เมื่อปีที่แล้วทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ได้รับอัลตร้าบุ๊กสุดแกร่ง Lenovo ThinkPad X1 ด้วยความสามารถพิเศษในเรื่องการรองรับการตกการกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม มาวันนี้ X1 ต่อยอดความสำเร็จเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีแล็ปท็อปในตระกูล ThinkPad กับ "Lenovo X1 Carbon" ด้วยการปรับเปลี่ยนสเปกด้วยการอัปเกรดเครื่องใน X1 รุ่นแรงใหม่ในขณะที่ความแข็งแกร่งยังคงเดิม
การออกแบบและสเปก
Lenovo X1 Carbon ถูกออกแบบโดยใช้วัสดุเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ผสมอะลูมิเนียมบนสายการผลิตแบบอัลตร้าบุ๊ก ทำให้มีน้ำหนักเพียง 1.36 กิโลกรัม ส่วนความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 18.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
หน้าจอขนาด 14 นิ้วความละเอียด 1,600x900 พิกเซล เมื่อแบ่งการทำงานเป็นสองหน้าจอใน Windows 8 แล้วให้พื้นที่การใช้งานกำลังสบายตา
ด้านจอภาพจะมีขนาด 14 นิ้ว HD+ Anti-Glare 300 nits ที่ความละเอียด 1,600x900 พิกเซล พร้อมกล้องเว็บแคมความละเอียด 720p รองรับระบบตรวจจับใบหน้า และไมโครโฟนแบบคู่
ในส่วนคีย์บอร์ดจะเป็น Island-style และมีไฟส่องสว่างด้านใต้คีย์บอร์ด พร้อม TrackPoint สีแดงบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็น ThinkPad ชัดเจน
มาที่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ดขึ้นไปจะเป็นแผงควบคุมปิด เปิด ลด เพิ่ม ปิดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ส่วน TouchPad รองรับ Multi-Touch (ใช้งานกับวินโดวส์ 8 ได้) พร้อมตัวอ่านลายนิ้วมือ
พลิก X1 Carbon สำรวจด้านล่างตัวเครื่องพบว่าหลักๆ จะเป็นส่วนระบายความร้อน ลำโพงซ้ายขวา และไม่มีช่องสำหรับอัปเกรดแรมหรืออุปกรณ์ภายในใดๆ นอกจากขันน็อตและดึงฝาหลังออกถึงจะสามารถจัดการกับฮาร์ดแวร์ภายในได้
นอกจากนั้นถ้าสังเกตที่มุมเครื่อง 4 มุมจะพบว่าทางเลอโนโวได้ติดตั้งยางรองตัวเครื่องที่มีความสูงพอสมควร ทำให้ตั้งเล่นบนที่นอนได้และยังช่วยลดแรงกระแทกเมื่อผู้ใช้ทำเครื่องตกในแนวระนาบด้วย
มาในเรื่องพอร์ต I/O รอบตัวเครื่องกันบ้างจากด้านซ้ายของตัวเครื่องไล่จากซ้ายของภาพประกอบด้วย ช่องเชื่อมต่อ Adapter จ่ายไฟ ช่องระบายความร้อน พอร์ต USB/Charging Port สำหรับใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนหรือกล้องดิจิตอลถ่ายภาพ เพราะพอร์ตนี้จะสามารถจ่ายไฟได้เมื่อไม่ได้เปิดเครื่องใช้งาน และสุดท้ายเป็นสวิตซ์ปิด-เปิด Wireless LAN (WiFi)
ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์ (ต้องติดตั้งเพิ่มต่างหาก)_
ด้านขวาของเครื่องจากขวาสุดประกอบด้วย ช่องคล้องสายล็อกกันขโมย พอร์ต USB 3.0, mini DisplayPort ช่องเชื่อมต่อ Headset/Headphone และช่องอ่านการ์ดความจำ (4-in-1 SD Card Reader)
สเปก
