ตลาดแท็บเล็ต เปรียบเสมือนตลาดใหม่ ที่ไม่ว่าใครหน้าไหน ต่างต้องการเข้ามาจับจองพื้นที่ จากเดิมตลาดนี้มีที่ว่างเฉพาะรุ่นไฮเอนด์ แต่ในปัจจุบันขอโทษที ที่ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว
ด้วยความที่ผู้บริโภคมีความต้องการอยากใช้แท็บเล็ตมากขึ้น แต่ตัวแปรสำคัญอย่าง 'เงินในกระเป๋า' ของผู้บริโภคแต่ละคนไม่เท่ากัน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แท็บเล็ต จะถูกซอยย่อยออกมา ให้ตรงกับระดับการใช้งานของผู้ใช้
ในปัจจุบันอินเตอร์แบรนด์หลายเจ้า เลือกที่จะเล่นตลาดแท็บเล็ตครบทั้ง 3 ระดับ ตั้งแต่ไฮเอนด์ มิดเอนด์ ไปจนถึงโลว์เอนด์ โดยเฉพาะกูเกิล ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ตัวจริงเสียงจริง เลือกที่จะเข็นแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ตีตลาดในราคากลุ่มลูกค้าล่างอย่าง Nexus 7 ออกมาในราคาประหยัด แถมด้วยสเปกที่ค่อนข้างดี ยิ่งทำให้ตลาดแท็บเล็ตนี้น่าสนุกยิ่งขึ้น และมีการแข่งขันที่ยากขึ้น
เมื่อกูเกิลลงมาเล่นตลาดแท็บเล็ตระดับล่างด้วยตัวเอง ย่อมทำให้ผู้ผลิตแท็บเล็ตแบรนด์อื่นๆ จำต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้า ซึ่งในเวลานี้แบรนด์ที่มีการวางโพซิชันของสินค้าได้อย่างชัดเจน เห็นทีจะหนีไม่พ้นเอเซอร์ (Acer) กับแท็บเล็ตที่มีชื่อรุ่นว่า Acer Iconia B1
สำหรับ Iconia B1 เป็นแท็บเล็ตที่มีราคาประหยัด เพียงแค่ 3,990 บาท เป้าหมายหลักของรุ่นนี้ างไว้อย่างชัดเจน นั่นคือ การเป็นแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ และนี่คือการรีวิวฉบับเต็มของ Acer Iconia B1
สเปกเครื่องและการออกแบบ
ก่อนอื่นเลย ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า นี่เป็นแท็บเล็ตราคาประหยัด ดังนั้น สเปก งานประกอบต่างๆ จะไม่เหมือนกับรุ่นระดับกลางๆ หรือไฮเอนด์ ที่เคยสัมผัส หรือทดลองใช้งานกันมา
ในแง่ของสเปก ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว โดยชิปประมวลผลใช้บริการของ Mediatek ดูอัลคอร์ 1.2GHz หน่วยความจำสำรอง 512MB หน่วยความจำเครื่องให้มาแบบพอประหยัด 8GB รองรับไมโครเอสดีที่ 32GB แบตเตอรี 2710 mAh กล้องจะมีเฉพาะกล้องหน้าเท่านั้น ระบบปฏิบัติการเป็นแอนดรอยด์ 4.1
ตัวเครื่องแน่นอนว่า ต้องมีขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 600x1024 พิกเซล
ต่อมาเป็นเรื่องของการออกแบบ ส่วนตัวค่อนข้างชอบ เพราะตัวเครื่องออกมาได้ดูดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่าตรงพื้นที่การใช้งานบริเวณหน้าจอนั้น มีขอบสีดำ กินพื้นที่เยอะไปสักหน่อย
ด้านหน้า - หน้าจอขนาด 7 นิ้ว มีกล้องหน้า มีความละเอียดแค่ 3 แสนพิกเซล หน้าที่หลักมีไว้ใช้ฟีเจอร์วิดีโอคอลล์ แต่ถ้าเอามาถ่ายรูปตัวผู้ใช้ ก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
