ในที่สุดแท็บเล็ตเครื่องแรกจากเอชทีซี ก็ได้ออกมาโลดแล่นอยู่ในตลาดสักที หลังจากมีแผนวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าด้วยชื่อชั้นในเทคโนโลยีของเอชทีซี คงต้องมีการสร้างจุดต่างกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆในท้องตลาดแน่นอน
ฟีเจอร์เด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นความสามารถในการใช้งานปากกาสไตลัส ในชื่อ HTC Scribe ที่ช่วยเปลี่ยนแท็บเล็ตให้กลายเป็นสมุดจดอิเล็กทรอนิกส์ได้ทุกที่ทุกเวลา ถัดมาเป็นซีพียูความเร็ว 1.5 GHz หน้าจอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1,024 x 600 พิกเซล กล้องหน้าหลัง
แต่จุดที่น่าเสียดายคือเวอร์ชันของแอนดรอยด์ที่ใช้ยังเป็น 2.3.3 (Gingerbread) เท่านั้น ทำให้ฟีเจอร์หลักอื่นๆแทบไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนที่ตัดการใช้งานโทรศัพท์และเพิ่มขนาดหน้าจอเท่านั้น คงต้องรอดูถึงความคืบหน้าในการพัฒนา Flyer ให้มาบินบนแอนดรอยด์ 3.1 (Honeycomb) ต่อไป
Feature On HTC Flyer
Flyer มาพร้อมอินเตอร์เฟสการใช้งาน Sense เวอร์ชัน 2.1 สำหรับแท็บเล็ต ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันเดิมใน Incridible และ Desire S ให้เหมาะกับการใช้งานบนแท็บเล็ตมากขึ้น (แนวนอน)
โดยประกอบไปด้วยหน้าหลัก 8 หน้าให้สามารถเลือกนำวิตเจ็ต ช็อตคัท ไอคอน รูปภาพต่างๆมาวางไว้ตามสไลต์ของผู้ใช้งาน มีลูกเล่นอินเตอร์เฟสให้ดูเป็น 3มิติ เล็กน้อยถ้าสบัดนิ้วที่หน้าจอหลักเร็วๆ จะเป็นการหมุนหน้าจอวิตเจ็ต แถบล่างของหน้าจอหลัก จะมีปุ่มกดเรียกเมนูทั้งหมด เข้า Notes Reader Watch และ Personalize
เมื่อเข้าไปในส่วนของการตั้งค่า Personalize มีการแยกประเภทเป็น Scene ให้เป็นรูปแบบตามการใช้งาน การเปลี่ยน Skin หรือธีมหลักของเครื่อง เปลี่ยนภาพพื้นหลัง และที่มีเพิ่มเข้ามาคือการตั้งค่าในส่วนของ Lock Screen ส่วนที่เหลือเป็นการใส่วิตเจ็ต ไอค่อนลัด ช็อตคัทเข้าใช้งาน สร้างโฟลเดอร์จัดการไอค่อนที่หน้าจอ ตั้งค่าระบบเสียง การแจ้งเตือน
หน้าจอ Lock Screen ที่พบใน Flyer จะเป็นรูปแบบเดียวกับใน Sense 3.0 ที่จะมาพร้อมกับ HTC Sensation ที่มีคิววางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆนี้ มีลักษณะการทำงานทั้ง เลื่อนวงกลมขึ้นเพื่อปลดล็อกหน้าจอ หรือลากไอค่อยของแอปฯที่ต้องการใช้งานเพื่อเข้าสู่แอปฯอย่างรวดเร็ว (สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ตามข้างต้น)
ในส่วนของการแจ้งเตือนนั้น ถ้าใช้งานในแนวนอนจะมีการแบ่งออกเป็น 2 คอลัมน์แสดงผลแอปพลิเคชันที่ใช้ล่าสุด การแจ้งเตือนต่างๆ และหน้าจอตั้งค่าด่วน ที่มีตั้งแต่ปรับความสว่างหน้าจอ การเอียงเครื่อง ไว-ไฟ ไว-ไฟฮ็อตสปอต โมบายเน็ตเวิร์ก บลูทูธ และเข้าสู่หน้าตั้งค่าหลัก
ถ้าใช้งานในแนวตั้งจะแบ่งการแจ้งเตือนออกเป็น 2 หน้า คือ Notifications ที่แสดงผลแอปฯและการแจ้งเตือน กับ Quick Setting หรือหน้าตั้งค่าด่วน ซึ่งสามารถกดสลับไปมาได้ที่ส่วนล่างของหน้าจอ
ส่วนของ Reader จะเป็นหน้ารวมหนังสืออีบุ๊กภายในเครื่องที่ใช้บริการของ Kobo ในการสั่งซื้อสั่งสือเล่มใหม่ๆ เข้ามาอ่านได้ การแสดงผลทำได้เฉพาะแนวตั้งเท่านั้น สามารถใช้นิ้วสั่งขยาย-ย่อตัวอักษรได้ตามความต้องการ และยังใช้ปากกาในการเน้นประโยคต่างๆได้
