ง ทำให้การออกแบบ UI ของเลอโนโวในครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนธีมบางส่วนเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบ Material Design ของแอนดรอยด์ Lollipop เช่น ส่วนแจ้งเตือนหน้าล็อคสกรีนและ Quick Settings รวมถึงหน้าตาแอปฯหลักที่ออกแบบใหม่ให้เรียบง่ายขึ้น พร้อมตัดหน้ารวมแอปฯ (AppDrawer) ออกไปกลายเป็นแอปฯทุกตัวที่ติดตั้งใหม่จะถูกวางไอคอนไว้บนหน้าโฮมสกรีนทั้งหมด ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกจัดหมวดหมู่ด้วยโฟลเดอร์ได้ตามสะดวก
ส่วนระบบจัดการธีม (Theme) ใน A7000 ก็มีให้เลือกใช้เช่นเดียวกับไฮเอนด์สมาร์ทโฟนหลายรุ่น โดยผู้ใช้ที่ไม่พอใจกับหน้าตา Vibe UI ก็สามารถเลือกดาวน์โหลดธีมเพิ่มเติมได้จาก Theme Center พร้อมเลือกปรับแต่งแยกเฉพาะส่วนตั้งแต่ Wallpaper, Lock Screen และ Recent Apps ได้ตามต้องการ
Dolby Atmos มาถึงจุดขายสำคัญลำดับต่อไปของ Lenovo A7000 กับการเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่มาพร้อมเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง โดยระบบเสียงดังกล่าวจะช่วยสร้างและจำลองเสียงสามมิติผ่านหูฟังทุกรุ่น ทำให้การรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมผ่านหูฟังจะได้อรรถรสมากขึ้นด้วยเสียงที่สามารถวนรอบตัวเราได้คล้ายกับ Atmos ในโรงภาพยนตร์ แต่ในสมาร์ทโฟนจะถูกจำกัดด้านทิศทางเสียงมากกว่าเพราะแหล่งกำเนิดเสียงทำได้แค่สเตอริโอ
นอกจากนั้นเมื่อเปิดใช้ Dolby Atmos ร่วมกับการฟังเพลงผ่านหูฟัง ระบบดังกล่าวจะช่วยสร้างความโดดเด่นในเครื่องดนตรีและละชิ้นให้ได้ยินชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถเลือกปรับแต่ง Equalizer ได้ตามต้องการด้วย
Power Manager ระบบจัดการพลังงานกลายเป็นของคู่กายสมาร์ทโฟนยุคใหม่ และใน Lenovo A7000 ก็มาพร้อมระบบจัดการพลังงานที่ให้มาค่อนข้างละเอียด ตั้งแต่ความสามารถในตรวจดูแอปพลิเคชันที่บริโภคพลังงานผิดปกติ สามารถตั้งปิดการทำงานของ Background Apps แต่ละตัวได้ ไปถึงการจำกัดการทำงานของซีพียูและกราฟิกเพื่อเพิ่มระยะเวลาใช้งานได้มากสุด 25%
และที่สำคัญโหมด Ultimate Power Saver โดยระบบจะปิดการทำงานของอินเตอร์เน็ตรวมถึง Background Apps ทั้งหมดพร้อมเปลี่ยนยูสเซอร์อินเตอร์เฟสให้ใช้งานได้เฉพาะโทรออก-รับสาย ส่ง SMS และตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อประหยัดพลังงานระดับสูงสุด
Smart scene มาถึงอีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นที่เราสามารถกำหนดเวลาเพื่อเปลี่ยนโปรไฟล์ฟังก์ชันการตั้งค่าระบบได้แบบอัตโนมัติ เช่น ตั้งเวลาไว้ตั้งแต่ 22.00-6.00 เป็นช่วงเวลานอนให้ปิด WiFi ปิดเสียง และหลังจาก 6 โมงเช้าให้เปิดเสียง โดยเมื่อถึงเวลาดังกล่าวระบบเครื่องจะเปิดปิดการตั้งค่าตามที่เรากำหนดไว้อัตโนมัติ
ในส่วนฟีเจอร์เด่นอื่นๆที่น่าสนใจและถือเป็นลูกเล่นดึงดูดผู้ใช้ได้แก่
Wide touch หรือการเปิดใช้งาน Floating button สำหรับใช้เปิดปิดเครื่องและเปิดปิดระบบต่างๆคล้ายคีย์ลัด
