ในที่สุดวินโดวส์โฟนก็เริ่มจับตลาดล่างอย่างเป็นจริงเป็นจัง ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมระบบวินโดวส์โฟน8 ด้วยราคาเพียง 5,850 เท่านั้น หากแต่การลงมาวิ่งในตลาดล่างกลับมีฟีเจอร์ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ซึ่งนับว่าเป็นการเรียกกระแสให้คนหันกลับมาใช้โนเกียได้อย่างสนิทใจ โดยผู้ใช้จะได้ทั้งมือถือแบรนด์ดังในอดีตที่มาพร้อมระบบรุ่นใหม่อย่างวินโดวส์โฟนซึ่งรองรับการใช้งานคลาวด์ในตัว
ความโดดเด่นของ Lumia 520 นั้น หากไม่นับว่าเป็นเครื่องที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ วินโดวส์โฟน 8 แล้วละก็แทบจะไม่มีความโดดเด่นเท่าใดนักเมื่อเทียบกับอีกหลายๆยี่ห้อที่มีอยู่ในท้องตลาด แต่เมื่อรวมความเป็นสมาร์ทโฟนด้วยระบบวินโดวส์โฟนเข้าไปด้วยแล้ว ก็ทำให้ Lumia 520 กลายเป็นเรื่องสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีราคาต่ำกว่า 6 พันบาทไปโดยทันที การติดตั้งฟีเจอร์ที่ค่อนข้างครบครัน แม้ว่าจะไม่เด่นด้านใดชัดเจน แต่ก็ถือว่ามีทุกอย่างครบในราคาที่ถูก ซึ่งก็น่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้สมาร์ทโฟนเป็นหลักนั่นเอง
การออกแบบและสเปกเครื่อง
น้องเล็กอย่าง Lumia 520 แม้ว่าราคาจะเป็นแบบเบาเบาแต่เรื่องของความคุ้มค่านั้นต้องบอกเลยว่าเกินร้อย ด้วยรูปร่างการออกแบบที่ยึดหลักโมโนบล็อกเช่นเดียวกับรุ่นพี่ทั้งหลายแล้ว การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลก็เป็นอีกหนึ่งการประกาศเจตนารมณ์รักษ์โลกอย่างชัดเจน แต่ก็มีที่แตกต่างอยู่บ้างนั่นก็คือสามารถถอดเปลี่ยนฝาหลังได้ทำให้การใส่ซิมหรือการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำสามารถเปิดฝาแล้วใส่ได้เลย ไม่เหมือนรุ่นพี่ที่ต้องใช้เหล็กแหลมทิ่มเพื่อให้ถาดไมโครซิมหรือถาดไมโครเอสดีการ์ดเด้งออกมาก่อน
ด้วยขนาดของตัวเครื่อง 119.9 x 64 x 9.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 124 กรัมเท่านั้น ทำให้การใช้งานด้วยมือเดียวสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่การการออกแบบด้านหลังให้เว้าเข้าไปมากกว่าด้านหน้าก็ช่วยให้จับกระชับมือมากขึ้น แน่นอนว่าการถอดฝาหลังออกก็เป็นเรื่องง่ายขึ้นจากการเว้าแบบที่ว่านี้ โดยรวมก็นับว่ามีการออกแบบที่เรียบง่ายไม่ได้มีความโดดเด่นแต่อย่างใดสำหรับ Lumia 520 เครื่องนี้
ด้านหน้า - หากมองจากด้านหน้าจะมีโลโก้โนเกียอยู่ด้านบนพร้อมลำโพงเสียงสนทนา ส่วนด้านล่างของจอจะเป็นปุ่มกดแบบสัมผัส 3 ปุ่มหลัก เช่นปุ่มโฮม ย้อนกลับ และค้นหา ซึ่งเป็นปุ่มมาตรฐานสำหรับวินโดวส์โฟนอยู่แล้ว
ด้านหลัง - มีกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซลผลิตจากเลนส์เฉพาะสำหรับโนเกียเท่านั้น ถัดลงมาเป็นโลโก้โนเกียสีดำ และด้านล่างสุดเป็นช่องลำโพง ฝาหลังสามารถถอดเปลี่ยนได้โดยมีให้เลือกซื้อเพิ่มกว่า 5 สีด้วยกัน (เหลือง ฟ้า แดง ขาว ดำ)
ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ด้านล่าง - เป็นช่องสำหรับต่อไมโครยูเอสบี
