ในขณะที่ตลาดแท็บเล็ตคอนซูมเมอร์ถูกแบรนด์แอปเปิลและกูเกิลดึงส่วนแบ่งการตลาดไปมากกว่า 90% และทำให้อะตอมของอินเทลที่ถูกจับคู่กับวินโดว์ต้องตายลงอย่างช้าๆ
แต่ในอีกด้านหนึ่งสำหรับตลาดองค์กร (Enterprise) ใช่ว่าแท็บเล็ตจากกูเกิลหรือแอปเปิลจะเข้ามาตีตลาดได้ง่ายๆ เพราะตลาดองค์กรเป็นตลาดที่มีเรื่องของเม็ดเงิน ต้นทุนและเรื่องของคนเข้ามาเกี่ยวข้อง การจะให้ตลาดองค์กรตามเทคโนโลยีที่ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งทางเดลล์และฟูจิตสึมองเห็นจุดนี้ และได้เข็นแท็บเล็ตสำหรับองค์กรในรุ่น Dell Lattitude ST และ Fujitsu STYLISTIC Q550 ออกมา
โดยสิ่งที่ทำให้แท็บเล็ตทั้ง 2 แบรนด์แตกต่างจากแท็บเล็ตกูเกิลและแอปเปิลก็คือ แท็บเล็ตทั้งสองมาพร้อมอะตอมรุ่นล่าสุดในรหัส "Oak Trail" พร้อมระบบปฏิบัติการวินโดว์ 7 ที่ผู้ใช้สามารถลบออกและลงระบบปฏิบัติการอื่นได้เหมือนกับคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปทั่วไป
แต่ทั้งนี้ก่อนจะเข้าถึงรายละเอียดอะตอม "Oak Trail" และฟีเจอร์ต่างๆ ลองไปชมรายละเอียดในส่วนประกอบภายนอกของ Dell Latitude ST และ Fujitsu Cider Q550 กันก่อน
การออกแบบและ I/O ของ Dell Lattitude ST
สำหรับหน้าจอของ Latitude ST จะเป็น Multi-touch Screen 4 จุด มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 10.1 นิ้ว (257 มิลลิเมตร) และมาพร้อมความละเอียด WXGA1,280x800 พิกเซล มีกล้องหน้า HD ความละเอียด 720p พร้อมน้ำหนักเครื่องประมาณ 816 กรัม
ในส่วนปากกาสไตลัสจะเป็น "Digital Pen" ตามที่เดลล์เรียก ซึ่งบริเวณด้ามปากกาจะมีปุ่มคำสั่ง 2 ปุ่ม และปากกาสไตลัสด้ามนี้ใช้แหล่งพลังงานจากถ่าน AAA จำนวน 1 ก้อน
ส่วนด้านหลังของ Latitude ST บริเวณด้านล่างจะเป็นส่วนของลำโพง และส่วนกลางจะเป็นฝาปิดที่สามารถถอดออกได้ โดยด้านในจะมีช่องให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดใส่การ์ด Mobile Broadband และ GPS (Dell Wireless 5550 Single-mode HSPA+ Mini Card with A-GPS) ได้
สำหรับกล้องด้านหลังจะมาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED
มาในเรื่อง I/O ที่บริเวณด้านข้างของตัวเครื่อง สำหรับด้านล่างจะเป็นพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ Docking Station และสายชาร์จ พร้อมไฟแสดงสถานะการชาร์จไฟ และด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นช่องสำหรับคล้องสายของปากกาสไตลัส
ในส่วนด้านบนของตัวเครื่อง บริเวณซ้ายมือของภาพจะเป็นช่องใส่ปากกาสไตลัส ส่วนขวามือจะเป็นในส่วนของสวิตซ์ล็อคหมุนหน้าจออัตโนมัติ และสวิตซ์สุดท้ายจะเป็นสวิตซ์ปิด-เปิด เครื่อง
สุดท้ายด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนของช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร - USB 2.0 - ช่องอ่านการ์ด SD - พอร์ต HDMI
การออกแบบและ I/O ของ Fujitsu STYLISTIC Q550
