xs
xsm
sm
md
lg

Review : LG Super UHD TV เมื่อ 4K จับกับ Web OS 2.0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




เมื่อพูดถึงชื่อชั้นของแอลจีแล้ว เชื่อได้ว่าในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มจอแสดงผล ปัจจุบันได้ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆของโลกแล้ว รวมถึงในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในระดับราคาที่ผู้บริโภคสามารถซื้อหาได้

เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดของแอลจีอย่าง LG Super UHD TV ที่นำจุดเด่นของสมาร์ททีวีรุ่นเดิมเข้ามาผสมผสานกับเทคโนโลยีในการแสดงผลภาพ Ultra Luminance ในความละเอียดระดับ 4K ที่สำคัญยังรองรับการแสดงผลแบบ 3มิติ ในราคาตั้งแต่ 54,900 - 109,990 บาท ตามขนาดหน้าจอ

การออกแบบและสเปก



สิ่งที่ดูแล้วโดดเด่นที่สุดของ LG Super UHD TV คงหนีไม่พ้นในเรื่องของความสวยงาน ด้วยความบางของตัวเครื่องที่เกิดจากการนำ Panel LED มาใช้งาน ประกอบกับขอบจอ Cinema Screen ที่มีขนาดเล็กลง ทำให้ได้อรรถรสในการรับชมโทรทัศน์มากยิ่งขึ้น



โดยตัวของ LG Super UHD TV รุ่นที่ได้มาทดสอบคือรุ่น 65 นิ้ว จะมีความบางประมาณ 7.9 มม. แต่ถ้าเป็นรุ่น 55 นิ้ว จะหนาขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 8.5 มม.



ในการติดตั้งผู้ใช้สามารถเลือกได้อยู่แล้วว่าจะนำจอภาพไปแขวนไว้กับผนัง ซึ่งภายหลังจอก็จะมีรูน็อตให้ยึดกับขาติดกับผนัง หรือจะใช้ขาตั้งที่แถมมาให้ก็ได้ โดยจำเป็นต้องติดตั้งตัวล็อกเข้าที่บริเวณล่างเครื่อง ก่อนนำมาประกอบกับเหล็กเส้นยาวที่ใช้กระจายน้ำหนักของทีวี หลังจากนั้นก็สามารถนำไปวางเพื่อใช้งานได้ทันที โดยแอลจีเรียกขาตั้งแบบนี้ว่า Auditorium Stand



ส่วนช่องในการเชื่อมต่อต่างๆที่ให้มาด้านหลังเครื่อง จะมีหลักๆด้วยกัน 2 ส่วน คือที่เสียบด้านหลังตรงออกไป ที่จะมีช่องเสียบสายอากาศ RF ช่องเสียบสาย AV สาย Component สาย LAN ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่อง Optical Digital Audio OUT



กับอีกส่วนที่เป็นช่องสำหรับเสียบขนานไปกับตัวเครื่อง โดยจะมีช่องเสียบยูเอสบี 3 ช่อง ที่เป็น USB 3.0 1 ช่อง และ USB 2.0 อีก 2 ช่อง กับพอร์ต HDMI อีก 3 ช่องให้เลือกใช้งานกัน โดยช่องเสียบสายต่างๆหลังนี้จะอยู่บริเวณหลังเครื่องด้านซ้าย (หันหน้าเข้าหาจอ) ขณะที่สายต่อปลั้กไฟจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง



นอกจากตัวเครื่องแล้ว ที่ให้มาในกล่องก็จะมี Magic Remote ที่เป็นรีโมทอัจฉริยะ สามารถใช้พอยเตอร์สั่งงานที่จอภาพได้ทันที และยังใช้เป็นไมค์รับคำสั่งเสียง (Voice Control) ได้ด้วย ขณะที่ปุ่มอื่นๆที่ให้มาก็จะเป็นไปตามมาตรฐาน



สุดท้ายคือแว่นตา 3 มิติ ที่ให้มาใช้งานกับระบบ LG Cinema 3D อีก 4 อัน เพื่อให้ใช้งานร่วมกันได้ทั้งครอบครัว หรือถ้าไม่พอก็สามารถหาซื้อเพิ่มได้

