xs
xsm
sm
md
lg

Review : Galaxy Nexus สมาร์ทโฟนสายพันธุ์ Nexus จากต่างดาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เชื่อว่า Galaxy Nexus ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่แฟนๆ แอนดรอยด์ต่างพากันรอคอยว่าสมาร์ทโฟนระดับมาตรฐานของแอนดรอยด์ในศักราช 2012 จะเป็นเช่นไร จะดี จะเด่น อย่างที่รอคอยหรือไม่

และนี่เป็นคำรบที่ 2 ที่ซัมซุงได้ร่วมมือกับกูเกิลในการผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล Nexus รุ่นที่ 3 เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเชิญพบกับการรีวิว Galaxy Nexus จากทีมงานผู้จัดการไซเบอร์กันเลยครับ



การออกแบบและสเปก Galaxy Nexus



สำหรับการออกแบบรูปทรงของ Galaxy Nexus มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียดจอเป็นแบบ HD Super AMOLED ความละเอียด 720x1280 พิกเซล ส่วนน้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 135 กรัม



ด้านหลังของเครื่องจะมีลักษณะโค้งนูน วัสดุฝาหลังใช้เป็นวัสดุเดียวกับ Galaxy S II ซึ่งสามารถโค้งงอได้

มาพูดถึงตัวเครื่องรอบทิศทางกันบ้าง Galaxy Nexus จะมาพร้อมกล้องดิจิตอลทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 1.3 ล้านพิกเซล





ด้านหน้า - จะมาพร้อมกับลำโพง ด้านข้างจะมี กล้องหน้า 1.3 และเซนเซอร์ 2 ตัวอยู่ข้างๆ ด้านล่างจะมี Notification LED ซึ่งจะเป็นไฟสีน้ำเงินเพื่อเตือนว่ามีข้อความเข้า



ด้านหลัง - มาพร้อมกับกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล มีแฟลชอยู่ด้านล่าง (ถ่ายวิดีโอ 1080p@30fps) มีออโตโฟกัส ตรงกลางโลโก้กูเกิล ด้านล่างเป็นโลโก้ซัมซุง ด้านล่างสุดเป็นลำโพง





    ฝาหลังสามารถแกะได้ ที่สำคัญฝาหลังใช้วัสดุที่ค่อนข้างยืดหยุ่นโค้งงอได้ แบตเตอรีขนาด 1,750 mAH มีช่องใส่ซิมการ์ด รองรับ 3G ในทุกเครือข่ายไม่ว่าจะเป็น 850 / 900 / 2100 และเป็น Internal Storage ขนาด 16GB



ด้านซ้าย - เป็นปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง



ด้านขวา - ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และมีแม่เหล็กสำหรับต่อกับอุปกรณ์เสริม



ด้านล่าง - มีที่เสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน และ microUSB สำหรับชาร์จไฟ

ด้านบน - ไม่มีอะไร



ในส่วนของสเปกเครื่องมาพร้อมหน่วยประมวลผลดูอัล-คอร์ 1.2GHz Cortex-A9 ชิปเซ็ท TI OMAP 4460, หน่วยความจำสำรอง 1GB, ชิปกราฟิกเป็น PowerVR SGX540 สำหรับระบบปฏิบัติการแน่นอนว่าเป็น Ice Cream Sandwich 4.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดจากแอนดรอยด์



ด้านอินเตอร์เฟสมีความคล้ายคลึงกับระบบปฏิบัติการ Honeycomb โดยมีการปรับปรุงเพื่อสร้างความแตกต่างเล็กน้อย แต่ส่วนประกอบหลักๆ ยังคงยึดรูปแบบจาก Honeycomb อยู่