ด้านหน้าจอของ STYLISTIC Q550 จะมีขนาด 10.1 นิ้ว เป็นจอ IPS แบบ multi-touch screen 4 จุด และมาพร้อมความละเอียดหน้าจอสูงสุด 1,280x800 พิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด VGA 640x480 พิกเซล พร้อมน้ำหนักตัวเครื่อง 730 กรัม
ในส่วนของปากกาสไตลัส ตรงกลางปากกาจะมีปุ่มกด (สามารถแทนคลิกขวาได้) 1 ปุ่ม และปากกาจะใช้พลังงานจากถ่านขนาด AAA 1 ก้อน
มาในเรื่อง I/O และสวิตซ์รอบตัวเครื่อง เริ่มจากด้านขวามือจะเป็นในส่วนของสวิตซ์ปิด-เปิด - ไฟสถานะแบตเตอรี - ปุ่มกดเรียกคีย์บอร์ด - ปุ่มกดปรับหน้าจอให้เป็นแนวตั้ง-แนวนอน ปุ่มแทน Enter เมื่ออยู่ในหน้าดอส - สวิตซ์ปิด-เปิด Wireless LAN และสุดท้ายขวามือสุดจะเป็นช่องเกี่ยวสายคล้องปากกาสไตลัส
ในส่วนสันเครื่องด้านล่างจะประกอบด้วย พอร์ตเชื่อมต่อ Docking Station - ลำโพงแบบ Mono และช่องเชื่อมต่อ Adapter จ่ายไฟ ส่วนด้านบนจะเป็นช่องอ่านการ์ดความจำ (Card Reader) ซึ่งรองรับชนิดการ์ด SD และ SDHC
มาที่ด้านขวาของเครื่องจะประกอบด้วย จากซ้ายเป็นไมโครโฟนรับเสียง - พอร์ต USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต - ช่องเสียบ Smart Card - ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร - พอร์ต HDMI และไมโครโฟนรับเสียงตำแหน่งที่สอง
สำหรับด้านหลังของตัวเครื่องนอกจากส่วนของโลโก้แล้วจะมี Fingerprint Sensor ติดตั้งพร้อมกับกล้องถ่ายภาพความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซลติดตั้งอยู่
ในส่วนแบตเตอรีสำหรับ Fujitsu STYLISTIC Q550 ทางผู้ผลิตจะอนุญาตให้สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยแบตเตอรีที่ติดมากับเครื่องจะมีความจุ 5,240 mAh และนอกจากนั้นในช่องแบตเตอรี จะมีช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์ ซึ่งรองรับ 3.5G HSPA+ ที่ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 14.4Mbps
อีกส่วนที่ถือเป็นจุดขายสำหรับ STYLISTIC Q550 คือทางฟูจิตสึได้ให้ Docking Station มาด้วย ซึ่งใน Docking Station นอกจากจะสามารถนำแท็บเล็ตมาตั้งชาร์จได้แล้ว รอบๆ ยังประกอบไปด้วยพอร์ต USB 2.0 อีก 4 พอร์ต
สเปก Fujitsu STYLISTIC Q550 และ Dell Latitude ST
สำหรับ Fujitsu STYLISTIC Q550 และ Dell Latitude ST จะใช้หน่วยประมวลผล (ซีพียู) เดียวกันในรหัส "Oak Trail" หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Intel Atom Processor Z670 ความเร็ว 1.50GHz ที่ทางอินเทลออกแบบมาเพื่อแท็บเล็ตโดยเฉพาะ โดยซีพียู Z670 จะมีจำนวนคอร์แท้ 1 คอร์ 2 Threads พร้อม L2 Cache จำนวน 512KB
ในส่วนหน่วยความจำ (แรม) ของทั้ง 2 แบรนด์จะมีขนาด 2GB DDR2 SDRAM 800MHz
ส่วนสเปกอื่นๆ สำหรับแท็บเล็ตทั้ง 2 แบรนด์ อย่าง ฮาร์ดดิสก์ใน Dell Latitude ST จะเป็น SSD จากซัมซุงขนาด 64GB ส่วน Fujitsu STYLISTIC Q550 จะใช้ SSD ความจุ 30GB เป็นตัวขับเคลื่อน
ในส่วนของแบตเตอรีสำหรับ Fujitsu STYLISTIC Q550 จากการทดสอบจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน ส่วน Dell Latitude ST จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งในโหมดประหยัดพลังงาน