Watch จะเป็นการแสดงภาพยนตร์ทั้งแบบสตรีมมิง และไฟล์ที่อยู่ในเครื่อง ให้ผู้ใช้สามารถเลือกรับชมได้ ซึ่งถ้าต้องการสตรีมมิงจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับไวไฟในเพื่อความเร็วในการใช้งาน
จุดเด่นหลักของ Flyer คงหนีไม่พ้นการ Notes ที่ผูกบริการเข้ากับ Evernote ให้ผู้ใช้สามารถแชร์โน้ตย่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆได้ และสามารถนำโน้ตย่อจากอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้งาน Evernote เข้ามาใช้ภายใน Flyer ได้ด้วยเช่นกัน
ภายในโน้ตผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความ ใช้ปากกา Scribe ลงบนหน้าจอ ถ่ายรูป อัดเสียง อัดวิดีโอ แนบไฟล์เอกสาร ใส่ไฟล์ประกอบอื่นๆลงไปในโน้ตได้ทันที รวมถึงยังสามารถผูกเข้ากับปฏิทินเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
นอกจากนี้เมื่อใช้งานแอปพลิเคชันใด หรือเปิดหน้าเว็บไซต์ แล้วต้องการเซฟรูปภาพ ใช้ปากกาจดช็อตโน้ต เพื่อเซฟส่งก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยการสัมผัสปากกาลงไปที่หน้าจอ จะเกิดการกระพริบหนึ่งที หลังจากนั้นก็ใช้ปากกาวาดได้เลย
สำหรับเมนูปากกา สามารถเรียกใช้งานได้โดยการนำปากกาไปสัมผัสที่ปุ่มรูปปากกาบริเวณมุมขวาล่าง โดยจะมีรูปแบบปากกาให้เลือกใช้ 6 แบบ และยางลบ 1 อัน แน่นอนว่าผู้ใช้สามารถเปลี่ยนขนาดแปรง เปลี่ยนสี หรือถ้าวาดภาพไปแล้วต้องการ Undo/Redo ลบ ได้จากถาดคำสั่ง
Press Reader เป็นแอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดหนังสือพิมพ์ นิตยสารจากทั่วโลกที่เข้าร่วมได้ โดยมีการแบ่งประเทศชัดเจน ในการใช้งานสามารถใช้นิ้วทำพินช์ซูม สัมผัสเลื่อน เปิดหน้าได้เหมือนอ่านอีบุ๊ก แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดด้วย
Snapbooth เป็นแอปฯสำหรับถ่ายภาพตนเองที่ผู้ใช้สามารถเลือกแบบได้ว่าจะเป็นแบบช็อตเดียวหรือช็อต และยังสามารถใส่เอฟเฟกต๋ได้ทั้ง Bulge Pucker Mirror Contrast Glow Sepia Vintage และ Dots ซึ่งตัวกล้องจะใช้กล้องหน้าถ่าย
ส่วนถ้าต้องการใช้งานกล้องหลังสามารถเข้า Camera ซึ่งอินเตอร์เฟสของกล้องจะเป็นเช่นเดียวกับในเครื่องรุ่นใหม่ๆของเอชทีซีอย่าง Incridible S และ Desire S ที่ออกมาพร้อมกล้องหน้า-หลัง
เมื่อต้องการดูภาพสามารถเข้าไปดูได้จากภายใน Albums ซึ่งมีการปรับอินเตอร์เฟสเมื่อใช้งานในแนวนอน เป็นการแบ่งอัลบั้มรูปอยู่ทางฝั่งซ้าย และแสดงผลรูปทางฝั่งขวา แน่นอนว่าถ้าผู้ใช้มีการซิงค์ข้อมูลกับเครือข่ายสังคมก็สามารถเข้าไปดูรูปภายในนั้นได้จากส่วนนี้ด้วย
เช่นเดียวกับหน้าจออีเมล ถ้าใช้งานในแนวนอนจะมีการแบ่งการคอลัมน์ออกเป็น 2 ส่วนคือแสดงผลข้อความและหัวข้อ คล้ายๆกับใน HoneyComb เพียงแต่ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่า
เว็บเบราว์เซอร์ถูกพัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานแท็บเล็ตมากขึ้น มีปุ่มสลับหน้าให้เลือกใช้ชัดเจน พร้อมทั้งยังใส่ฟีเจอร์ในการแชร์หน้าเว็บ ดูข้อมูลดาวน์โหลด ประวัติการใช้งาน สั่งพิมพ์หน้าเว็บได้
โดยการแสดงผลเว็บเบราว์เซอร์เป็นไปตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ สามารถใช้งาน Adobe Flash ได้ ซูมเข้า-ออก ทำได้ลื่นไหลดี (ดูการใช้งานได้จากในส่วนของวิดีโอ)
