xs
xsm
sm
md
lg

Review : Nokia 808 PureView (ภาคจบ) สมาร์ทโฟนตัวนี้มีดีที่กล้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




หลังจากทีมงานไซเบอร์บิซและไซเบอร์ทีวีได้นำเสนอบทความรีวิวกล้องและฟีเจอร์เด่น (เซ็นเซอร์รับภาพ 41 ล้านพิกเซล) ใน Nokia 808 PureView ไปแล้วในบทความ [CyberTV] ชำแหละกล้อง 41 ล้านพิกเซลใน Nokia 808 PureView และ 23 ภาพโชว์ความเจ๋งของกล้อง Nokia 808 PureView

มาวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซจะพาทุกท่านมาเจาะลึกสเปก การออกแบบ และซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนใน Nokia 808 PureView กันบ้างว่ามีจุดที่น่าสนใจและข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

การออกแบบและสเปก




สำหรับการออกแบบของ Nokia 808 PureView ด้านวัสดุจะเป็นพลาสติกแบบด้าน ตัวเครื่องหนาประมาณ 13.9 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนัก 169 กรัม โดยในส่วนของเลนส์กล้องด้านหลังและเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ภายในตัว Nokia 808 มีส่วนทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก

โดยหน้าจอของ Nokia 808 PureView จะเป็น AMOLED Corning Gorilla Glass ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 360x640 พิกเซล (Pixel density อยู่ที่ 184ppi) และเป็นหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive, MultiTouch

ด้านกล้องถ่ายภาพจะมีทั้งกล้องหน้าและหลัง โดยกล้องหน้าจะใช้ได้เฉพาะ VDO Call ความละเอียด VGA ส่วนกล้องหลังจะใช้เลนส์ตามมาตรฐาน Carl Zeiss มีม่านชัตเตอร์และ ND Filter ช่วยลดแสง ไฟช่วยหาโฟกัสเวลาแสงน้อยและรูรับแสงอยู่ที่ f2.4 พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/1.2 นิ้ว ความละเอียด 41 ล้านพิกเซล (7728x5368 พิกเซล) แฟลช LED แบบซีนอน

ในส่วนสเปกของ Nokia 808 PureView จะขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Symbian Belle ตัวล่าสุดจากโนเกีย บนหน่วยประมวลผล Single Core 1.3GHz แรม 512MB รอม 1GB พร้อม Internal Storage ขนาด 16GB (สามารถใส่ MicroSD Card เพิ่มความจุได้ถึง 32GB)




ด้านแบตเตอรีจะให้มา 1,400mAh รองรับซิมการ์ดแบบ Micro SIM มี NFC (ติดตั้งอยู่บริเวณฝาหลังของเครื่อง) ส่วนการรองรับระบบเครือข่ายโทรศัพท์ สำหรับ 3G/2G จะรองรับทุกเครือข่ายโทรศัพท์ในประเทศไทย(850, 900, 1900, 2100 MHz) ที่ความเร็วสูงสุด 14.4Mbps พร้อม GPS, A-GPS, WiFi b,g,n, Bluetooth และระบบนำทางแบบ Turn by Turn



กลับมาที่ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อและปุ่มกดต่างๆ รอบตัวเครื่องกันบ้าง เริ่มจากด้านขวาของตัวเครื่อง จากซ้ายสุดของรูปจะเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้อง (กดลงครึ่งนึงจะเป็นการโฟกัสและล็อคโฟกัส) และเมื่อกดค้างระหว่างอยู่หน้าล็อคสกรีน สมารถเรียกโหมดถ่ายภาพขึ้นมาได้ทันที ถัดมาจะเป็นสวิตซ์เลื่อนลงเพื่อปลดล็อค/ล็อคหน้าจอ และสุดท้ายจะเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง โดยเมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพสามารถใช้ Zoom in-out ภาพได้



มาที่สันบนของ Nokia 808 จากซ้ายของภาพจะเป็นช่องเชื่อมต่อ Headset หรือหูฟัง ถัดมาจะเป็นพอร์ต Micro USB และ Micro HDMI



สุดท้ายในส่วนปุ่มคำสั่งบริเวณด้านล่างของจอจะประกอบด้วย ปุ่มโทร/รับสาย ปุ่มถอยกลับ และปุ่มวางสาย/ปิด-เปิดเครื่อง