Secure Zone สำหรับคนมีความลับไม่อยากให้ใครได้รู้ เพราะเมื่อเปิดใช้โหมดนี้ระบบจะเปิดหน้าโฮมสกรีนใหม่ขึ้นมาพร้อมให้เราตั้ง Password แยกออกมาจากหน้าใช้งานหลักได้
Quick Snap ระหว่างที่หน้าจอปิดอยู่และต้องการถ่ายภาพเดี๋ยวนี้ ผู้ใช้สามารถกดปุ่มเพิ่มลดเสียงสองครั้งติดกันเพื่อสั่งลั่นชัตเตอร์ได้ทันที
Screen off gestures ระหว่างหน้าจอปิดอยู่ ผู้ใช้สามารถกำหนดท่าทางวาดเขียนตัวอักษรบนหน้าจอด้วยรูปแบบต่างๆเพื่อเรียกแอปพลิเคชันแบบเร่งด่วนได้ เช่น วาดตัว V เพื่อเปิดแอปฯกล้อง เป็นต้น
สุดท้ายกับแอปฯกล้องถ่ายภาพที่ออกแบบมาได้ค่อนข้างเรียบง่าย มีโหมดถ่ายภาพให้เลือก 3 โหมดได้แก่ Normal, Panorama และ Effect นอกจากนั้นสำหรับวัยรุ่นที่ชอบเซลฟีเมื่อเปิดกล้องหน้า ระบบจะมีให้เลือกปรับแต่งความเนียนใสของใบหน้าได้ รวมถึงความสามารถในการลั่นชัตเตอร์โดยใช้ท่าทางเคลื่อนไหว เช่น โบกไม้โบกมือ ชูนิ้วเป็นรูปตัววีหรือกระพริบตาเพื่อสั่งนับถอยหลังแล้วกดชัตเตอร์ได้แบบเดียวกับไฮเอนด์หลายรุ่น
ทดสอบประสิทธิภาพ
Lenovo A7000 น่าจะถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดกลุ่มแรกในปี 2015 ที่ใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบ 64 บิต ผลที่ได้เมื่อทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64 บิตทำให้คะแนนที่ได้พุ่งสูงพอสมควร ส่วนคะแนนทดสอบอื่นๆก็ถือว่าทำได้น่าพอใจเทียบชั้นไฮเอนด์เมื่อปีที่แล้วได้เลย
ส่วนเมื่อทดลองใช้งานจริงเน้นเล่นเกม โซเชียล เฟสบุ๊กและแชทไลน์ถือว่าทำได้ลื่นไหน ซีพียู MediaTek ตัวใหม่นี้ใช้งานร่วมกับแอปฯแอนดรอยด์หลายตัวได้ดีกว่ารุ่นเมื่อปีก่อนและยังทำงานร่วมกับแอปฯ Power Manager ได้ลงตัวเหมือนเกิดมาเพื่อกันและกัน
ส่วนการใช้เล่นเกมถึงแม้จะติดเรื่องความละเอียดหน้าจอแค่ 720p และ PPI ต่ำไปเล็กน้อยทำให้คุณภาพกราฟิกจากเกมสามมิติค่อนข้างแตก แต่เรื่องความลื่นไหลถือว่าสอบผ่าน ไม่ว่าจะเป็นเกมกินสเปกหนักอย่าง Modern Combat 5 ก็สามารถเล่นได้ลื่นไหลดี แต่จะมีข้อสังเกตเล็กน้อยในเรื่องความลื่นไหลของระบบสัมผัสหน้าจอที่มีอาการเอ๋อให้รู้สึกบ้างเมื่อต้องใช้ความรวดเร็วในการจิ้มหน้าจอติดๆกัน
มาดูเรื่องกล้องถ่ายภาพและวิดีโอ (ตัวอย่างภาพถ่ายติดตามได้จาก Gallery ท้ายบทความ) ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน กล้องถ่ายภาพนิ่ง 8 ล้านพิกเซลถ่ายในสภาพแสงกลางวันปกติค่อนข้างคมชัด HDR ให้ผลลัพท์ดี แต่เมื่อลองถ่ายในที่แสงน้อยคุณภาพจะตกลงไปมาก
จุดเด่นของกล้องหลังคงอยู่ที่ไฟแฟลชสองตัวให้ความสว่างดี ยิงได้ไกลกว่าไฟแฟลชในสมาร์ทโฟนระดับเดียวกันรวมถึงสมาร์ทโฟนไฮเอนด์บางรุ่นเสียอีก
ด้านกล้องหน้าส่วนนี้ถือว่าทำได้ดีมาก ภาพคมชัด โหมดหน้าใสใช้งานได้ดี ส่วนวิดีโอ 1080p คุณภาพปานกลาง ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ถือถ่ายด้วยมือภาพค่อนข้างไหวและโฟกัสภาพชอบหลุดวืดวาดไปมา
ส่วนการทดสอบอีกหนึ่งอย่างที่ต้องขอกล่าวถึงเป็นพิเศษกับ Dolby Atmos เพราะถือเป็นจุดขายที่เลอโนโวคุยไว้มาก โดยเมื่อได้ทดลองฟังและใช้ความรู้สึกสัมผัสจริงๆทั้งจากหูฟังราคาถูกและแพงระดับหมื่นสองหมื่นบาท ยอมรับว่าในเรื่องมิติเสียงที่ได้ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะการเลือกฟังเพลงจากไฟล์ HiFi ผ่านบริการ TIDAL ด้วยแล้วถือว่าทำได้ดี
