ในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซได้รับโน้ตบุ๊ก Business Class มาทดสอบในชื่อ Dell Latitude E6430s ที่มีจุดขายที่ความแข็งแรงของบอดี้ที่ใช้วัสดุแบบ Tri-Metal พร้อมหน่วยประมวลผล Ivy Bridge รุ่นล่าสุดจากอินเทล โดยในส่วนของประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร เชิญติดตามรับชมได้เลยครับ
การออกแบบและ I/O
แค่แรกเห็นและสัมผัสก็รับรู้ถึงความแข็งแรงได้ทันทีเพราะวัสดุด้านนอกทั้งหมดของ E6430s จะเป็น Tri-Metal (aluminum + magnesium alloy + steel) และอลูมิเนียมอโนไดซ์ในส่วนด้านหลังจอภาพ Anti Glare LED backlit ขนาด 14 นิ้ว (1366x768 พิกเซล) โดยความหนาตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 26 มิลลิเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ 1.70 กิโลกรัม
ในส่วนของคีย์บอร์ดจะเป็น Dual Pointing Keyboard พร้อมไฟ Backlit ส่องสว่างใต้คีย์สำหรับใช้งานตอนกลางคืน อีกทั้งบริเวณกลางคีย์บอร์ดทางเดลล์ยังได้ใส่ Trackpoint มาให้
และด้านล่างของแป้นพิมพ์จะเป็นทัชแพดแบบ Multi touch พร้อมส่วนอ่านการ์ดแบบ Contactless SmartCard และช่องอ่าน Fingerprint เพื่อตอบรับการใช้งานในรูปแบบองค์กรที่ต้องใช้บัตรพนักงานในการล็อกอินเข้าเครื่อง
มาที่บริเวณด้านล่างของ Latitude E6430s จะเห็นโลโก้ Tri-Metal ส่วนตรงกลางจะเป็นช่องระบายความร้อนพร้อมช่องใส่แบตเตอรีเสริม (Extended battery slice) และ Docking โดยแบตเตอรีที่แถมมากับตัวเครื่องจะเป็นแบบ 6 เชลล์ 65Whr Lithium Ion battery
ถัดมาจะพบว่า E6430s ให้ดีวีดีคอมโบไดร์ฟที่สามารถถอดออกได้เพื่ออัปเกรดใส่โมดูลเพิ่มพอร์ต USB 3.0 ที่มีแยกขายต่างหากได้
มาดูในส่วน I/O กันบ้าง เริ่มจากด้านซ้ายเครื่องจะประกอบด้วยพอร์ต D-Sub สำหรับ VGA-Out ถัดมาเป็นช่องเสียบ Headset/Headphone และช่องระบายความร้อน ส่วนด้านขวาสุดจะเป็นช่องอ่าน SmartCard (SC)
ส่วนด้านหน้าจะเป็นที่อยู่ของลำโพงสเตอริโอ 2 ข้าง (ซ้าย-ขวา) ส่วนตรงกลางจะเป็นช่องอ่านการ์ดความจำ (Card Reader)
มาที่ด้านหลังจะประกอบด้วยจากซ้ายพอร์ตแลน RJ45 (10/100/1000 Gigabit Ethernet) ถัดมาจะเป็น MiniHDMI ส่วนด้านขวาสุดจะเป็นพอร์ต USB 3.0 และช่องเชื่อมต่อ Adapter จ่ายไฟ
กลับมาที่ด้านขวาของตัวเครื่องจากซ้ายมือจะเป็นช่องใส่ 34 mm ExpressCard ถัดมาจะเป็นสวิตซ์เปิด-ปิด Wireless LAN ถัดมาจะเป็นพอร์ต USB 3.0 และช่อง eSATA/USB 2.0
Dell E-Family docks อุปกรณ์เสริมที่สามารถใช้งานร่วมกับ Dell Latitude E6430s ได้
สเปก Dell Latitude E6430s
สำหรับสเปก Dell Latitude E6430s จะขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i5 3320M (Ivy Bridge) ความเร็ว 2.60GHz ซึ่งมาพร้อมแกนประมวลผล 2 แกน 4 Threads บนชิปเซ็ทควบคุม Mobile Intel QM77 Express Chipset ซึ่งรองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Intel Rapid Start Technology และ Intel Smart Connect Technology แต่ต้องใช้คู่กับ SSD ถึงจะเปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้
ในส่วนหน่วยความจำ (แรม) จะให้มา 4GB แบบ Dual Channel พร้อมกราฟิกออนชิป Intel HD Graphics 4000 Shared RAM 1GB
สำหรับสเปกอื่นๆ จะประกอบด้วย ฮาร์ดดิสก์ที่ให้ความจุมา 320GB ในส่วนการ์ด Wireless LAN ที่ใส่มาจะเป็น Intel Centrino Advanced N 6205 รองรับ WiDi (Wireless Display)