หน้า Task Manager มีการปรับปรุงให้แสดงผลหน่วยความจำภายในที่ 806 MB แสดงผลส่วนที่ใช้ไป และส่วนที่เหลืออยู่ และยังสามารถเลือกปิดเฉพาะแอปฯที่ไม่ต้องการเปิดให้รันต่อไป หรือเลือกปิดแอปฯทั้งหมดเพื่อล้างหน่วยความจำก็ได้
คีย์บอร์ดที่ให้มานั้น สามารถเปลี่ยนภาษาได้โดยการสัมผัสที่ปุ่ม SpaceBar ค้างไว้และเลื่อนไปทางซ้าย-ขวา เพื่อสลับภาษา สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน การรับสัมผัสจากหน้าจอขนาดใหญ่ตอบสนองได้ค่อนข้างดี
การตั้งค่าต่างๆภายในแอนดรอยด์ 2.3.3 นั้นนอกจากการตั้งค่าทั่วๆไปอย่างการเชื่อมต่อ โทรศัพท์ เสียง หน้าจอ โลเคชัน แอปพลิเคชัน หน่วยเก็บข้อมูล ภาษา คีย์บอร์ด คำสั่งเสียง วันเวลา จัดการพลังพลังงาน ก็มีเพิ่มการตั้งค่าส่วนตัว ปากกา ดอกกิ้ง เพิ่มเข้ามา
ในส่วนของสเปกภายในของ HTC Flyer หรือในชื่อโค้ดเนม P510e ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm 8055 ความเร็ว 1.5 GHz และหน่วยประมวลผลภาพ Adreno 205 หน่วยความจำภายใน 32 GB ROM 7.67 GB RAM 1 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3.3
หน้าจอสามารถรองรับมัลติทัชได้ทั้งหมด 6 จุดด้วยกัน ผลการทดสอบประสิทธิภาพบนโปรแกรม SmartBench 2011 อยู่ที่ 1447 คะแนน ค่า Benchmark Pi เฉลี่ยอยู่ที่ 4096.395 ms
Quadrant Advance ได้คะแนนที่ 2224 คะแนน ส่วน
ขณะที่การประมวลผลภาพบน NenaMark 1 และ 2 ได้เฟรมเรทอยู่ที่ 35.9 FPS และ 11.6 FPS ตามลำดับ An3DBench และ An3DBenchXL อยู่ที่ 6754 และ 27715 ส่วน Neocore ได้เฟรมเรทอยู่ที่ 51.5 FPS
Design of HTC Flyer
ในส่วนของการออกแบบนั้น Flyer ยังคงเน้นไปที่วัสดุและโครงเครื่องแบบ ยูนิบอดี้เป็นหลัก ผสมกับขอบเครื่องพลาสติกสีขาว ให้ความรู้สึกหรูหราผสมผสานไปกับตัวบอดี้สีเงิน บนขนาดตัวเครื่อง 195.4 x 122 x 13.2 มิลลิเมตร น้ำหนัก 420 กรัม
ด้านหน้า - ส่วนประกอบหลักคงหนีไม่พ้นหน้าจอ Capacitive ทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 600 พิกเซล ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงและการเอียงเครื่อง
เมื่อวางเครื่องในแนวนอนบนหน้าจอจะมีกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล และมีปุ่มควบคุมแบบสัมผัสไล่ตั้งแต่ โฮม เมนู และย้อนกลับ และปุ่มควบคุมการ Scribe ที่เป็นรูปปากกาสีเขียวอยู่มุมขวาล่างรับสัมผัสเฉพาะจากปากกาเท่านั้น
ด้านหลัง - ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือส่วนกลางเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียมแบบยูนิบอดี้ มีแปะตรา "hTC" สีเงินพาดไว้ตรงกลาง และสกรีน With HTC SENSE ไว้ข้างล่าง และมีลำโพงสเตอริโอซ่อนอยู่บริเวณที่มีการเจาะช่อง ขณะที่ขอบล่างมีลักษณะนูนขึ้นมารับการจับของอุ้งมือ (ตัวรับสัญญาณไวเลสอยู่ในจุดนี้ ทำให้ถ้าใช้มือจับครอบทั้งหมดสัญญาณไวเลสจะอ่อนลง)
ขอบบนเป็นที่อยู่ของกล้องหลักความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่ไม่มีไฟแฟลชมาให้ เมื่อเปิดออกมาโดยการดันขึ้นข้างบน จะพบกับช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด และซิมการ์ดเท่านั้น ไม่สามารถถอดแบตฯได้
ด้านซ้าย - ถูกปล่อยว่างไว้ ด้านขวา - เป็นที่อยู่ของปุ่มปรับระดับเสียง ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และปุ่มสำหรับเปิด-ปิดเครื่อง (มีไฟแสดงสถานะอยู่บริเวณปุ่มด้วย) ด้านล่าง - เป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบไมโครยูเอสบี ที่มีรูปร่างแปลกไปจากปกติ แต่ก็สามารถใช้งานกับสายมาตรฐานได้