สำหรับการรองรับสัญญาณ Bluetooth ใน Fujitsu STYLISTIC Q550 จะรองรับแค่เวอร์ชัน 3.0 ส่วน Dell Latitude ST จะรองรับเวอร์ชัน 4.0 LE
ด้านกราฟิกออนชิปที่ใช้จะเป็น Intel Graphics Media Accelerator 600 ที่มีจุดเด่นในเรื่องการถอดรหัสไฟล์วิดีโอ HD 720p พร้อมความสามารถในการรองรับความละเอียดหน้าจอ 1,280x800 พิกเซล พร้อมความสามารถในการส่งวิดีโอ 720p ผ่านพอร์ต HDMI พร้อมรองรับไมโครซอฟท์ วินโดว์ 7 และ วินโดว์ 8 ได้อย่างไม่มีปัญหา
ฟีเจอร์และซอฟต์แวร์เด่น (จุดขาย)
ก่อนจะเข้าสู่รายละเอียดของฟีเจอร์และซอฟต์แวร์พิเศษที่ให้มากับแท็บเล็ตทั้ง 2 แบรนด์ สำหรับระบบปฏิบัติการที่ให้มาจะเป็นไมโครซอฟท์ วินโดว์ 7
หน้าวินโดว์เดสก์ท็อปสำหรับ Fujitsu STYLISTIC Q550
หน้าวินโดว์เดสก์ท็อปสำหรับ Dell Latitude ST
มาในส่วนแรกสำหรับหน้าเดสก์ท็อปของทั้ง 2 แบรนด์จะมีความคล้ายคลึงกัน ยกเว้นเรื่องฟีเจอร์บางส่วน โดยในส่วนของ Virtual Onscreen Keyboard หลักจะเป็นแบบมาตรฐานจากวินโดว์ ซึ่งรองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
แต่ทั้งนี้สำหรับหน้าเดสก์ท็อปวินโดว์ Fujitsu STYLISTIC Q550 จะมีในส่วนของ "Ntrig" เพิ่มเติมเข้ามา โดย Ntrig จะมีความสามารถในการปรับเพิ่ม-ลด ระดับเสียง ปรับความสว่างหน้าจอหรือปิด-เปิด เสียงและ WiFi ได้
อีกทั้งใน Fujitsu Q550 ยังแนบคีย์บอร์ดเฉพาะมาให้ด้วย (มีแต่ภาษาอังกฤษอย่างเดียว) โดยจุดเด่นของคีย์บอร์ดตัวนี้ คือ สามารถเรียกใช้งานฉุกเฉินเมื่อไม่สามารถกดเรียกคีย์บอร์ดมาตรฐานของวินโดว์ได้
Dell Latitude ST
สำหรับแท็บเล็ต Dell Latitude ST ซอฟต์แวร์ที่ถือเป็นจุดขายหลักก็คือ Client System Update ที่ใช้สำหรับอัปเดตไดร์วเวอร์ต่างๆ โดยการทำงานจะเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ที่ไม่จำเป็นต้องคอยติดตามการอัปเดตอุปกรณ์ภายในตัวเครื่องและช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้งได้อย่างมาก
นอกจากนั้นในส่วนการควบคุมเว็บแคม ทางเดลล์ได้บรรจุซอฟต์แวร์ Dell Webcam Central มาให้ โดยในซอฟต์แวร์นอกจากจะสามารถปรับแต่งค่ากล้องได้แล้วยังรองรับการอัปโหลดคลิปวิดีโอและภาพนิ่งผ่าน Facebook หรือ YouTube ได้ด้วย
Fujitsu STYLISTIC Q550
มาที่ Q550 นอกจากเรื่องหน้าเดสก์ท็อปที่มีลูกเล่นมากกว่า Dell ST แล้ว ทางฟูจิตสึยังได้แนบ UI และซอฟต์แวร์เฉพาะมาครอบหน้าเดสก์ท็อปวินโดว์ด้วย โดยหน้าตาของ UI จากฟูจิตสึจะได้รับการออกแบบให้เน้นการใช้งานด้านงานเอกสารและอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก
นอกจากนั้นทางฟูจิตสึยังได้ให้แอปฯ OnScreen TouchPad แทนการใช้เมาส์แพดบนแล็บท็อป นอกจากนั้นในแอปฯ ยังมาพร้อมคีย์ลัดที่สำคัญไว้ใช้งานเวลาฉุกเฉินด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ (Dell Lattitude ST)