และสุดท้ายในรุ่นนี้ยังแถม Genuine Windows 7 Professional 32-bit มาให้ด้วย
ฟีเจอร์-จุดขาย
เนื่องจาก Dell Latitude E6430s ถูกออกแบบมาจับกลุ่ม Business Class เพราะฉะนั้นซอฟต์แวร์และฟีเจอร์ที่ให้มาจะเน้นในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยมากที่สุด
อย่างซอฟต์แวร์ตัวแรก Dell Backup and Recovery Manager จะเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ Backup and Restore เมื่อระบบล้มเหลว โดยการทำงานจะเป็นเหมือน Factory Reset คือกลับคืนค่าและซอฟต์แวร์ทุกอย่างเหมือนออกมาจากโรงงานใหม่ๆ
Data Protection ในส่วนนี้สำหรับคนที่เป็นแฟน Latitude คงทราบดีอยู่แล้วว่า หน้าที่ของซอฟต์แวร์ดังกล่าวคือ การตั้งค่าระบบ Fingerprint, Smartcard และ Contactless SmartCard สำหรับโน้ตบุ๊กองค์กรที่ต้องใช้บัตรพนักงานในการ Login เข้าเครื่อง โดย Data Protection จะเข้ามาทำหน้าที่แทนระบบ Windows Password
Free Fall Data Protection หรือซอฟต์แวร์ตั้งค่าระบบป้องกันการกระแทกของจานแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์ที่อยู่ในตัวเครื่อง โดยระบบดังกล่าวจะมีเซ็นเซอร์ในการตรวจจับการตกกระแทกและตัดการทำงานของฮาร์ดดิสก์ทันทีเมื่อโน้ตบุ๊กได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
Smart Settings หรือส่วนควบคุมการจัดสรรพลังงานของตัวเครื่องรวมถึงระบบการทำงานต่างๆ โดยจะมีโปรไฟล์ให้ผู้ใช้สามารถเลือกตามการใช้งานได้เช่น Outdoor Mode ก็คือกดเลือกใช้เมื่อใช้งานโน้ตบุ๊กกลางแจ้ง หรือ Video Mode คือเมื่อใช้โน้ตบุ๊กในการรับชมภาพยนตร์ โดยระบบจะทำการปรับค่าความสว่างหน้าจอให้อัตโนมัติเพราะที่หน้าจอมีการติดตั้ง Ambient Light Sensor มาให้
นอกจากนั้นจะเห็นว่าในส่วน Power Plan ยังให้โปรไฟล์พลังงานมาอย่างเพรียบพร้อมและผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานตามการใช้งานได้อย่างละเอียด
Pointing Device จะเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยการปรับแต่ง Touchpad ตามความต้องการของผู้ใช้
Client System Update หรือซอฟต์แวร์ที่ข่วยอัปเดตไดร์เวอร์และซอฟต์แวร์ควบคุมระบบ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการอัปเดตไดร์วเวอร์ผิดรุ่นซึ่งอาจทำให้ระบบเสียหาย
Webcam Central หรือซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของกล้องเว็บแคมที่สามารถปรับค่า Picture Control และรองรับการอัปโหลดเข้าสู่เว็บโซเชียลเช่น Facebook, Photobucket, Youtube ด้วย
Windows Screen Area
นอกจากนั้นตัวเครื่องยังรองรับ Intel Anti-Theft ด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ
3DMark 05 คะแนนทดสอบที่ได้คือ 9,022 คะแนนบนความละเอียดหน้าจอ 1366x768 + Shader Model 3
3DMark 06 คะแนนทดสอบที่ได้คือ 6,058 คะแนนโดยแบ่งเป็นคะแนน Shader Model 2 = 1,990 คะแนน, HDR/Shader Model 3 = 2,569 คะแนน ส่วนคะแนนประมวลผลซีพียูจะอยู่ที่ 3,766 คะแนน ที่ความละเอียด 1,366x768 พิกเซล
PCMark 7 คะแนนรวมที่ได้คือ 2,868 คะแนน แบ่งเป็นคะแนน Lightweight score = 2,065 คะแนน Productivity score = 1,609 คะแนน Creativity score = 4,879 คะแนน Entertainment score = 2,928 คะแนน Computation score = 12,727 คะแนน และ System storage score = 1,593 คะแนน