แต่ปัญหาก็มาเยือนเมื่อเราต้องการเปลี่ยนการเชื่อมต่อจากหูฟังไปสู่พอร์ต AUX IN ทั้งในรถยนต์และเครื่องเสียงที่บ้าน ปัญหาคือเกิดอาการเสียงเบามาก เร่งจนระดับเสียงแตะ MAX ก็ยังไม่ดัง แถมเสียงแหลมและเบสก็โดดจนฟังแล้วน่ารำคาญอย่างมาก ถึงแม้จะปิด Dolby Atmos ไปแล้วแต่เสียงก็ยังคงเบาและไม่ชัดเจนแตกต่างจากการฟังจากหูฟังอย่างมาก
สุดท้ายกับการทดสอบแบตเตอรี 2,900mAh พร้อมซอฟต์แวร์และระบบจัดการพลังงานที่ปรับแต่งได้ละเอียดคู่กับหน้าจอ 720p ที่ไม่บริโภคพลังงานสูงเหมือนหน้าจอ 2K เป็นผลให้ A7000 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มีแบตฯอึดมากที่สุด จากการทดสอบผ่านซอฟต์แวร์ Geekbench เวลาที่ทำได้อยู่ที่ 8 ชั่วโมง 21 นาที 30 วินาที พร้อมคะแนนแตะ 4,700 คะแนน และเมื่อนำมาคำนวณหาเวลาใช้งานทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 14-16 ชั่วโมง ล้มแชมป์เก่า Wiko RIDGE FAB 4G แบบฉิวเฉียด
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
ข้อดี
- สเปกเครื่องเทียบราคาถือว่าคุ้มค่ามาก 64 บิตแท้ๆ รองรับอนาคต
- หน้าจอใหญ่แต่เลอโนโวออกแบบมาให้จับถือได้ถนัดมือและน้ำหนักเบา
- รองรับ 3G 4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย
- รองรับ 2 ซิม
- ระบบจัดการพลังงานภายในทำได้ดี
- ฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานหลากหลายและทำได้น่าสนใจ
ข้อสังเกต
- หน้าจอไม่คมชัด
- วัสดุเป็นพลาสติกผิวด้าน จับแล้วเป็นรอยมือง่ายมาก
- กล้องถ่ายภาพกลางคืนและในที่แสงน้อยไม่คมชัด
- ROM ที่ให้มา 8GB อาจจะไม่เพียงพอกับการใช้งาน
Lenovo A7000 ใช้แผนการตลาดที่ค่อนข้างแปลกเพราะเลือกวางจำหน่ายผ่าน LAZADA ในราคา 5,290 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ให้สเปกเครื่องและฟีเจอร์ใช้งานมาได้คุ้มค่าคุ้มราคาเทียบชั้นกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับหมื่นบาทได้ จุดเด่นหลักของ A7000 จากที่ทีมงานทดสอบขอไม่ยกให้เรื่อง Dolby Atmos เหมือนที่เลอโนโวคุยไว้ เพราะมองว่ายังต้องปรับปรุงอีก แต่ทีมงานขอยกให้เรื่องแบตเตอรีกับการจัดการพลังงานที่เลอโนโวทำได้ดีกว่าหลายแบรนด์ทั้งในระดับเดียวกันและรุ่นที่สูงกว่า รวมถึงประสิทธิภาพที่ให้มาได้คุ้มค่าตัวมาก
ผู้อ่านท่านใดที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน 64 บิตรองรับอนาคต ราคาประหยัด สเปกเครื่องอยู่ระดับกลาง จอใหญ่ แบตฯอึด รับ 3G/4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย และไม่เกี่ยงเรื่องต้องซื้อเครื่องผ่านออนไลน์ในตอนนี้ Lenovo A7000 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก
Company Related Link :
Lenovo
————————————————————————————
อีกหนึ่งช่องทางติดตามไซเบอร์บิซ ออนไลน์ ผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE คลิกเพิ่มเพื่อนที่ปุ่ม Add Friends ด้านล่างจากสมาร์ทโฟนหรือเข้าไลน์ค้นหาไอดี @opu3945f
————————————————————————————