สเปกโดยรวมของ LG Super UHD TV คือหน้าจอความละเอียด 4K (3,840 x 2,160 พิกเซล) รองรับการแสดงผลภาพแบบ 3มิติ ภายในยังมีการนำระบบสมาร์ททีวีอย่าง WebOS 2.0 มาใช้งาน ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน ไวไฟ มาตรฐาน 802.11 b/g/n

โดยหน่วยประมวลผลภายในที่ใช้งานจะเป็นควอดคอร์ 1.1 GHz GPU Mali-T760MP4 RAM DDR 3 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 8 GB ระบบ WebOS 2.0 เวอร์ชันที่ได้มาทดสอบคือ 3.0.02

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ



จุดเด่นหลักๆของ LG Super UHD TV หลักๆแล้วจะมีด้วยกัน 2 ส่วนคือ ส่วนที่มาจากสเปกของฮาร์ดแวร์อย่าง หน้าจอความละเอียดสูงระดับ 4K มีระบบ UpScale จากคอนเทนต์ระดับ Full HD ให้กลายเป็น 4K พร้อมกับรูปแบบการแสดงผลแบบ IPS ทำให้มุมมองในการรับชมกว้างขึ้นกว่าจอภาพแบบปกติ

นอกจากนี้ก็มีการนำเทคโนโลยีของแอลจีอย่าง True Color Accuracy เพื่อให้สีสันของภาพที่ออกมาเสมือนจริง หน้าจอมีความแข็งแรงจากพาแนลที่เป็น IPS ไม่เหมือนกับจอสมัยก่อนที่สัมผัสหน้าจอแล้วจะยุบลงไป

เมื่อรวมกับการแสดงผลภาพแบบ 3มิติ และระบบเสียงของ Harman Kardon พร้อมกับระบบ Ultra Sound ช่วยกระจายพลังเสียงให้ครอบคลุม กรณีที่ไม่ได้เชื่อมต่อเข้ากับชุดเครื่องเสียง โดยรวมแล้วความสามารถจากตัวฮาร์ดแวร์ก็จะมีคร่าวๆเท่านี้



ถัดมาในส่วนของตัวซอฟต์แวร์ หรือระบบภายในตัวเครื่อง เนื่องจากเป็นสมาร์ททีวีที่ใช้ WebOS 2.0 ตัวหน้าต่างการใช้งานหลัก ก็จะมีช่องให้เลือกใช้งานทั้งการเปิด LG Store เพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนทีวีเพิ่มเติม รวมกับที่มีพรีดาวน์โหลดมาให้ในเครื่องอย่าง CTH Mtha Youtube

ก็จะมีพวกแอปพื้นฐานอย่างการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ระบบ Smart Share ที่ดึงคอนเทนต์จากสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตในเครือข่ายเดียวกันมาแสดงบนหน้าจอ มีตัวกำหนดเวลาไว้ตั้งบันทึกรายการเพื่อรับชมย้อนหลังได้ ระบบ Screen Share หรือ Miracast ที่แชร์หน้าจอจากระบบของ Intel WiDi



เข้าไปดูข้อมูลต่างๆของทีวี มีโปรแกรมแต่งภาพแบบพื้นฐาน สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมที่เป็นกล้องเพื่อถ่ายภาพ หรือใช้การสนทนาแบบวิดีโอคอลล์ได้ ที่เหลือก็จะเป็นตัวแอปที่ดาวน์โหลดเพิ่มจากสโตร์ที่มีทั้งคอนเทนต์ และเกมให้ได้เลือกกัน



ในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านทีวี ยกตัวอย่างเช่น กรณีต้องการดู Youtube ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าไปในไวไฟเดียวกัน หลังจากนั้นบนสมาร์ทโฟนให้เข้าแอป Youtube เลือกรายการที่อยากดู แล้วกดปุ่ม Screen Share ที่เป็นรูปจอทีวี หลังจากนั้นก็เลือกทีวี ตัวสมาร์ททีวีก็จะเรียกแอป Youtube ขึ้นมาแสดงผลทันที แน่นอนว่ารองรับการแสดงผลแบบ 4K ด้วย