ปากกา Scribe ของเอชทีซีนั้น ทำงานด้วยถ่าน AAAA ที่ทางผู้บริหารให้ข้อมูลว่าสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป โดยมีปุ่มกด 2 ปุ่มคือบน และล่าง สำหรับใช้เน้นข้อความ และลบ ตามลำดับ
ส่วนอแดปเตอร์ชาร์จของ HTC Flyer นั้น เนื่องจากตัวเครื่องมีแบตเตอรี ความจุ 4,000 mAh จึงจำเป็นที่จะต้องมีอะแดปเตอร์ที่สามารถจ่ายไฟได้มากกว่าสำหรับใช้งานกับสมาร์ทโฟน โดยมีค่า Output อยู่ที่ 9 โวลต์ 1,67 แอมฯ
บทสรุป
Flyer อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในตลาดแท็บเล็ต ขนาด 7 นิ้ว ที่ถือว่ากำลังพอเหมาะ ไม่เล็กและใหญ่เกินไป แต่ยังน่าเสียดายที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3 ทำให้ความสามารถหลักๆแทบไม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ของเอชทีซี แถมยังไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้จึงทำให้ความน่าสนใจในตัวสินค้าลดลง
แต่ถ้าในอนาคตทางเอชทีซีมีการอัปเกรด Flyer ให้สามารถทำงานบนแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 3.1 (Honeycomb) หรือ 2.4 (Ice-cream Sandwich) ที่กูเกิลออกมาประกาศว่าจะเป็นมาตรฐานของระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในอนาคต พร้อมกับใส่ความสามารถในการโทรศัพท์เข้ามา Flyer จะถือเป็นแท็บเล็ตที่น่าดึงดูดใจขึ้นมาทันที
ความสามารถอย่าง Scribe น่าจะเหมาะกับนักเรียน หรือ นักธุรกิจที่ต้องการใช้ปากกาเพื่อจดบันทึกข้อมูล มากกว่านำไปใช้สร้างความบันเทิงในการใช้งาน ทำให้ฟีเจอร์ดังกล่าวไม่น่าจะได้รับความนิยมในวงกว้างกับผู้ใช้งานทั่วไป
แต่อย่างไรก็ตาม ความสามารถทางด้านมัลติมีเดียของ Flyer เองก็ไม่ได้ขี้เหร่ เพราะจากซีพียู 1.5 GHz ของตัวเครื่องที่ให้มานั้น สามารถใช้ประมวลผลไฟล์ภาพยนตร์ระดับ HD ได้สบายๆ แถมยังสามารถใช้ระบบ DLNA ภายในเครื่องส่งข้อมูลไปยังเครื่องเล่นอื่นๆในเครือข่าย ผ่านไวเลสมาตรฐาน 802.11 b/g/n ได้อีกด้วย
และจากหน่วยความจำภายใน 32 GB ที่แบ่งมาไว้สำหรับลงแอปพลิเคชันถึง 7.67 GB ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการลงแอปฯแล้วเครื่องจะเต็ม รวมถึงเวลาการใช้งานบนแบตเตอรี 4,000 mAh ที่ทดลองเปิดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน EDGE ตลอดเวลา เล่นเกม เปิดเว็บเบราว์เซอร์ สลับวางทิ้งไว้ สามารถใช้งานได้ 2 วันสบายๆ แต่ถ้าใช้งานหนักๆ แบบเปิดเพลง ดูภาพยนตร์เชื่อว่าสามารถอยู่ได้จนหมดวัน
ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ HTC Flyer อยู่ที่ 20,500 บาท โดยภายในกล่องจะมาพร้อมปากกา 1 ด้าม และซองหนังใส่เครื่องที่มีช่องเหน็บปากกามาให้
ขอชม
- แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วพกพาสะดวก ความเร็ว 1.5 GHz
- Scribe ช่วยเพิ่มการป้อนข้อมูลบนหน้าผ่านปากกา
- มีกล้องทั้งหน้า-หลัง
- อินเตอร์เฟสการใช้งาน Sense
ขอติ
- ยังไม่ใช่แอนดรอยด์เวอร์ชัน Honeycomb
- ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้
- แอปฯที่รองรับแท็บเล็ตยังมีไม่มากนัก
- ตัวเครื่องไม่มีที่เก็บปากกา เสี่ยงต่อการหายสูง
Company Related Links :
HTC