จุดขาย Galaxy Nexus


Face Unlock - เป็นการปลดล็อกหน้าจอแบบใหม่ ที่จะใช้โครงหน้าของผู้ใช้ในการปลดล็อก ซึ่งการทำงานของ Face Unlock ถือว่ารวดเร็วมก จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องล็อกอินในบัญชีผู้ใช้ Gmail ก่อนจึงจะใช้งาน Face Unlock ได้ ส่วนถ้าผู้ใช้ Face Unlock ไม่ผ่าน ทางระบบจะมีให้เลือกการปลดล็อกอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งผู้ใช้เลือกตั้งค่าได้เอง เช่น Slide, Pattern, PIN และ Password ถึงแม้ว่า Face Unlock จะเป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างน่าสนใจแต่ทว่าจุดอ่อนของมันก็มีอยู่ตรงที่ว่าผู้ใช้สามารถใช้รูปมาสแกนก็ใช้แทนได้ แต่มันก็ไม่ได้ทุกรูป



NFC - ย่อมาจากคำว่า Near Field Communication เป็นการส่งข้อมูลแบบไร้สาย ซึ่งการทำงานของ NFC เพียงแค่แตะกับแท็ก NFC ก็จะสามารถเข้าใช้งานไม่ว่าจะเป็นเว็บ เบราว์เซอร์ การแชร์ข้อมูลจำพวกไฟล์ภาพ เป็นต้น (ความจริงตั้งใจจะทดสอบแท็ก NFC ลงในวิดีโอ แต่ทว่าแท็ก NFC ที่ผมเคยมีอยู่มันหายไปกับสายน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)



Notification Bar - แถบแจ้งเตือนในรูปแบบใหม่ โดยใช้ธีมหลักเป็นสีฟ้ากับสีดำ ซึ่งด้านหลังวันที่จะเป็นคีย์ลัดสำหรับเข้าในส่วนของ Setting ด้านล่างจะแสดงเครือข่ายที่ใช้



Virtual Button - จะมีทั้งหมด 3 ปุ่ม คือปุ่ม Back, Home และ Multitasking ถ้าหากท่านผู้อ่านเคยใช้แท็บเล็ตที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Honeycomb ก็คงจะคุ้นกับทั้ง 3 ปุ่มดังกล่าว สำหรับปุ่ม Multitasking มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ คือสามารถยกเลิกแอปพลิเคชันที่รันอยู่ได้ทันที





Contact - สำหรับในส่วนของรายชื่อผู้ติดต่อมีการเพิ่มส่วนของเครือข่ายสังคมออนไลน์เข้ามาด้วย กล่าวคือในบัญชีผู้ใช้จะสามารถซิงค์กับเพื่อนบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทั้ง Twitter, Facebook และ Google+ ซึ่งเมื่อผู้ใช้เข้าไปในรายชื่อก็จะสามารถเห็นการทวีตล่าสุด และสถานะปัจจุบันของเพื่อนทันที



Data Usage - เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งสำหรับ Data Usage ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่าในแต่ละแอปพลิเคชันมีการใช้ Data ไปมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถเรียกดูได้ทีละแอปพลิเคชัน ทั้งนี้การดูจำนวนการใช้งาน Data มีให้เลือกทั้ง Mobile และ WiFi



App Drawer - ในส่วนของ App Drawer มีการปรับปรุงนิดหน่อย โดยนำ Widget จากเดิมที่จะต้องกดค้างในหน้า Homescreen แต่ใน Ice Cream Sandwich มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดย Widget จะไปอยู่บนแถบด้านบน ใกล้ๆ กับ Apps ส่วนมุมขวาบนเป็นทางลัดเข้า Android Market







Web Browser - ทางด้านของเว็บ เบราว์เซอร์มีการปรับปรุงให้มีความใกล้เคียงกับเบราว์เซอร์บนพีซีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Incognito สำหรับเข้าหน้าเว็บโดยที่ไม่ต้องให้มีการเก็บประวัติการเข้าใช้งาน, Bookmark สามารถซิงค์ให้ตรงกับ Chrome Browser ได้ ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์สำหรับการเข้าใช้งานเบราว์เซอร์แบบขาว-ดำ และสามารถโหลด Add-Ons เจ๋งๆ จาก Labs เพื่อเพิ่มความเก่งกาจของเบราว์เซอร์ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ฟอนต์ไทยถ้าสังเกตจะเห็นว่าตัวจะติดกันเป็นพืด ซึ่งคงต้องรอการแก้ไขต่อไป