ด้านหลัง - จะเป็นสีดำสนิท วัสดุเป็นโลหะ ตรงกลางบ่งบอกโลโก้ว่านี่คือ Acer ถัดลงมาด้านล่าง เป็นชื่อรุ่น Iconia B1
ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐานเพียงอย่างเดียว
ด้านล่าง - มีพอร์ทไมโครยูเอสบี สำหรับชาร์จประจุเครื่อง และข้างๆ จะเป็นช่องใส่ไมโครเอสดี
ด้านซ้าย - โล่งไม่มีอะไร จะมีแต่เพียงขอบสีน้ำเงินเท่านั้น
ด้านขวา - มีปุ่มใช้งานหลักๆ 2 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ล็อคหน้าจอ และปรับระดับเพิ่ม/ลดเสียง และมีไมโครโฟนเล็กๆ อยู่
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว Iconia B1 แทบไม่มีฟีเจอร์อะไรเด่นๆ ใส่เข้ามาเลย หลักๆ คือเป็น Pure Google แบบดิบๆ แต่จะแตกต่างตรงที่ฝังแอปพลิเคชันสำหรับการศึกษาเอาไว้ ซึ่งนั่นก็คือ แอปพลิเคชัน Acer Smart
โดยความสามารถของ Acer Smart คือ การเป็นสื่อการเรียน การสอนให้แก่เด็ก ตรงตามคอนเซปต์ของ Iconia B1 ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเอกสารสื่อลงสู่เครื่อง
กล้อง ฟีเจอร์นี้ อย่างที่เรียนไว้ข้างต้นแล้วว่า จะมีมาเฉพาะกล้องหน้า ส่วนกล้องหลังไม่มีมาให้ ดังนั้นหน้าที่หลักก็จะมีเพียงแค่ทำวิดีโอคอลล์ แต่ถ้าถามว่าคุณภาพของวิดีโอคอลล์เป็นอย่างไร ตอบตามความเป็นจริงว่า ด้วยกล้องหน้าที่มีความละเอียดเพียง 3 แสนพิกเซล ดังนั้นคุณภาพก็จะอยู่แค่ระดับที่เหมาะสมกับราคา
มาดูกันที่คะแนน Benchmark กันบ้าง
Quadrant Benchmark - 3231
AnTuTu - 6631
Vellamo HTML5 - 1250, Metal -375
คะแนนจาก NenaMark - 39.8fps และ NenaMark 20.4fps
และตัวเครื่องสามารถสัมผัสได้พร้อมกัน 5 จุด
จุดเด่น
-ราคาไม่แพง
-บอกเป้าหมายชัดเจนว่า เน้นสำหรับการศึกษา
-ตัวเครื่องสวยงาม น่าดูชม
จุดด้อย
-ขอบจอสีดำกินพื้นที่หน้าจอเยอะไปหน่อย
-เรื่องของแบตเตอรี จากเครื่องทดสอบพบว่่า การชาร์จประจุเข้าเครื่องทำได้ค่อนข้างช้า
-แบตเตอรีไม่อึด
-กล้องหน้า ไม่เหมาะต่อการถ่ายภาพตัวเอง แต่เหมาะสำหรับการทำวิดีโอคอลล์เท่านั้น
-การใช้งานต้องระวังเรื่องของ RAM หมด เพราะ RAM ที่ให้มาค่อนข้างน้อย
พันธง! ความคุ้มค่า
อย่างที่จั่วหัวไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า Iconia B1 หาใช่แท็บเล็ตราคาแพง ประสิทธิภาพสูงอย่างรุ่นอื่นๆ ที่มีขายตามท้องตลาด แต่ทว่า Iconia B1 ถือเป็นแท็บเล็ตที่มีจุดมุ่งหมายของตัวเองชัดเจน คือการทำตลาดในภาคการศึกษา จึงมีเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น
นอกจากนี้แล้ว ด้วยราคาตัวเครื่องที่ไม่แพงมากนัก สามารถที่จะก้าวเข้าไปจับตลาดกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง อย่างกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี (Geek) เพื่อที่เอาไว้ล้วง แคะ แกะ เกาเครื่อง หรือไปจับตลาดกลุ่มเด็กมัธยมผู้ซึ่งกำลังสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
