แอลจีถือเป็นผู้นำเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่หันมาใช้ชิปเซ็ทที่เป็นแบบดูอัลคอร์ อย่าง Optimus 2X รวมถึงการขนเทคโนโลยี 3 มิติชนิดที่ไม่ต้องใช้แว่นตาอย่าง Optimus 3D สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการที่แอลจีค่อนข้างที่จะอัดสเปกแรงๆ เพื่อสร้างความแตกต่างบนตลาดสมาร์ทโฟน คงเหลือแต่เพียงเวลาที่แอลจีจะค่อยๆ ดูแลฟูมฟัก ประคบประหงมแบรนด์แอลจี เพื่้อต่อสู้กับ 2 พี่เบิ้มอย่างซัมซุง และเอชทีซี
สำหรับสมาร์ทโฟนแอลจีที่อยู่ในมือตอนนี้เป็นรุ่น LG Optimus Net สมาร์ทโฟนรุ่นกลาง แน่นอนว่าราคาที่วางจำหน่ายจะเป็นราคาที่ไม่สูงมาก ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่เอาไว้เช็คอีเมล แชตผ่าน Whatsapp Gtalk ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ ท่องโลกอินเทอร์เน็ต
Feature On LG Optimus Net
LG Optimus Net จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 (Gingerbread) ซึ่งรุ่นที่รีวิวนั้นเป็นเวอร์ชัน 2.3.4 ในด้านอินเตอร์เฟสเครื่อง LG Optimus Net จะมาพร้อมกับ LG UI 2.0
หน้าจอ Home Screen จะมีทั้งหมด 7 หน้า สามารถจัดวางรูปแบบของแอปพลิเคชัน วิดเจ็ต และปรับภาพพื้นหลังได้ ด้านล่างจะมีปุ่มเมนูหลักประกอบด้วยปุ่มโทรศัพท์, รายชื่อติดต่อ, ช้อความ และการเข้าถึงแอปพลิเคชันทั้งหมด
ในส่วนของแอปพลิเคชันพื้นฐานทางแอลจีให้มาครบถ้วนซึ่งจะขออธิบายเป็นบางแอปฯ ที่เด่นๆ เท่านั้น ส่วนแอปฯ ที่ถูกฝังลงในเครื่อง Optimus Net รุ่นนี้ ก็จะมีแอปฯ Polaris Viewer, Remote Call, Smart Share, Application Manager นอกจากนี้แล้วในหน้าแอปพลิเคชันจะมีแบ่งแยกเอาไว้ชัดว่าแอปฯ ใดที่ผู้ใช้โหลดมาติดตั้งเอง
ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะจัดเลย์เอาต์ของหน้ารวมแอปฯ ได้ตามที่ต้องการ โดยที่เครื่องอนุญาตให้ปรับแต่งเลย์เอาต์ได้ 3 รูปแบบ คือ แบบ Category, Page และ List
ในส่วนของการแจ้งเตือน สามารถดูการแจ้งเตือนได้ง่ายๆ เพียงแค่ลากนิ้วลงมา ซึ่งจะมีคีย์ลัดเพื่อสะดวกต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการเปิด/ปิดเสียง/ตั้งโหมดสั่น, เปิด/ปิดไว-ไฟ, บลูทูธ, GPS และ Mobile Network นอกจากนี้แล้วยังมีเมนูเล่นเพลงอยู่ในแท็บแจ้งเตือนด้วย
การออกแบบในหมวดการใช้งานโทรศัพท์ก็ง่ายๆ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ปุ่มโทรศัพท์ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากจอของเครื่องอยู่ในขนาดกลางๆที่ 3.2 นิ้วเท่านั้นเอง ส่วนระบบคาดเดาเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ใช้กำลังกดเบอร์อยู่นั้นค่อนข้างแม่นยำ นอกจากนั้นอีก 3 ส่วน คือ Call Log, Contacts และ Groups สามารถเรียกใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอะไร
ในส่วนของแอปพลิเคชันด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันเพลง, วิดีโอ รวมไปถึงวิทยุ การออกแบบอินเตอร์เฟสค่อนข้างธรรมดา ซึ่งจุดนี้ไม่ได้เป็นจุดขายของ Optimus Net อยู่แล้ว ส่วนคุณภาพเสียงที่ให้มาใช้ได้เลยทีเดียว