Cinebench R11.5 ในส่วนของการทดสอบด้วยการให้ซีพียูวาดภาพ 3 มิติผลคะแนนที่ได้คือ ในการใช้ซีพียูวาดคะแนนจะอยู่ที่ 2.86pts ส่วนกราฟิกแบบ OpenGL จะอยู่ที่ 17.25fps
HD Tach 3.0 มาที่การทดสอบฮาร์ดไดร์ฟหลักจะมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 99.9 MB/s ที่ Random access 17.0ms
มาที่การทดสอบแบตเตอรี โดยทีมงานเลือกวิธีการทดสอบด้วยการเปิดรับชมภาพยนตร์ Blu-Ray ด้วยภาพยนตร์ความยาว 2 ชั่วโมงกว่า (เปิดความสว่างหน้าจอ 80% + เปิด WiFi + เปิดเสียง) พบว่าเมื่อรับชมภาพยนตร์จบ แบตเตอรีลดยังไม่ถึงครึ่ง ซึ่งทีมงานคาดว่าถ้าจะใช้งานจนแบตเตอรีหมดคงนานกว่า 5 ชั่วโมงแน่นอน (ตามที่ทางเดลล์แจ้งมา E6430s สามารถใช้งานได้นานสุด 32.7 ชั่วโมง เมื่อเชื่อมต่อแบตเตอรีเสริม
Sisoft Sandra
Processor Arithmetic
Multi Core Efficiency
Memory Bandwidth
Processor Multi Media
Games Benchmark
สำหรับการทดสอบเล่นเกมพบว่า Dell Latitude E6430s สามารถทำได้อยู่ในเกณฑ์พอใช้ เพราะเนื่องจากหน่วยประมวลผลที่ใส่มาใน E6430s ไม่ใช่ Ultra Low Voltage ทำให้ประสิทธิภาพในส่วนประมวลผลทำได้ดีกว่า Ultrabook พอสมควร รวมถึง Intel HD Graphics 4000 ที่ให้มาก็ทำผลลัพธ์อยู่ในเกณฑ์พอใช้ คือ จะให้เล่นเกมที่ขับเคลื่อนด้วย DirectX 11 เป็นหลักคงจะทำได้ไม่ดีนัก ถึงแม้จะตั้งค่ากราฟิกต่ำสุด แต่สำหรับเกมที่ขับเคลื่อนด้วยชุดคำสั่ง DirectX 9 หรือ 10 อาจพอเล่นได้ถ้าตั้งค่ากราฟิกไม่สูงมาก
ความคุ้มค่า
ตอนนี้ทีมงานยังไม่สามารถบอกราคาที่แน่นอนของ Dell Latitude E6430s แต่คาดว่าราคาคงเริ่มต้นที่ 2 หมื่นบาทปลายๆ เป็นต้นไป โดยทางเดลล์ได้คลอดรุ่น Latitude ใหม่ออกมา 8 รุ่น ได้แก่ Dell Latitude E6430s, E6230, E6330, E6430, E6530, E5430, E5530 และ E6430 ATG ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดเน้นความบึกบึน
ซึ่งถ้าถามถึงความคุัมค่า ทีมงานขอตอบว่า Latitude E6430s สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หนักหน่วงได้ดี (พกพาไปได้ทุกที่ วัสดุกันกระแทกได้ดี และแบตเตอรีมีให้เลือกใช้หลายความจุ) และด้วยความเป็น Business Class Notebook ทำให้ผู้ใช้สามารถหา Option เสริมมาเพิ่มประสิทธิภาพได้ตามต้องการ โดยจุดเด่นสุดคงอยู่ที่ผู้ใช้สามารถตั้งระบบรักษาความปลอดภัยเครื่องได้ด้วยการใช้ SmartCard Login หรือ Fingerprint
สรุป
สำหรับ Dell Latitude E6430s ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่เน้นจับกลุ่มผู้ใช้ระดับองค์กรเป็นหลัก และไม่ผิดที่ผู้ใช้ทั่วไปอาจมองว่าเกินความจำเป็น เพราะออปชันและฟีเจอร์ส่วนใหญ่ที่ให้มาจะเน้นในเรื่องการทำงานที่ครบครันเป็นหลักมากกว่าเรื่องความสะดวกสบายในเรื่องการพกพาและความรวดเร็ว เนื่องจากต้องไม่ลืมว่าโน้ตบุ๊กที่ต้องใช้ในระดับองค์กรจะต้องมีความยืดหยุ่นในเรื่องการปรับแต่งและประสิทธิภาพการใช้งานที่สูง เพราะนำมาปรับใช้กับระบบกลางของแต่ละองค์กร ซึ่ง Latitude E6430s ทำออกมาได้ดี และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่อยากอัปเกรดโน้ตบุ๊กให้พนักงานใหม่ รวมถึงผู้ใช้ทั้วไป ถ้าชื่นชอบความครบครันและความยืดหยุ่นในการปรับแต่งได้แบบน้องๆ พีซี Dell Latitude E6430s ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
Company Related Link :
Dell