ฟีเจอร์และซอฟต์แวร์








อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า Nokia 808 PureView จะใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian Belle เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และในเวอร์ชันที่มาพร้อมกับ Nokia 808 ก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย แต่พื้นฐานการใช้งานหลักๆ ของ Symbian Belle ก็ยังคงคล้ายการใช่้งานแอนดรอยด์ผสมไอโอเอส รวมถึงสามารถใช้ Multitasking ได้ด้วย

เพราะฉะนั้นทีมงานจะไม่ขอลงรายละเอียดของ Symbian Belle มากนัก เนื่องจากทีมงานเคยได้เจาะลึกไปแล้วเมื่อช่วงโนเกียเปิดให้อัปเดตใหม่ๆ แต่จะโฟกัสในเรื่องของฟีเจอร์ที่สมควรต้องรู้เมื่อเลือกใช้ Nokia 808 PureView



อันแรกสิ่งที่ควรรู้ทันทีเมื่อเลือกใช้งาน Nokia 808 PureView ก็ต้องเป็นเรื่องคีย์บอร์ดที่ยังคงรองรับภาษาไทยและสามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งแนวนอนเต็มรูปแบบเช่นเดิม โดยคีย์ไทยจะเป็นแบบ 4 แถว แต่คีย์อาจจะติดกันเล็กน้อย ทำให้การใช้งานในแนวตั้งทำได้ค่อนข้างลำบาก ส่วนภาษาอังกฤษจะเป็น 3 แถว ระยะห่างระหว่างคีย์กำลังพอดี




ส่วนที่สองเป็นเรื่องการรองรับเครือข่ายสังคม ที่จะมีการ Buil in แอปฯ Social ซึ่งรองรับ Twitter และ Facebook มาให้เท่านั้น ซึ่งผู้ใช้สามารถแชร์รูปรวมถึงข้อความต่างๆ ได้ทันทีระหว่างกำลังรับชมรูปภาพใน Gallery หรือจะส่งเป็นไฟล์แนบอีเมล์ก็สามารถทำได้เช่นกัน






อีกทั้งยังสามารถแก้ไข ปรับแต่ง รวมถึงครอป หมุนรูปภาพได้ตามต้องการ โดยเครื่องมือในการตกแต่งภาพจะมีตั้งแต่การปรับ Auto Level Auto Contrast ปรับแสง แก้ตาแดง รวมถึงการปรับโทนสี RGB




นอกจากนั้นใน Nokia 808 ยังแถมแอปฯ ColorizIt สำหรับใช้ในการแต่งสีภาพแบบเน้นเฉพาะจุด เช่น เน้นสีปากของแบบให้แดงๆ เข้มๆ ในขณะที่รอบข้างเป็นขาวดำทั้งหมด (แบบภาพตัวอย่างด้านบน) รวมถึงทางโนเกียยังได้ให้แอปฯ ถ่ายวิดีโอสไตล์ฟืล์มเก่า ยุคภาพยนตร์เงียบที่เคยโด่งดังมาแล้วในไอโอเอสอย่าง Silent Film มาให้ใช้งานด้วย




ในส่วนของการเล่นเพลงและวิดีโอใน Nokia 808 PureView จะรองรับการแปลงสัญญาณเสียงเป็น FM เพื่อส่งต่อไปให้วิทยุในรถยนตร์รวมถึงอุปกรณ์เล่น FM Radio ที่ไม่มีช่อง AUX in สามารถส่งเสียงที่มาจาก Nokia 808 ผ่านสัญญาณ FM ได้

อีกทั้งในการเล่นไฟล์วิดีโอยังรองรับไฟล์ที่เข้ารหัสเสียง Dolby Digital Plus และ Dolby Headphone เพื่อใช้งานร่วมกับหูฟังที่รองรับได้ด้วย




สุดท้ายสำหรับการเล่น Web Browser จะรองรับเว็บ HTML, HTML5, XHTML, WAP 2 รวมถึงรองรับ Flash Player และรองรับการ Browse รูปภาพเพื่ออัปโหลดไปยังเว็บบอร์ดหรือเว็บไซต์ต่างๆ ได้