PCMark 7 คะแนนรวมที่ได้คือ 847 คะแนน แบ่งเป็นคะแนน Lightweight score = 1,070 คะแนน Productivity score = 550 คะแนน Creativity score = 1,492 คะแนน Entertainment score = 546 คะแนน Computation score = 395 คะแนน และ System storage score = 4,427 คะแนน
Cinebench R11.5 ในส่วนของการทดสอบด้วยการให้ซีพียูวาดภาพ 3 มิติผลคะแนนที่ได้คือ ในการใช้ซีพียูวาดคะแนนจะอยู่ที่ 0.21pts
x264 HD BENCHMARK 3.0 ในส่วนของการทดสอบการถอดรหัสไฟล์วิดีโอความละเอียด 720p จะได้ค่าดังต่อไปนี้
encoded 1442 frames, 5.44 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 5.77 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 5.82 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 5.83 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 1.35 fps, 3970.98 kb/s
encoded 1442 frames, 1.42 fps, 3970.78 kb/s
encoded 1442 frames, 1.44 fps, 3971.37 kb/s
encoded 1442 frames, 1.27 fps, 3971.06 kb/s
YouTube HD สามารถรับชมความละเอียดภาพได้สูงสุด 720p ส่วนถ้าความละเอียดของวิดีโอเกิน 720p ขึ้นไปภาพและเสียงจะเริ่มได้ตรงกัน (ภาพจะหน่วง)
HD Tach 3.0 มาที่การทดสอบฮาร์ดไดร์ฟจะมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 145.4 MB/s ที่ Random access 0.2ms
ทดสอบ Web Browser ส่วนการทดสอบเว็บบราวเซอร์ จากการทดสอบเปิดเว็บที่มี Adobe Flash เป็นส่วนประกอบจำนวนมาก พบว่าความไหลลื่นจะลดน้อยลงและบางครั้งอาจเกิดอาการ Not Responding ได้ ส่วนการใช้งานเว็บทั่วๆ ไปพบว่าสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล
ทดสอบปากกาสไตลัส สำหรับปากกาสไตลัสพบว่าประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ความลื่นไหลและการตอบสนองค่อนข้างไว
ทดสอบประสิทธิภาพ (Fujitsu STYLISTIC Q550)
สำหรับ Fujitsu STYLISTIC Q550 ตัวที่ทีมงานไซเบอร์บิสได้มาทดสอบนี้ เป็นเครื่อง Prototype ที่มีปัญหาเรื่องความเสถียรของระบบที่ยังไม่ได้ถูกปรับแต่งมา อาจทำให้คะแนนที่ได้ไม่ตรงกับรุ่นที่วางจำหน่ายจริง
PCMark 7 คะแนนรวมที่ได้คือ 704 คะแนน แบ่งเป็นคะแนน Lightweight score = 787 คะแนน Productivity score = 433 คะแนน Creativity score = 1,142 คะแนน Entertainment score = 509 คะแนน Computation score = 353 คะแนน และ System storage score = 3,485 คะแนน
Cinebench R11.5 ในส่วนของการทดสอบด้วยการให้ซีพียูวาดภาพ 3 มิติผลคะแนนที่ได้คือ ในการใช้ซีพียูวาดคะแนนจะอยู่ที่ 0.19pts
x264 HD BENCHMARK 3.0 ในส่วนของการทดสอบการถอดรหัสไฟล์วิดีโอความละเอียด 720p จะได้ค่าดังต่อไปนี้
encoded 1442 frames, 5.38 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 5.39 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 5.62 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 5.50 fps, 3899.26 kb/s
encoded 1442 frames, 1.29 fps, 3970.60 kb/s
encoded 1442 frames, 1.30 fps, 3970.78 kb/s