Lenovo X1 Carbon รุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบจะเป็นรุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผล 2 คอร์ 4 Threads : Intel Core i5-3317U ความเร็ว 1.70 GHz บนสถาปัตยกรรม Ivy Bridge พร้อมกราฟิกออนชิป Intel HD Graphics 4000 และแรมที่ให้มาเป็น DDR3 1,333MHz Dual Channel 4GB (ใช้งานจริง 3.7GB เพราะถูกแชร์ให้กราฟิกส่วนหนึ่ง)
ด้านระบบปฏิบัติการในรุ่นที่วางขายเริ่มตั้งแต่บทความนี้เผยแพร่จะเป็น Windows 8 หรือ Windows 8 Pro ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลจะใช้ SSD (SATA3) ความจุ 128GB เป็นตัวเก็บข้อมูลหลัก
ฟีเจอร์เด่น
Lenovo Quick Launch ส่วนนี้จะเป็นเหมือนแอปฯ ที่ผู้ใช้สามารถปักหมุดแอปฯ ที่เรียกใช้งานบ่อยไว้เพื่อสะดวกต่อการเรียกใช้งาน อีกทั้งยังสามารถสั่ง ShutDown เครื่องได้ด้วย
ThinkVanatge Fingerprint เป็นซอฟต์แวร์สำหรับเรียกใช้ฟีเจอร์ Fingerprint แทนการใช้ Windows Password เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เหนือกว่าการตั้งรหัสผ่านด้วย Windows
Dolby Home Theater v4 อีกหนึ่งจุดเด่นของอัลตร้าบุ๊กหลายแบรนด์ในปัจจุบันก็คือการผนวกซอฟต์แวร์จัดการเสียง Dolby Home Theater v4 มาให้ ซึ่งใน X1 Carbon การปรับแต่ง Dolby Home Theater ถือว่าช่วยให้เสียงที่ได้มีมิติและความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิด Surround ที่ลำโพง X1 Carbon สามารถสร้างมิติเสียงได้อย่างน่าสนใจ
สำหรับส่วนนี้ไม่มีการแจ้งไว้ในสเปก X1 Carbon แต่จากการทดสอบใช้งานพบว่าตัวเครื่องอาจมีการติดตั้ง GPS มาบนแผง WWAN เพราะเท่าที่ทดสอบด้วยแอปฯ แผนที่ใน Windows 8 สามารถตรวจจับพิกัดได้ แม้เคลื่อนที่เครื่องไปมา จุดพิกัดก็เคลื่อนที่ตามอย่างชัดเจน ส่วนนี้ยังไม่คอนเฟริมแน่ชัดว่า X1 Carbon รุ่นที่วางขายจริงจะมีการติดตั้ง GPS มาด้วยหรือไม่
สุดท้ายสำหรับฟีเจอร์เด่นเกี่ยวกับระบบเครื่องและโดดเด่นไม่แพ้ซอฟต์แวร์ที่กล่าวไปข้างต้นได้แก่
- Lenovo RapidCharge ที่ช่วยชาร์จพลังงานประมาณ 50-80% ด้วยเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น
- มี Trusted Platform Module และ BIOS encryption ป้องกันข้อมูลสูญหาย
- InstantResume ที่ช่วยให้ระบบตื่นจาก hibernate ได้รวดเร็วกว่าเดิม 4 เท่า เพราะใช้ SSD เข้าช่วยในการเก็บ Cache เพราะฉะนั้น X1 Carbon เมื่อใช้งานร่วมกับ Windows 8 สามารถพับจอลงเมื่อไม่ใช่ได้โดยไม่ต้องสั่ง ShutDown เครื่องแต่อย่างใด
ทดสอบประสิทธิภาพ
3DMark 05 คะแนนทดสอบที่ได้คือ 7,768 คะแนนบนความละเอียดหน้าจอ 1,280x768 + Shader Model 3
Cinebench R11.5 x64 ในส่วนของการทดสอบด้วยการให้ซีพียูวาดภาพ 3 มิติผลคะแนนที่ได้คือ ในการใช้ซีพียูวาดคะแนนจะอยู่ที่ 2.41pts ส่วนกราฟิกแบบ OpenGL จะอยู่ที่ 15.27fps
PerformanceTest 8.0 ได้คะแนนรวมอยู่ที่ 1,616 คะแนน
HD Tach 3.0 มาที่การทดสอบฮาร์ดไดร์ฟที่ใส่ SSD จาก SanDisk มาให้ที่ความจุ 128GB จะมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 339.2 MB/s ที่ Random access 0.2ms