**ในส่วนแอปฯ ตัวอื่นๆ สามารถรับชม Screenshot ได้จากส่วนของ Gallery ด้านล่าง**

เจาะลึกกล้อง 41 ล้านพิกเซล



เรื่องการถ่ายภาพถือเป็นพระเอกหลักและเป็นส่วนที่ทำให้ Nokia 808 PureView สามารถกลับมายืนอยู่ในตลาดสมาร์ทโฟนได้ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าด้วยขนาดเซ็นเซอร์ 41 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถนำไปต่อยอดในเรื่องระบบซูมภาพแบบไม่สูญเสียความคมชัดโดยใช้หลักการครอปภาพบนเซ็นเซอร์ 41 ล้านพิกเซล เช่น ถ่ายภาพที่ 8 ล้าน ผู้ใช้จะสามารถซูมภาพได้ประมาณ 3 เท่า โดยหลักการคือซูมแบบครอปเซ็นเซอร์ 8 ล้านพิกเซลบนเซ็นเซอร์เต็มๆ 41 ล้านพิกเซล พร้อมการจัดเรียงเม็ดพิกเซลใหม่บนเทคโนโลยี Over-Sampling ทำให้เกิดเป็นเทตโนโลยีใหม่ที่โนเกียเรียกว่า Lossless Zoom

อีกทั้งยิ่งผู้ใช้ถ่ายภาพที่ความละเอียดต่ำลง ระบบจะสามารถซูมภาพได้ใกล้ขึ้น สูงสุดที่ 12 เท่าในโหมดถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 360p

นอกจากนั้นใน Nokia 808 PureView ยังรองรับการถ่ายภาพเต็มความละเอียดของเซ็นเซอร์ (Full Resolution) ที่อัตราส่วน 4:3 จะถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 38 ล้านพิกเซล ส่วนที่อัตราส่วน 16:9 จะถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 34 ล้านพิกเซล และมีขนาดไฟล์ตกไฟล์ละประมาณ 10-13 MB

ส่วนการถ่ายภาพระยะใกล้สามารถถ่ายได้ใกล้สุด 15 เซนติเมตร



มาที่โหมดและฟีเจอร์ของกล้องถ่ายภาพและวิดีโอจะสามารถปรับแต่งในส่วนของการชดเชยแสง EV +/- ตั้งแต่ -4.0 ถึง +4.0 นอกจากนั้นยังสามารถตั้ง White Balance ค่าความไวแสง (ISO ตั้งแต่ 50 - 1,600) รวมถึงรองรับ Scene Mode หรือโหมดสำเร็จรูป

ในส่วนโหมดวิดีโอจะสามารถปรับแต่งได้แบบเดียวกับโหมดถ่ายภาพและสามารถเลือกความละเอียดได้ตั้งแต่ 1080p 720p 480p และ 360p อีกทั้งการบันทึกวิดีโอทางโนเกียยังแนบระบบบันทึกเสียง "Nokia Rich Recording technology" มา ทำให้การเก็บรายละเอียดเสียงทำได้ชัดเจนขึ้น (ชมตัวอย่างได้จากวิดีโอด้านล่าง)


Nokia Rich Recording in Nokia 808 PureView Explained

และสำหรับผู้อ่านท่านใดอยากรับชมรายละเอียดแบบเจาะลึกและไฟล์ภาพจาก Nokia 808 PureView สามารถรับชมจากคลิปวิดีโอและลิงค์ด้านล่างได้


เจาะลึกกล้อง 41 MP ใน Nokia 808 PureView (Part 1)


ตรวจไฟล์ภาพจาก Nokia 808 PureView (Part 2)

นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถรับชม 23 ภาพโชว์ความเจ๋งของกล้อง Nokia 808 PureView ได้โดย คลิกที่นี่< (ทุกภาพที่เห็นเป็นการถ่ายที่โหมด PureView โดยผ่านการครอปภาพตามระบบของกล้องบนเซ็นเซอร์ความละเอียด 41 ล้านพิกเซลเสียเป็นส่วนใหญ่ เพื่อที่ผู้อ่านจะได้เห็นถึงคุณภาพของระบบ Lossless Zoom)

และสุดท้ายกับการทดสอบการบันทึกวิดีโอที่ 1080p พร้อมทดสอบความสามารถในการซูมภาพระหว่างถ่ายวิดีโอ