นอกจากนี้ในระบบ Smart Share ยังใช้สำหรับแชร์รูปแบบ วิดีโอ เพลง จากบนอุปกรณ์พกพาต่างๆมาใช้งานบนทีวีได้ด้วย ทั้งนี้ในการใช้งานระบบต่างๆของสมาร์ททีวี จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับ Wifi ก่อน โดยเมื่อเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรกจะมีหน้าต่างขึ้นมาให้ตั้งค่าอยู่แล้ว หรือถ้าเชื่อมต่อผ่านสายแลนก็สามารถใช้งานได้เลย



ภายในทีวีก็จะมีแอปไว้ใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยสามารถเข้าไปเลือกบุ๊กมาร์คเว็บที่ชื่นชอบ การแสดงผลสามารถเลือกซูมเพื่อให้อ่านได้ชัดเจนขึ้น พร้อมกันนี้ยังสามารถเล่นแฟลชได้ ทำให้กรณีที่ต้องการดูซีรีส์ผ่านเว็บไซต์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการควบคุมจาก Magic Remote



การเข้าใช้งานแอปต่างๆบน WebOS 2.0 อย่างตัว CTH กรณีที่ไม่ได้มีแพกเกจดูออนไลน์ ก็จะมีแพกเกจให้เลือกสมัครทั้งแบบ พรีเมียม หรือเน้นดูบอล ดูคอนเทนต์ความบันเทิง ก็จะมีราคาให้เลือกแตกต่างกัน ทั้งนี้ถ้าซื้อเครื่องใหม่มาก็จะมีให้ทดลองใช้งานก่อน 7 วันด้วย อย่างไรก็ตามในการใช้งานควรต้องคำนึงถึงความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งานด้วย



อย่างตัว Youtube ผู้ใช้สามารถใช้คีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอ เลือกพิมพ์ค้นหาวิดีโอที่ต้องการรับชมได้เลย การแสดงผลก็จะมีช่องขึ้นมาให้เลือก สามารถเข้าไปดูรายละเอียดวิดีโอได้ หรือถ้าใช้การสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนก็สามารถสร้างเพลยลิสต์เพื่อรับชมในทีวีโดยเฉพาะได้ด้วย



สำหรับการเชื่อมต่อกับ Digital TV ทีวีมีตัวแปลงสัญญาณ DVB-T2 อยู่แล้ว เพียงเสียบเสาอากาศเข้าไป เลือกให้ตัวเครื่องค้นหาช่องโดยอัตโนมัติก็พร้อมใช้งานได้ทันที ซึ่งตรงนี้สามารถเลือกบันทึกรายการย้อนหลังได้ โดยตั้งให้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า หรือ เลือกตามตารางข้อมูลที่ส่งมาได้เลย



ในส่วนของการสั่งงานผ่านระบบเสียง (Voice Control) ในการใช้งานยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ส่วนใหญ่พอสั่งงานแล้วกลายเป็นการค้นหาด้วยระบบเสียงมากกว่า เมื่อมีการพูดคำใดออกไป ตัวทีวีก็จะมีหน้าจอแสดงข้อมูลที่ค้นหาขึ้นมา เมื่อกดเข้าไปก็จะเป็นการแสดงข้อมูลจาก Bing ให้เลือกเข้าชม



ทีนี้มาดูถึงโหมดการตั้งค่าต่างๆ อย่างโหมดภาพ ก็จะมีให้เลือกอย่างสดใส มาตรฐาน APS ภาพยนต์ ฟุตบอล เกมส์ รูปแบบ และโหมดอัจฉริยะ 1/2 นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปเลือกปรับค่าต่างๆด้วยตนเองอย่าง ความเข้ม ความสว่าง ความคมชัด ปรับสี และโหมดสีได้ด้วย



