ปีที่แล้วเราได้เห็นเอเซอร์ (Acer) เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่ง ที่มีความโดดเด่นในแง่ของการออกแบบ และประสิทธิภาพที่เรียกว่าเข้าขั้นคุณภาพออกมาสู่ตลาดรุ่นหนึ่ง โดยเสียงตอบรับอยู่ในเกณฑ์ที่ถือว่า ใช้ได้ อย่าง Acer CloudMobile S500
ในปีนี้ ปี 2013 เอเซอร์กลับมาจับตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง แต่การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาเดี่ยวๆ แต่กลับเรียกพาร์ทเนอร์ดั้งเดิม ที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสร่วมวงธุรกิจสมาร์ทโฟนมากนักอย่างอินเทล (Intel) มาด้วย
โดยการมาของอินเทลในครั้งนี้นั้น มีหน้าที่ผลิตชิปประมวลผล ซึ่งชิปดังกล่าว เป็นชิปที่มีชื่อว่า Intel Atom และนี่ถือเป็นโอกาสอันดีของทั้งเอเซอร์ และอินเทล ที่จะนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ต้อนรับปี 2013 กับรุ่นนี้ Acer Liquid C1
การออกแบบและสเปกเครื่อง
รูปร่างของ Liquid C1 ค่อนข้างใหญ่กว่า CloudMobile S500 อยู่สักหน่อย แต่ว่าเรื่องของการออกแบบต้องยอมรับว่า ทำได้น่าสนใจ
ตัวเครื่องมีลูกเล่นเล็กน้อย ตรงด้านหลังของเครื่องที่จะมีวัสดุคล้ายยางกันลื่น ส่วนบริเวณรอบตัวเครื่องจะมีวัสดุที่คล้ายๆ อลูมิเนียมรายล้อมอยู่
ด้านหน้า - ขนาดหน้าจอเครื่องอยู่ที่ ด้านบนสุดจะมีโลโก้ acer อย่างเด่นชัด ตามมาด้วยลำโพงสนทนา ถัดมาด้านขวาจะมีกล้องหน้า และไฟ LED แสดง notification ล่างสุดจะมีปุ่ม capacitive 3 ปุ่ม ประกอบไปด้วย ปุ่ม Back ปุ่ม Home และปุ่ม Menu
ด้านซ้าย - มีเฉพาะพอร์ทไมโครยูเอสบี สำหรับชาร์จ และโอนถ่ายข้อมูลเท่านั้น
ด้านขวา - ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง
ด้านบน - ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน
ด้านล่าง - มีช่องสำหรับแงะไว้เปิดฝาหลังเครื่อง
ด้านหลัง - จะเป็นยางกันลื่น ตรงกลางมีโลโก้ของ acer ด้านบนเป็นกล้องความละเอียด แฟลช ถัดลงไปล่างสุดมีตราของ intel และลำโพงเครื่อง
สำหรับสเปกเครื่องจะประกอบไปด้วย สมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 4.3 นิ้ว ความละเอียด qHD 540x960 พิกเซล ชนิด IPS LCD น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 139 กรัม หน่วยความจำเครื่อง 4GB หน่วยความจำสำรอง กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ใช้ออโตโฟกัสได้ มี LED แฟลช ชิปประมวลผล Intel Atom Z2420 Lexington ความเร็วในการประมวล 1.2GHz ชิปกราฟิก PowerVR SGX 540 แบตเตอรี Li-Ion 2000 mAh ระบบปฏิบัติการหลักเป็นแอนดรอยด์ 4.0.4 และสามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 4.1 ได้
ด้านเครือข่าย 3G รุ่นนี้รองรับ 3G ทั้ง 3 ค่ายหลักในประเทศไทย ตั้งแต่คลื่น 850, 900 และ 2100 MHz
ฟีเจอร์เด่นประจำตัวเครื่อง
ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว Acer Liquid C1 แทบไม่มีฟีเจอร์อะไรเลย ความรู้สึกเหมือนกับคุณกำลังจับสมาร์ทโฟน Pure Google สักรุ่นหนึ่ง
กล้อง สำหรับฟีเจอร์กล้องที่มีมาของ Liquid C1 จะมีให้มาทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
ในโหมดของกล้อง จะมี 2 โหมด คือ Single กับ Burst Shot ส่วนฟีเจอร์าการปรับแต่งอื่นๆ ก็จะมีให้ทั้ง White Balance Exposure Color Effect ส่วนเรื่องของ Scene Mode ก็จะมีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน
แต่เรื่องการทำงานของกล้องค่อนข้างช้า จังหวะการจับชัตเตอร์ค่อนข้างอืด ส่วนนี้เป็นเพราะว่า Liquid C1 ไม่มี Zero-Lag ที่สำคัญพื้นที่สำหรับการดูหน้าจอค่อนข้างแคบ น่าสงสัยว่า ทำไมถึงเว้นพื้นที่ตรงชัตเตอร์ไว้มากขนาดนั้น
นอกจากนี้แล้ว ภายในตัวโมดูลกล้องก็ไม่มีโหมดการถ่ายภาพแบบ HDR
โดยภาพรวมคุณภาพของกล้องหลัง ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไม่หวือหวามาก ส่วนกล้องหน้า ยังทำได้ไม่ดี ถ้าใช้งานในที่ๆ แสงสว่างน้อย การใช้งานกล้องหน้าแทบใช้งานไม่ได้เลย ขณะเดียวกันถ้าใช้กล้องหน้าในที่ๆ มีแสงเช่น แสงไฟบ้านก็พอใช้ได้ แต่ก็จะมีนอยซ์เยอะอยู่เหมือนกัน
ด้านการฟังเพลง ภายในตัวเครื่อง Liquid C1 ไม่มี Equalizer สำหรับปรับแต่งเสียงมาให้ ดังนั้นอรรถรสในการฟังเพลง อาจไม่มีในส่วนนี้สักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าใครที่ชอบฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนก็อาจผิดหวังสักหน่อย
ความรู้สึกหลังการใช้งาน
ยอมรับเลยว่า รูปร่างหน้าตาของ Liquid C1 จะค่อนข้างดูดีในระดับหนึ่ง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า รุ่นนี้ได้รับอิทธิพลจากการออกแบบของ CloudMobile S500 พอสมควร
การใช้งาน ถือว่าตอบสนองได้ดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่าไม่มีอินเตอร์เฟสที่เป็นลายเซ็นของตัวเองเลย ทำให้ตัวเครื่องดูไม่มีจุดเด่นอะไรให้จดจำมากนัก
ส่วนสเปกเครื่อง ตามที่ดูจากสเปกชีทแล้ว ถือว่า ใช้ได้เลยทีเดียว เมื่อเอาคุณภาพของสเปกมาเทียบต่อราคา เพียงแต่ว่าจุดอ่อนของรุ่นนี้ ก็คงเป็นเรื่องเดิมๆ ในเมื่อสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่น ส่วนใหญ่มักจะมีหน่วยความจำเครื่อง และหน่วยความจำสำรองที่น้อยจนเกินไป จุดนี้น่าจะมีปัญหาต่อการใช้งานไม่น้อยเลยทีเดียว
ด้านการทดสอบด้วย Benchmark
เมื่อทดสอบด้วย Quadrant Benchmark ได้ไป 2534
AnTuTu - 6993
Neocore - 58.5fps
Vellamo HTML5 - 1205 และ Metal 431
และพร้องรองรับการสัมผัมพร้อมกัน 5 จุด
จุดเด่น
-แบตเตอรี่ชาร์จเร็วมาก
-ดีไซน์เครื่องค่อนข้างสวยงาม
-ราคาไม่แพงมาก
-รองรับ 3G ในคลื่น 850, 900 และ 2100
-อัปเกรดเป็น Jelly Bean 4.1 ได้
จุดด้อย
-เรื่องของ Auto Brightness ยังทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากว่า ในหลายๆ ครั้งแสงที่หน้าจอปรับอัตโนมัติแล้ว สายตามองจอไม่เห็น
-หน่วยความจำเครื่อง และหน่วยความจำสำรองค่อนข้างน้อย
-แบตเตอรีหมดไวมาก (ขณะทดสอบเล่นแค่ทวิตเตอร์, ไลน์, เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชันฟีดข่าว)
ฟันธง! ความคุ้มค่าและเม็ดเงินที่เสียไป
ช่วงนี้ รู้สึกว่าเอเซอร์ พยายามตีตลาดสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตในราคาประหยัดอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เราคงได้เห็นกันแล้วว่า เอเซอร์ เปิดตัวแท็บเล็ตราคาประหยัดอย่าง Iconia B1 มาแล้ว คราวนี้ Liquid C1 ก็ยังถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาที่ไม่แพงมากเช่นกัน เพียงแค่ 9,990 บาท แต่ว่า ถ้ามองโดยภาพรวม Liquid C1 ไม่ค่อยมีฟีเจอร์ให้เล่นมากนัก ดังนั้นเมื่อนำ Liquid C1 มาเทียบกับคู่แข่งแบรนด์อื่นๆ ที่มีราคาจำหน่ายใกล้เคียงกัน ดูแล้วเอเซอร์คงต้องลำบากสักหน่อย กับการทำตลาดกับ Acer Liquid C1