Panorama - สำหรับในหมวดกล้องจะสามารถถ่ายภาพแบบ Panorama ได้ ซึ่งการทำงานในโหมด Panorama ค่อนข้างใช้เวลาในการประมวลผล ซึ่งยอมรับตามตรงว่าการใช้งาน Panorama ใน Galaxy Nexus ใช้งานค่อนข้างยาก







Benchmark

ซึ่งคะแนนที่ออกมา ถือว่าไม่ค่อยจะเยอะสักเท่าไหร่ นั่นอาจจะเป็นเพราะเป็นชิปเซ็ท TI OMAP 4460 บวกกับความที่จอเครื่องค่อนข้างใหญ่ โดยได้คะแนนจาก Nenamark 1 52.7fps, Nenamark2 ได้ไป 24.0fps

กล้องถ่ายภาพและวิดีโอ







ทดสอบการถ่ายวิดีโอความละเอียด VDO 1080p

 

ภาพตามสถานที่ต่างๆ
 









ตอบโจทย์จุดขายได้หรือไม่ ?

จุดขายของ Galaxy Nexus คงต้องยอมรับว่าการที่ Galaxy Nexus เลือกใช้จอ HD Super AMOLED ทำให้สีสันของภาพที่ให้ผ่านหน้าจอมีความสด สว่าง และดึงดูดการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าหากนำ Galaxy Nexus ไปใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างมาก หรือกลางแดด การใช้งาน Galaxy Nexus จะไม่มีความเหมาะสม ดังนั้นควรใช้งานเฉพาะที่ในที่ร่ม

ในส่วนของการใช้งานเว็บ เบราว์เซอร์ ใน Galaxy Nexus จะไม่สามารถใช้งานแฟลชได้เต็มที่ เนื่องจากทาง Adobe ยังไม่ได้พัฒนาแฟลชสำหรับ Galaxy Nexus ซึ่งแอปพลิเคชันแฟลชที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นไม่สามารถใช้แทนกันได้ ด้านการใช้งานโดยทั่วไปหน่วยประมวลกลางดูอัล-คอร์ 1.2GHz ทำให้การใช้งานค่อนข้างมีความลื่นไหลพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่าการใช้งานเครื่องหนักๆ ก็สามารถทำได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมสเปกสูงๆ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันหลายๆ แอปฯพร้อมกัน

แต่ทั้งนี้เรื่องปัญหาของ Galaxy Nexus ก็จะมีปัญหาในด้านของการระบายความร้อน เนื่องจากขณะที่ทางทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ได้รีวิวเครื่อง โดยการใช้งานจริงพบว่าตัวเครื่องร้อนง่ายมาก ทั้งที่ใช้งานเพียงแค่การเข้าเว็บไซต์บนเบราว์เซอร์ กับการใช้งานทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กเท่านั้น

แบตเตอรีจากที่กล่าวข้างต้นว่าขณะที่ทดสอบการใช้งานเครื่องจริง ได้ทดสอบการเชื่อมต่อผ่าน 3G (อย่างเดียว) โดยการใช้งานหลักๆ มีทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก, ถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ และเข้าเว็บไซต์ผ่านเว็บ เบราว์เซอร์ รวมถึงเล่นเกมเป็นครั้งคราว พบว่าใช้งานเครื่องได้ราวๆ 5 ชม. ครึ่ง (ชาร์จแบตเตอรีเต็ม 100% เมื่อถึงราวๆ 6 โมงเย็น แบตเตอรีถึงขีดแดง)