ด้านขวา - มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องขนาดเล็กถัดลงมาด้านล่างมีปุ่มปรับระดับเสียงแบบปุ่มยาว และถัดลงมาด้านล่างสุดมีปุ่มกดชัตเตอร์เพื่อการเรียกใช้งานกล้องได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ด้านซ้าย - ไม่มีปุ่มหรือช่องเสียบใดๆ
สำหรับสเปกเครื่องของ Nokia Lumia 520 นั้น เริ่มจากหน้าจอแบบ IPS Capacitive 16 ล้านสี ขนาด 4 นิ้ว ด้วยความละเอียดหน้าจอ WVGA 800 x 480 พิกเซล พร้อมความหนาแน่นพิกเซลที่ 235 ppi มีเซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ เพื่อเพิ่มการมองเห็นในตำแหน่งด้านข้างจอได้ดีขึ้น ตอบสนองการสัมผัสที่รวดเร็วด้วยเทคโนโลยี Super-sensitive touch กดปุ่มได้แม้สวมถุงมืออยู่
Lumia 520 มาพร้อมหน่วยประมวลผล Snapdragon S4 แบบ Dual-core ความเร็ว 1 GHz รองรับเครือข่าย 3G ย่านความถี่ 850 / 900 /1800 / 2100 MHz ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 21 Mbps ความจุเครื่องทดสอบ 8 GB RAM 512 MB รองรับไมโครเอสดีการ์ดสูงสุดที่ 64 GB และแถมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ 7GB (SkyDrive) ตามแบบฉบับวินโดวส์โฟน โดยแบ่งเป็น 2 เวอร์ชันตามการจำกัดเฉพาะความถี่ 850/1900 และรุ่นความถี่ 900/2100 เท่านั้น
มีกล้องหลังเพียงกล้องเดียว โดยให้ความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งานพาโนรามา สมาร์ตชู้ต และ Cinemagraph เอกสิทธิ์เฉพาะโนเกีย หรือหากต้องการเพิ่มเติมก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก Windows Phone Store โดยเมื่อลองถ่ายในที่ที่มีแสงไม่มากนักภาพที่ได้ออกมาจะสีซีดอยู่บ้างเนื่องจากมีการเร่งอนุภาคแสงเพื่อให้กล้องจับโฟกัสภาพได้นั่นเอง แต่ก็ยังถือว่าเป็นกล้องที่ดีในกลุ่ม 5 ล้านพิกเซล
มีระบบระบุพิกัดแบบ A-GPS และ GLONASS สอดรับกับการใช้งานโปรแกรมแผนที่และนำทางทั้งหลายในตระกูล Here ที่ทำมาสำหรับโนเกียโดยเฉพาะ โดยแอปพื้นฐานที่มาพร้อมเครื่องใหม่เลยนั้นมีแอปนำทางอยู่ 2 โปรแกรม นั่นก็คือ Here Map และ Here Drive โดยจากการทดสอบเปิดระบบนำทางแบบขับรถนั้นยังไม่เป็นที่ประทับใจเท่าไหร่ เพราะบ่อยครั้งยังบอกให้เลี้ยวช้ากว่าสถานะการจริง
Lumia 520 มาพร้อมพลังงานแบตเตอรี่กว่า 1430 mAh ซึ่งหากเทียบกับฟีเจอร์ที่ให้มานั้นก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งาน โดยสามารถใช้งานได้นานกว่า 4 วันในการใช้งานแบบสลับไปมาระหว่างการโทรและการท่องอินเทอร์เน็ตที่ไม่หนักจนเกินไป โดยรวมนับว่าฟีเจอร์ของ Lumia 520 นั้นมีมาให้อย่างครบครัน แม้ว่าจะไม่มีอย่างหนึ่งอย่างใดโดดเด่นขึ้นมาชัดเจนแต่ก็พร้อมใช้งานในทุกๆฟีเจอร์แบบเกินราคาซึ่งประกาศเปิดตัวอยู่ที่ 5,850 บาทเท่านั้น
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