กล้องถ่ายภาพที่ให้มามีความละเอียด 3 ล้านพิกเซล แต่คุณภาพของตัวกล้องอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว สามารถถ่ายภาพในสภาวะที่แสงน้อยได้ดี และเห็นบรรยากาศของภาพค่อนข้างชัด นอกจากนี้แล้วความเร็วของชัตเตอร์ก็ถือว่าเร็วกว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หลายต่อหลายตัวในตลาด ส่วนการถ่ายภาพใกล้ทำได้ดีในระยะ 3 ซม. สำหรับฟีเจอร์อื่นที่มีมาให้ เช่นปุ่มปรับซูมภาพ ระดับแสง ฟิลเตอร์ และการตั้งค่า ความละเอียดของภาพอยู่ที่ 2048 x 1536 พิกเซล ส่วนทางด้านขวาสามารถปรับเป็นโหมดวิดีโอได้ ด้านล่างสำหรับเข้าไปดูภาพก่อนหน้านี้
Polaris เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับเปิดไฟล์เอกสารออฟฟิศต่างๆ รวมไปถึงเอกสาร PDF
การใช้งานเว็บบราวเซอร์ เนื่องจากหน้าจอมีขนาดเล็ก ดังนั้นการใช้งานไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน จะต้องใช้วิธีการซูมเข้าเพื่อง่ายต่อการอ่าน รองรับการเปิดหน้าบราวเซอร์พร้อมกันได้ 8 หน้า ส่วนการแสดงผลหน้าเว็บสามารถแสดงผลได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
RemoteCall เป็นแอปพลิเคชันที่จะให้บริการซ่อมแซมปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน LG ซึ่งทาง LG จะวิเคราะห์และหาสาเหตุของปัญหา โดยที่แอปพลิเคชันนี้จะต้องเปิด 3G หรือ WiFi
SmartShare เป็นอีกแอปพลิเคชันหนึ่งที่มีความน่าสนใจ และตัวแอปพลิเคชันดังกล่าวก็จะถูกฝังมากับตัวเครื่อง สำหรับคุณสมบัติของแอปฯ นี้ มีไว้แชร์ไฟล์รูปภาพ วิดีโอ ให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ แต่ต้องมีการเปิดใช้งาน WiFi ก่อน
Application Manager บริการของแอปพลิเคชันนี้ ผู้ใช้จะสามารถตรวจสอบได้ว่าขณะนี้มีแอปฯ ใดที่กำลังทำงานอยู่ในระบบสมาร์ทโฟน และสามารถหยุดการทำงานของแอปพลิเคชันได้ โดยจะเลือกไว้หยุดการทำงานของแอปพลิเคชันทั้งหมด หรือจะหยุดเป็นบางแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ภายในแอปฯ ผู้ใช้สามารถสั่งถอนแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งานแล้ว เพื่อลดความจุของเครื่อง
ในส่วนของสเปกภายในของ Optimus Net มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7227T ความเร็ว 800 MHz GPU หน่วยความจำ 150 MB, RAM 512 MB และมาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 (Gingerbread)
สำหรับคะแนนทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Quadrant Standard ได้ 856 คะแนน การทดสอบด้วย Neocore อยู่ที่ 50.7 FPS และรองรับการสัมผัสทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน MultiTouch Tester ได้ 2 จุด
Design of LG Optimus Net
สำหรับ Optimus Net หน้าจอแสดงผลแบบ TFT LCD Capactive หน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว ที่ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล มีขนาดรอบตัวเครื่อง 113.5 x 59 x 12.1 มิลลิเมตร จากการใช้งานตัวเครื่องขนาดเหมาะมือ กระชับ รวมถึงน้ำหนักทั้งหมดรวมแบตเตอรีค่อนข้างเบา น้ำหนักรวมอยู่ที่ 122 กรัม