x264 HD BENCHMARK 3.0 ในส่วนของการทดสอบการถอดรหัสไฟล์วิดีโอความละเอียด 720p จะได้ค่าดังต่อไปนี้
encoded 5906 frames, 22.39 fps, 7775.81 kb/s
encoded 5906 frames, 22.47 fps, 7775.81 kb/s
encoded 5906 frames, 22.36 fps, 7775.81 kb/s
encoded 5906 frames, 22.40 fps, 7775.81 kb/s
encoded 5906 frames, 4.82 fps, 8004.45 kb/s
encoded 5906 frames, 4.82 fps, 8004.45 kb/s
encoded 5906 frames, 4.81 fps, 8004.45 kb/s
encoded 5906 frames, 4.81 fps, 8004.45 kb/s
Games Benchmark สำหรับการทดสอบการเล่นเกมพบว่ายังคงมาตรฐารกราฟิกออนชิป HD 4000 คือ สามารถเล่นเกมออฟไลน์ 3 มิติได้ถ้าปรับคุณภาพกราฟิกลงมาระดับกลางถึงต่ำ แต่ถ้าเป็นเกมออฟไลน์ 3 มิติกราฟิกหนักๆ เช่น Battlefield 3 อาจเข้าเกมได้ แต่จะเจอปัญหาเกมกระตุกเฟรมตกจนไม่สามารถเล่นได้ ตรงส่วนนี้ผู้ใช้ที่ซื้ออัลตร้าบุ๊กมาใช้งานต้องมีความเข้าใจอยู่แล้วว่าอัลตร้าบุ๊กถูกออกแบบมาเพื่อเน้นทำงานในแบบ Business มากกว่าจะใช้เล่นเกมเป็นหลัก
ส่วนการใช้งานกับวินโดวส์ 8 เนื่องจาก X1 Carbon ออกขายในช่วงการเปลี่ยนผ่านจาก Windows 7 ไป Windows 8 เพราะฉะนั้นหลายคนคงกังวลถึงความเข้ากันได้ของระบบ โดยจุดนี้ทีมงานขอยืนยันว่า X1 Carbon รองรับ Windows 8 ทุกฟีเจอร์ทุกฟังก์ชันอย่างไม่มีปัญหาใดๆ แน่นอน
สุดท้ายสำหรับการทดสอบแบตเตอรี ใน X1 Carbon จะให้แบตเตอรีมา 4 เซลล์โดยจากการทดลองใช้งานโดยปรับเป็นการใช้พลังงานเป็น Balance ปรับหน้าจอมาประมาณ 50-60% พบว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆ ถ้ารับชมภาพภาพยนตร์ HD หรือเล่นเกมเบาๆ ตลอดเวลาจะใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงนิดๆ
ตอบจุดขายหรือไม่/ข้อสังเกต
สำหรับจุดขายของ Lenovo X1 Carbon คือจับกลุ่มนักธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้แล็ปท็อปบางเบาเพราะเดินทางบ่อย ตรงจุดนี้เลอโนโวตอบโจทย์ได้ดีเพราะนอกจาก X1 Carbon จะเป็นอัลตร้าบุ๊กน้ำหนักเบาแล้วทางเลอโนโวยังเสริมแกร่งด้วยวัสดุผลิตบอดี้แบบพิเศษที่มีความแข็งแรงทนต่อการตกกระแทกเหมาะแก่ผู้ใช้ที่เดินทางบ่อย แถมยังรองรับ Windows 8 ด้วย
ข้อสังเกต
- ราคาสูงมากเมื่อเทียบกับฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่ได้
- ทัชแพดใช้งานครั้งแรกมีอาการฝืดพอสมควร
ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
สำหรับราคาเปิดตัวของ X1 Carbon เริ่มต้นที่ 59,000 บาทในรุ่น Core i5 ส่วน Core i7 จะมีราคาสูงถึง 79,900 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ไปถึงสเปกเครื่องนับว่าราคาสูงมาก ยิ่งถ้าเป็นผู้ใช้ธรรมดาด้วยแล้วราคาระดับนี้สามารถมองหาตัวเลือกที่ดีกว่านี้ในท้องตลาดปัจจุบันได้มากมาย
แต่ถ้าคุณเป็นแฟน ThinkPad และเน้นการใช้งานเคลื่อนย้ายไปตามสถานที่ต่างๆ ตลอดเวลารวมถึงต้องการแล็ปท็อปที่เน้นความถึก บึกบึน บางเบา วัสดุดี X1 Carbon เป็นคำตอบที่ดีมากถ้างบประมาณในกระเป๋าคุณถึง
Company Related Link :
Lenovo
CyberBiz Social