Lumia 520 ไม่ได้มีความโดดเด่นด้านใดเป็นพิเศษ แต่จะเรียกว่าเป็นมือถือที่คุ้มค่าด้วยราคามากกว่า และแม้ว่าจะเป็นมือถือที่ราคาไม่ถึง 6 พันบาท แต่ก็สามารถใช้งานด้าน office 365 ซึ่งเป็นแอปที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องได้ทันที ขณะที่การใช้งานกล้องแม้ว่าจะไม่เด่นแต่ก็สามารถเพิ่มเติมเอฟเฟกต์ต่างๆเพื่อช่วยให้การถ่ายภาพสนุกสนานมากยิ่งขึ้นได้ การใช้งานด้านระบบคลาวด์ก็รองรับทันทีเช่นระบบ SkyDrive ที่เตรียมพื้นที่ให้ใช้กว่า 7GB สำหรับผู้ใช้วินโดวส์โฟน หรือจะเป็นการเปิดระบบนำทางเพื่อหาเส้นทางคร่าวๆเพื่อให้การเดินทางทริปสำคัญครบรสชาดมากขึ้น Lumia 520 ก็สามารถตอบโจทย์ทั้งหมดที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ความโดดเด่นของวินโดวส์โฟน 8 ยังมีในส่วนของการสร้างเว็บ Windowsphone.com เพื่อนำเสนอแอปสำหรับการค้นหาโทรศัพท์ผ่านหน้าเว็บ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถรองรับวินโดวส์โฟนทุกรุ่นที่มีขายอยู่ในท้องตลาด เพียงแค่เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีไมโครซอฟท์และทำการเพิ่มอุปกรณ์ซึ่งก็คือมือถือที่ใช้ระบบวินโดวส์โฟนเข้าไป เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้ได้ว่าเครื่องมือถือของคุณนั้นอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้ หรือแม้กระทั่งสามารถสั่งปิดเครื่อง หรือสั่งให้โทรออกเพื่อให้คุณได้ยินเสียงและค้นหาเครื่องมือถือเจอในที่สุด
สำหรับการทดสอบเครื่องด้วยแอปพลิเคชันทดสอบ AnTuTu Benchmark สำหรับเวอร์ชันวินโดวส์ ได้คะแนนทดสอบ 7.714 คะแนน ขณะที่การทดสอบโดยโปรแกรม MultiBench 2 ได้คะแนนด้านซีพียู 11,644 คะแนน ด้านการส่งผ่านข้อมูล 16.479 คะแนน ด้านเมโมรี 1.849 คะแนน ขณะที่ด้านกราฟิกได้ 29.671 คะแนน โดยรวมก็นับว่าทำคะแนนออกมาได้คุ้มราคา ทั้งนี้การทดสอบดังกล่าวเป็นเพียงการทดสอบและเปรียบเทียบกับเครื่องมือถือที่ใช้ระบบวินโดวส์โฟนเหมือนกันเท่านั้น
จุดเด่น
ราคาเป็นสิ่งที่ Lumia 520 เด่นมากที่สุด เพราะหากคุณต้องการมือถือสักเครื่องที่มีฟีเจอร์ครบครันแบบพอใช้งาน ไม่ต้องดีเลิศเลอแบบที่จับต้องไม่ได้ Lumia 520 ก็น่าจะเป็นตัวเลือกอีกข้อที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
ข้อสังเกต
การซิงค์ข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นแบบอัตโนมัติ หากมองจากราคาของเครื่องที่จับกลุ่มตลาดล่างแล้วนั้น ผู้ใช้งานอาจจะต้องพึงระวังเรื่องค่าใช้จ่ายด้านข้อมูลจากผู้ให้บริการที่ใช้อยู่ด้วย โดยสามารถเข้าไปในส่วนของการตั้งค่าและปรับการใช้งานให้หยุดการอัพโหลดอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเกิดค่าใช้จ่ายโดยที่คุณไม่รู้ตัว
ฟันธงความคุ้มค่าของ Lumia 520
Lumia 520 นับว่าเป็นมือถืออีกรุ่นที่คุ้มค่าและน่าใช้เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายออกไปกว่า 5,850 บาท เนื่องจากฟีเจอร์ที่ครบครันดังที่กล่าวมาแล้ว แถมใช้งานได้จริงในแบบของวินโดวส์ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยอยู่แล้วจากคอมพิวเตอร์ แนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มหัดใช้งานสมาร์ทโฟนใหม่ๆ ราคาเท่านี้สามารถจับจองมาลองวิชาได้ไม่เสียหลาย
Company Related Link :
NOKIA