ในส่วนของโหมดเสียงก็จะมีให้เลือกเอฟเฟกต์เสียง เลือก Output ว่าจะให้ผ่านทีวีหรือชุดโฮมเธียเตอร์ที่เชื่อมต่อก็ได้ นอกจากนี้ก็จะมีให้เข้าไปเลือกตั้งช่อง ตั้งการเชื่อมต่อ ตั้งการใช้งานรีโมทเดียวควบคุมอุปกรณ์อื่นๆด้วย และดูข้อมูลเครื่อง



นอกจากนี้ ยังมีส่วนของโหมดความปลอดภัย สามารถล็อกรายการทีวี ล็อกช่อง ล็อกแอป ด้วยการตั้งรหัส 4 หลัก รวมถึงเลือกตั้งการเข้าถึงอย่างพอยน์เตอร์บนรีโมท ที่ปรับเลือกความเร็ว และขนาดได้ เพื่อให้สะดวกกับการใช้งาน



สุดท้ายการตั้งค่าโหมด 3มิติ ก็มีให้เลือกที่จะแปลงภาพจาก 2มิติ เป็น 3มิติ หรือเลือกรูปแบบการซ้อนภาพอื่นๆ ตามแต่ต้นฉบับของคอนเทนต์ที่มี เพื่อให้แสดงผลได้ชัดเจนที่สุด



ทั้งนี้ กรณีที่มีการใช้งานกล่องรับสัญญาณดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก อย่างทรูวิชันส์ หรือ ซีทีเอช อยู่แล้ว เมื่อมีการเปิดเครื่องครั้งแรกจะมีให้เลือกตั้งค่ากล่องรับสัญญาณ โดยทีวีจะให้เลือกตั้งค่าช่อง HDMI ที่เชื่อมต่อ ชื่อผู้ให้บริการ ผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณ และประเภทของรีโมท เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตั้ง Magic Remote มาควบคุมแทนการใช้รีโมทของกล่องได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วย

จุดขาย

- จอภาพขนาด 65 นิ้ว ความละเอียด 4K รองรับการแสดงผลภาพ 3D ขอบจอและตัวเครื่องบาง
- ระบบ WebOS 2.0 ที่พัฒนาการใช้งานขึ้นมาให้ใช้ได้ง่ายขึ้น
- คอนเทนต์ที่ให้เลือกใน LG Store มีเพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถสมัครบริการเพิ่มได้

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

- ตัวพอยน์เตอร์ อาจจะใช้งานยากสำหรับผู้สูงอายุ
- ระบบ Voice Commands ยังตอบสนองไม่ค่อยชัดเจน ทำให้เป็นการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมากกว่า

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

ด้วยการที่ตัวโทรทัศน์รองรับการแสดงผลภาพแบบ 4K แต่คอนเทนต์ที่ใช้งานส่วนใหญ่ในบ้านเรายังคงเป็นแบบ SD อยู๋ ทำให้ถ้าจะเลือกซื้อ LG Super UHD TV มาเพื่อชมฟรีทีวีทั่วไป อาจจะทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดกับภาพที่แตก แม้ว่าจะเลือกใช้การรับสัญญาณผ่านดิจิตอลทีวีแล้วก็ตาม

แต่ถ้าผู้ใช้เป็นคนที่นิยมการดูภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ Full HD ต้องการระบบแสดงผลภาพที่ให้ภาพสมจริง ระบบเสียงภายในตัวที่อยู่ในมาตรฐาน Super UHD TV รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญคือรองรับการใช้งานต่อไปในอนาคตอีกหลายปี

ที่สำคัญคือตัวเครื่องเป็นสมาร์ททีวีทำให้เพิ่มความสนุกสนานในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น สำหรับ LG Super UHD TV รุ่น UF850T มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาดหน้าจอคือ 49 นิ้ว ราคา 54,990 บาท ขนาด 55 นิ้ว ราคา 69,990 บาท และขนาด 65 นิ้ว ราคา 109,990 บาท

Company Related Links :
LG




กำลังโหลดความคิดเห็น