สำหรับวัสดุเครื่องใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก ดังนั้นฝาหลังที่แกะออกมาได้ สามารถงอได้

ท้ายที่สุด ถ้าพูดถึงฟีเจอร์แล้ว Face Unlock ถือว่าเป็นคีย์ฟีเจอร์ที่สำคัญใน Galaxy Nexus เลยก็ว่าได้ หลังจาที่ได้ลองใช้งานแล้วปัญหาของบั๊กต่างๆ ที่เคยมีก่อนหน้านี้ต่างถูกแก้ไขหมดแล้ว การใช้งาน Face Unlock สามารถปลดล็อกเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ชนิดที่ว่าใช้เวลาแค่เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น

ฟันธง ควรซื้อหรือไม่ ?

สำหรับราคาจำหน่ายของ Galaxy Nexus ได้ถูกเคาะราคาออกมาแล้ว โดยจะวางจำหน่ายในราคา 19,900 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าความคาดหมาย ทั้งนี้การตั้งราคา Galaxy Nexus ที่ 19,900 บาท เพราะว่าต้องการตัดราคาสู้กับ iPhone 4S อย่างจงใจ และนี่จะทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ สามารถชั่งน้ำหนักเลือกสินค้าได้ว่าควรจะซื้ออะไรระหว่าง Galaxy Nexus จากแอนดรอยด์ หรือ iPhone 4S จากไอโอเอส

แต่ทั้งนี้ประสิทธิภาพของ Galaxy Nexus หลังจากที่ใช้งานมาตลอด 1 สัปดาห์คงต้องบอกได้คำเดียวว่า 'ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง'

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้จับเครื่อง ความรู้สึกแรกที่ออกมาจากข้างในคือค่อนข้างชอบ น้ำหนักตัวเครื่องค่อนข้างเบา การตอบสนองทำได้เร็ว ที่สำคัญจอของตัวเครื่องมีสีสันดึงดูดสายตาอย่างยิ่ง

อีกจุดหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของ Galaxy Nexus คือการที่มันเป็น Pure Google ที่อาจจะให้ความรู้สึกแข็งกระด้างไปบ้าง (หรือพูดง่ายๆ คืออินเตอร์เฟสไม่มีอะไรเร้าใจเหมือนกับ TouchWiz ของซัมซุง หรือ Sense ของ HTC แต่ใน Galaxy Nexus มันลงตัวทุกอย่างแล้ว ชนิดที่ว่าไม่ต้องมีอะไรมาแต่งเติมให้ยุ่งยาก) และที่สำคัญการอัปเดทต่างๆ จะส่งตรงมาจากกูเกิล ดังนั้นโอกาสที่จะถูกลอยแพค่อนข้างมีน้อย

ถ้าหากตัดในเรื่องอคติที่ตัวแบรนด์ซัมซุงออกไป มองแล้วว่า Galaxy Nexus เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทุกประเภท เนื่องจากการใช้งานสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นด้านเกม, โซเชียล รวมไปถึงด้านการถ่ายภาพ แต่รู้สึกเสียดายนิดๆ ที่ว่าในส่วนของหน่วยประมวลผลกลางใน Galaxy Nexus ไม่ได้ใช้หน่วยประมวลผลกลาง Exynos ซึ่งถ้าใช้ Exynos 4212 ตามที่เคยมีข่าวลือออกมา คาดว่าตัวเครื่องคงจะแรงฉิว ตามประสามนุษย์ที่ชื่นชอบความเร็ว และความแรง

ดังนั้นฟันธงกันตรงๆ ไปเลยว่า Galaxy Nexus คุ้มค่า คุ้มราคา แน่นอนเพียงแต่ว่าเจ้า Galaxy Nexus ดันวางจำหน่ายชนกับ iPhone 4S ที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความลังเลใจในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เท่านั้นเอง








กำลังโหลดความคิดเห็น