encoded 1442 frames, 1.30 fps, 3971.85 kb/s
encoded 1442 frames, 1.30 fps, 3972.10 kb/s
YouTube HD สามารถรับชมความละเอียดภาพได้สูงสุดแบบลื่นไหลเพียง 480p ส่วนเมื่อเพิ่มเป็น 720p ยังสามารถรับชมได้แต่เสียงจะกระตุก ซึ่งตรงนี้ถ้ามองจากสเปกแล้วควรจะสามารถเล่นได้แบบเดียวกับ Dell Latitude ST แต่สำหรับ STYLISTIC Q550 รุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบ คาดว่าน่าจะมีปัญหาในส่วนการ Optimized ระบบจริงๆ
ทดสอบ Web Browser ในส่วนการทดสอบเว็บบราวเซอร์พบว่าค่อนข้างช้าและ Not Responding บ่อยมาก
ทดสอบปากกาสไตลัส สำหรับปากกาสไตลัสถือว่าทำได้ดี ความแม่นยำในการขีดเขียนอยู่ในเกณฑ์ดี แต่น่าเสียดายที่ตัวแท็บเล็ตไม่มีช่องใส่ปากกามาให้ ทำให้มีโอกาสหายหรือลืมทิ้งไว้ได้สูง
ตอบจุดขายหรือไม่/ข้อสังเกต/ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
สำหรับจุดประสงค์ของแท็บเล็ตทั้ง Dell Latitude ST และ Fujitsu STYLISTIC Q550 หลายท่านก็คงทราบจากโปรยส่วนบนแล้วว่าเน้นจับตลาดองค์กรเป็นหลัก เพราะฉะนั้นก็ถือว่าทั้ง Dell Latitude ST และ Fujitsu STYLISTIC Q550 ตอบสนองจุดขายได้ดี เพราะตั้งแต่การเลือกใช้หน่วยประมวลผลรวมถึงความยืดหยุ่นแบบเดียวกับแล็ปท็อป ก็ทำให้แท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นก็มีประสิทธิภาพไม่ต่างกับแล็ปท็อป ยกเว้นขนาดที่พกพาสะดวกกว่า
แต่ทั้งนี้ด้วยการที่เดลล์และฟูจิตสึเลือกจับคู่อะตอมแท็บเล็ตกับ Windows 7 จากการทดสอบพบว่า อาจเป็นคู่ขาที่ยังไม่เหมาะสมเท่าไร เพราะทีมงานพบว่าหลายส่วนของ Windows 7 ยังมีปัญหากับหน้าจอทัชสกรีน ซึ่งไร้คีย์บอร์ดจริง รวมถึงหน่วยประมวลผลอะตอมกับ Windows 7 ก็ถือว่ายังทำงานร่วมกันช้าและมีปัญหาเรื่อง Not Responding บ่อยมาก
สุดท้ายถ้าถามทีมงานว่าทั้ง Dell Latitude ST และ Fujitsu STYLISTIC Q550 คุ้มค่าไหม ด้วยราคาเปิดตัวของแท็บเล็ตทั้งสองเครื่องอยู่ที่เพดานตั้งแต่ 2 หมื่นบาทเป็นต้นไป ทีมงานขอฟันธงว่าสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กรที่มีความจำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบการใช้งานแล็ปท็อป แต่ต้องการเพิ่มความสะดวกสบายในการพกพา แท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ (เพราะสเปกเหมือนกัน ต่างกันในเรื่องการออกแบบและวัสดุที่ผู้ใช้น่าจะเป็นคนตัดสินใจเองจากการไปทดสอบใช้ที่ตัวแทนจำหน่ายมากกว่า)
แต่ทั้งนี้ถ้าไม่ใจร้อนหรือจำเป็นต้องรีบใช้ ทีมงานอยากให้รอจนกว่า Windows 8 จะวางจำหน่ายก่อนแล้วค่อยตัดสินใจซื้ออีกครั้ง เพราะจากการทดสอบแท็บเล็ตทั้งสองรุ่นนี้ ถึงแม้จะสามารถตอบสนองการใช้งานระดับองค์กรได้ดี แต่เมื่อมองในเรื่องของสเปกและระบบปฏิบัติการฝั่ง Desktop PC ที่ปัจจุบันยังไม่ออกแบบมาให้ใช้งานในรูปแบบทัชสกรีนได้เต็มรูปแบบแล้ว ทีมงานว่าถ้ารีบซื้อไปก็อาจยังไม่คุ้มค่าถ้าหวังจะใช้ในระยะยาว
Company Related Link :
Dell
Fujitsu