ทดสอบประสิทธิภาพ

อย่างที่ทราบว่า Nokia 808 PureView มีจุดขายอยู่ที่กล้อง เพราะฉะนั้นการทดสอบหลักๆ ของทีมงานตลอดระยะเวลาร่วม 2 อาทิตย์ก็คือการลงสนามทดสอบถ่ายภาพ ซึ่งในแง่ของคุณภาพเทียบในระดับสมาร์ทโฟนด้วยกันก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมขึ้นแท่นสุดยอดสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพยอดเยี่ยมแห่งปีได้แน่นอน โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพไฟล์ที่ทำออกมาได้ดี ร่วมถึง Noise ในสภาวะแสงน้อยก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่อาจมีข้อเสียเวลาถ่ายย้อนแสงจะเกิดความฟุ้งของภาพขึ้นบ้าง ส่วนใครที่กังวลเรื่องการถ่ายภาพว่าต้องถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดจนได้ขนาดไฟล์ใหญ่ หาพื้นที่เก็บยาก ก็ไม่ต้อวกังวลเพราะสามารถเลือกความละเอียดได้ (ในโหมด PureView) แถมระบบ Lossless Zoom ก็ทำงานได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน โดยเฉพาะในโหมดถ่ายวิดีโอที่นอกจากเรื่องซูมภาพระหว่างบันทึกวิดีโอได้แล้ว ระบบ Nokia Rich Recording ก็ช่วยให้การบันทึกเสียงสามารถแยกเนื้อเสียงและรายละเอียดเสียงได้ชัดเจนมาก

และสุดท้ายการให้รองรับพอร์ต MicroHDMI ก็ทำให้ผู้ใช้สามารถนำจอ LCD/LED Monitor ขนาดเล็กมาเชื่อมต่อเพื่อใช้ทำงาน Production ขนาดใหญ่เช่น ถ่ายทำภาพยนตร์สั้นหรือสารคดีผ่าน Nokia 808 PureView ได้

แต่ทั้งนี้ในเมื่อ Nokia 808 โดดเด่นในเรื่องกล้องถ่ายภาพจนแทบจะหาที่ติไม่ได้ ในทางตรงกันข้ามเรื่องระบบปฏิบัติการ Symbian Belle กลับเป็นตัวดึงคะแนนประสิทธิภาพของ Nokia 808 PureView ให้ต่ำได้เช่นกัน เพราะด้วยความไม่เสถียรของระบบ การรองรับระบบสัมผัสที่ทำได้ไม่ดี ไม่ลื่นไหล และอาการค้างที่พบเห็นตลอดการทดสอบ จนต้องรอการอัปเดตแก้ปัญาจากโนเกีย รวมแบตเตอรี 1,400mAh ที่เมื่อใช้งานถ่ายภาพจริงๆ ตลอดทั้งวันพร้อมเปิด 3G ทิ้งไว้ก็มีอายุอยู่ได้ไม่นานนัก

ความคุ้มค่า

สำหรับราคาเปิดตัวของ Nokia 808 PureView จะอยู่ที่ 18,900 บาทก็นับว่าเปิดตัวมาด้วยราคาที่สูงมาก และคงต้องเป็นผู้ใช้ที่สนใจในกล้องและเซ็นเซอร์ 41 ล้านพิกเซลจริงๆ ถึงจะยอมตัดสินใจซื้อ

สรุป

สำหรับ Nokia 808 PureView คงเป็น CameraPhone ที่ขายในเรื่องของกล้องได้ดีที่สุด แต่ในเรื่องของความเป็นสมาร์ทโฟนนั้นไม่สามารถตอบสนองความต้องการของยูสเซอร์ในยุคปัจจุบันซึ่งมีตัวเลือกจากระบบปฏิบัติการอื่นที่ดีกว่าและคุ้มค่ากว่าอยู่ในตลาด แต่ถึงอย่างไร Nokia 808 PureView ก็ถือว่ายังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุค CameraPhone ที่ในอนาคตเราน่าจะได้เห็นโนเกียนำไปต่อยอดกับสมาร์ทโฟนในรุ่น Lumia (Windows Phone) ที่สมบูรณ์กว่า Symbian อย่างแน่นอน

ไม่รีบเกินไปก็อดใจรอกันก่อนครับพี่น้อง...

Company Related Link :
Nokia





DLNA Support
Nokia Drive
Mail
Maps
Microsoft Office Mobile
Nokia Store
Traveler
Vlingo Voice App
กำลังโหลดความคิดเห็น