ต้องบอกว่าชื่อเสียงของ ScoPad เริ่มจากแท็บเล็ต ป.1 OTPC (One Tablet Per Child) ที่ทางเซินเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิค ดีเวลลอปเมนต์ ประเทศจีนเป็นผู้ผลิตให้รัฐบาลไทย จนมาถึงการนำแบรนด์ ScoPad เข้ามาทำตลาดแท็บเล็ตราคาประหยัดอย่างเป็ํนทางการกับ Advice ในรุ่น ScoPad Hercules ที่ตั้งราคาขายโดนใจผู้บริโภตคนไทยอย่างมาก
มาวันนี้ ScoPad ต่อยอดความสำเร็จของแท็บเล็ตราคาประหยัดเพื่อคนไทยทุกคนอีกครั้ง กับ ScoPad Iron ที่เหมืือนเป็นการนำแท็บเล็ต ป.1 มาปรับปรุงสเปกให้ดีขึ้นพร้อมตั้งขายด้วยราคาเพียง 2,990 บาทเท่านั้น
การออกแบบ
ScoPad Iron ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมเนื้อหยาบที่ฝาหลัง ส่วนด้านหน้าเป็นจอ TFT LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1,024x600 พิกเซล พร้อมขนาดตัวเครื่อง 184.00 x 131.00 มิลลิเมตร หนา 11.9 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 360 กรัม
ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดประมาณ 300,000 พิกเซลเท่านั้น
ด้านพอร์ตเชื่อมต่อและปุ่มกดรอบตัวเครื่่อง จากด้านขวาจะเป็นปุ่มเปิดปิด, ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง ปุ่มล็อคหน้าจอหมุน และไมโครโฟนรับเสียง
ส่วนด้านซ้ายจะเป็นช่องเสียบอะแดปเตอร์ชารจ์ไฟและพอร์ต MicroUSB
มาที่ด้านบนของ ScoPad Iron จากซ้ายสุดจะเป็นลำโพงกระจายเสียง ส่วนด้านขวาสุดจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและช่อง MicroSD รองรับความจุสูงสุด 32GB
สเปก
ด้านสเปกตัวเครื่อง สำหรับหน่วยประมวลผลที่เลือกใช้ใน Iron เป็นชิป Rockchip 3066 Dual Core ความเร็ว 1.5GHz พร้อมกราฟิก Mali-400MP แรม 1GB ส่วนพื้นที่ใช้งานจริงอยู่ที่ 5.83GB จากขนาด 8GB ตามที่สเปกระบุไว้
ส่วนระบบปฏิบัติการที่ Iron เรียกใช้จะเป็นแอนดรอยด์ Jelly Bean 4.2.2 ที่ใช้หน้าตาของ Jelly Bean เพียวๆ ไม่มีตัดแต่ง
สำหรับระบบเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ ScoPad Iron จะไม่มี Bluetooth 3G และ GPS มาให้ แต่จะมี WiFi 802.11b/g/n สำหรับใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น ส่วนแบตเตอรีภายในเป็น Li-ion ขนาด 3,700 mAh
UI และฟีีเจอร์เด่น
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ScoPad Iron เป็นแอนดรอยด์ 4.2.2 เพียวๆ เพราะฉะนั้นหน้าตาจะเรียบๆ ไม่เน้นแอปฯ หรือ Widgets ที่ Built-in มาแบบแบรนด์อื่นให้หนักซีพียู (อยากได้ต้องไปหาดาวน์โหลดเองจาก Play Store) ทำให้การใช้งานในหน้าโฮมสกรีนค่อนข้างลื่นไหลมาก
ด้านกล้องถ่ายภาพ อินเตอร์เฟสจะออกแนวเรียบง่าย โดยถ้าผู้ใช้กดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้สักครู่ จะเข้าสู่เมนูปรับแต่งค่ากล้อง เช่น White Balance, ตังเวลาถ่าย เป็นต้น
ส่วนภาพที่ได้จากกล้องหลังของ ScoPad Iron ถือว่าใช้แค่แก้ขัดได้เวลาจำเป็นต้องใช้จริงๆ เท่านั้น เพราะภาพที่ได้ไม่มีทั้งความคมชัด และสีสันที่หม่นไม่น่ามอง
ทดสอบประสิทธิภาพ
มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพด้วยราคาค่าตัว 2,990 บาทไปถึงสเปกดูอัลคอร์ พร้อมหน้าจอที่ไร้ความคมชัด สีสันมุมมองจอก็แคบชวนปวดตา ไม่เหมาะกับทำเป็น ebook reader
แต่ในเรื่องประสิทธิภาพที่ได้กลับทำได้ดีเกินคาด การรันแอปฯทดสอบ ดูวิดีโอ 1080p ไปถึงการใช้งานจริงค่อนข้างลื่นไหล ถึงแม้จะไม่มากเหมือนแท็บเล็ตรุ่นกลาง-ท็อปในตลาด แต่ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมกับราคาค่าตัว 2,990 บาท
ผลการทดสอบ
MultiTouch Tester = 5 จุดพร้อมกัน
NenaMark 1 = 63.9fps
NenaMark 2 = 63.9fps
Quadrant Standard = 4,139
AnTuTu = 10,625
Vellamo HTML5 = 1,582
Vellamo Metal = 487
จุดขาย
- ราคาไม่แพง
- แอนดรอยด์ 4.2.2 แบบเพียวๆ ทำงานลื่นไหล
- วัสดุด้านหลังเป็นอะลูมิเนียม ทนรอยขูดขีดได้พอควร
ตอบจุดขายหรือไม่/ข้อสังเกต
- จอไม่คมชัด มุมมองแคบ เพ่งอ่านหนังสือดิจิตอลนานๆ ปวดตา
- งานประกอบ เก็บรายละเอียดไม่ดี
- กล้องไม่คมชัด
- ไม่มี Bluetooth, GPS
- แบตเตอรีไม่ทน
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
ScoPad Iron กับราคาค่าตัว 2,990 บาทเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่า ผู้ใช้ที่มีเงินในกระเป๋าไม่มาก กำลังมองหาแท็บเล็ตขนาดไม่ใหญ่มาให้ลูกให้หลานเล่น ScoPad Iron ถือเป็นตัวเลือกน่าสนใจ
แต่ถ้าผู้อ่านกำลังมองหาแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วพอดีมือเพื่อนำมาอ่านหนังสือดิจิตอล พกพาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชื่นชอบการถ่ายรูปด้วยแท็บเล็ตเพื่อแชร์ไปเครือข่ายสังคม ขอให้มองข้ามและเก็บเงินเพิ่มให้ได้ 5-6 พันเพื่อมองดูรุ่นที่สูงกว่าหรือย้ายไปแบรนด์อื่นๆ เลยจะดีกว่า
CyberBiz Social