การออกแบบของ LG Optimus Net รุ่นนี้ ค่อนข้างสวยงามทีเดียว รูปลักษณ์เป็นทรงแท่งตัดมุมโค้งมนทั้ง 4 ด้าน วัสดุงานประกอบเป็นพลาสติก การจับขณะใช้งานจริงเหมาะกระชับมือมาก ตัวเครื่องทั้งหมดเน้นความเป็นสีดำ
ด้านหน้า - ออกแบบเป็นลักษณะแท่ง การออกแบบตัวเครื่องเน้นความโค้งมนทั้ง 4 มุม ด้านบนเครื่องมีเซนเซอร์ 2 ตัว คือ Accelerometer ที่เป็นเซนเซอร์สำหรับการใช้งานหน้าจอในแนวตั้ง/แนวนอน และ Proximity ที่สำหรับเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติระหว่างมีการใช้งานโทรศัพท์ บนสุดมีโลโก้ LG ส่วนล่างของตัวเครื่องมีลูกเล่นโดยการเพิ่มปุ่มกด 4 ปุ่ม (ปุ่มเมนู, โฮม, ย้อนกลับ และค้นหา)ให้มีความนูนขึ้นไม่ราบเรียบไปกับหน้าจอ
ด้านหลัง - วัสดุด้านหลังเป็นพลาสติก วิธีการถอดแบตสามารถแงะจากด้านล่าง ความละเอียดของกล้องที่ให้มา 3 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ความจุ 1,500 mAH ภายในมีช่องใส่ซิมการ์ด และเอสดีการ์ด
ด้านซ้าย - เป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง
ด้านขวา - มีช่องเสียบไมโครยูเอสบี สำหรับถ่ายเทข้อมูลลงสู่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมไปถึงใช้สำหรับชาร์ตแบตเตอรีเครื่อง
ด้านล่าง - มีช่องเล็กๆ ไว้สำหรับแกะฝาหลังเครื่อง
ด้านบน - ทางขวามือจะเป็นปุ่มล็อคเครื่อง เปิด/ปิดเครื่อง ทางซ้ายมือเป็นช่องเสียบหูฟังแบบมาตรฐาน
บทสรุป
ถ้าหากจะจัดหมวดตลาดของ LG Optimus Net คาดเดาว่าน่าจะอยู่ในสมาร์ทโฟนตลาดกลาง เนื่องจากสเปกเครื่องที่ให้มานั้นเหมาะสมกับราคา 6,990 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนตุลาคม
แน่นอนว่าการใช้งานของลูกค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ คือ ไม่ได้เน้นการใช้งานเครื่องที่ต้องการสเปกสูงๆ การใช้งานหลักย่อมหนีไม่พ้นการเช็คอีเมล แชต การใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ สำหรับการใช้งานด้านมัลติมีเดีย ดูเหมือนว่า Optimus Net จะไม่ได้เน้นการรองรับการใช้งานนี้โดยตรง
ขณะที่ตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อรูปแบบเครือข่าย 3G บนคลื่นความถี่ 900/2100 รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 b/g/n, ใช้งานเป็น Wi-Fi hotspot ได้ บลูทูธ วิทยุFM จีพีเอส มาให้ตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนรุ่นกลางในตลาด
ความจุของแบตเตอรีที่ตัวเครื่องกำหนดมาให้มีขนาด 1500 mAH ถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมากที่เดียว สามารถใช้งานหนักๆ อย่างเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา โทรศัพท์บ้าง อยู่ได้ 1 วันสบายๆ จากขนาดหน้าจอที่ไม่ใหญ่มากนัก และหน่วยประมวลผลที่ไม่กินไฟมากนัก
ขอชม
- การออกแบบรอบตัวเครื่องสวยงาม มีความกระชับ เหมาะมือ
- คุณภาพกล้องถ่ายภาพ อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานเกินความคาดหมาย
ขอติ
- ไม่มีฟีเจอร์สำหรับปรับแต่งในหมวดมัลติมีเดีย
- การใช้งานคีย์บอร์ดจำลองไม่เหมาะกับคนนิ้วใหญ่ ต้องใช้งานเครื่องเป็นแนวนอนแทน
- การแสดงผลเว็บบราวเซอร์ไม่เหมาะกับการอ่านในแนวตั้ง
Company Related Link :
LG