xs
xsm
sm
md
lg

Review รีวิวสินค้าไอที สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก

x

Review : WD TV Live Hub จับ MediaHub ผนวก InternetTV

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ในประเทศไทย หลายท่านที่เป็นนักดูหนังและชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง แต่ไม่ต้องการหาซื้อเครื่องเล่น Blu-Ray ที่มีราคาแพง มักจะนิยมหาซื้อเครื่องเล่นจำพวก MediaBox หรือประกอบคอมพิวเตอร์ชุดแบบ HTPC (Home Theater Personal Computer) ที่มีฮาร์ดไดร์ฟสำหรับเก็บไฟล์มีเดียต่างๆ มาต่อกับชุด LCD/LED TV ซึ่งถือว่าช่วยลดต้นทุนในการสร้างพื้นที่ Home Theater ส่วนตัวได้อย่างคุ้มทุนที่สุด

เพราะฉะนั้นวันนี้ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์จึงขอนำเสนออุปกรณ์ MediaBox ที่พ่วงฟังก์ชัน InternetTV มาด้วยในชื่อ WD TV Live Hub โดยในส่วนของรายละเอียดและประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ต่อจากนี้ครับ

Design and Specifications



สำหรับสเปกหลักๆ ของ WD TV Live Hub ภายในจะบรรจุฮาร์ดไดร์ฟรหัส WDBABZ0010BBK ขนาด 1TB มาให้ (สามารถเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ฟพกพาภายนอกได้) ในส่วนการรองรับฟอร์แม็ตไฟล์ต่างๆ จะมีดังต่อไปนี้

Video - AVI (Xvid, AVC, MPEG1/2/4), MPG/MPEG, VOB, MKV (h.264, x.264, AVC, MPEG1/2/4, VC-1), TS/TP/M2T (MPEG1/2/4, AVC, VC-1), MP4/MOV (MPEG4, h.264), M2TS, WMV9, FLV (h.264)
Photo - JPEG, GIF, TIF/TIFF, BMP, PNG
Audio - MP3, WAV/PCM/LPCM, WMA, AAC, FLAC, MKA, AIF/AIFF, OGG, Dolby Digital, DTS
Playlist - PLS, M3U, WPL
Subtitle - SRT, ASS, SSA, SUB, SMI

**MPEG2 MP@HL up to 1920x1080p24, 1920x1080i30 or 1280x720p60 resolution.
MPEG4.2 ASP@L5 up to 1280x720p30 resolution and no support for global motion compensation.
WMV9/VC-1 MP@HL up to 1280x720p60 or 1920x1080p24 resolution. VC-1 AP@L3 up to 1920x1080i30, 1920x1080p24 or 1280x720p60 resolution.
H.264 BP@L3 up to 720x480p30 or 720x576p25 resolution.
H.264 MP@L4.1 and HP@4.1 up to 1920x1080p24, 1920x1080i30, or 1280x720p60 resolution.
An audio receiver is required for multi-channel surround sound digital output.
Compressed RGB JPEG formats only and progressive JPEG up to 2048x2048.
Single layer TIFF files only.
Uncompressed BMP only. **


และสำหรับขนาดของ WD TV Live Hub จะมีความกว้างอยู่ที่ 6.10 นิ้ว สูง 1.25 นิ้ว ลึก 7.80 นิ้ว ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 550 กรัม



ในส่วนพอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังจะประกอบด้วย จากซ้ายมือ ช่องเสียบ Adapter แปลงไฟ พอร์ต Optical in สำหรับจ่ายสัญญาณเสียงแบบ Digital ไปยังเครื่อง A/V Reciever ถัดมาจะเป็นพอร์ต HDMI และ USB 2.0 (สำหรับเชื่อมต่อกับฮาร์ดไดร์ฟภายนอกหรือคีย์บอร์ด) จากนั้นจะเป็นในส่วนของพอร์ต Ethernet RJ-45 สำหรับใช้เชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์กและอินเทอร์เน็ต ถัดมาจะเป็นช่อง Composite A/V อันประกอบด้วย ช่องสัญญาณภาพและเสียงสเตอริโอซ้ายขวา และสุดท้ายจะเป็นช่อง Component สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณภาพความละเอียดสูง

System Screen



เมื่อเริ่มใช้งาน WD TV Live Hub สิ่งแรกที่ผู้ใช้จะพบหลังจากผ่านโลโก้ WD และตัวเครื่องตรวจจับสัญญาณภาพไปแล้วจะพบกับหน้า Home Screen ที่มี UI ค่อนข้างสวยงาม โดยแถบเมนูใช้งานต่างๆ จะถูกแสดงอย่างเด่นชัด ผู้ใช้สามารถเลื่อนแถบเมนูซ้ายขวาได้ผ่านทางรีโมทหรือถ้าต่อคีย์บอร์ดยูเอสบี ก็สามารถทำได้ผ่านปุ่มลูกศรซ้ายขวา



ซึ่งถ้าผู้ใช้ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว้ ระบบจะทำการตรวจหาเฟริมแวร์ล่าสุดให้อัตโนมัติ และสามารถกดอัปเดตได้ทันทีเช่นกัน



Files มาที่เมนูแรกในส่วนของ Files จะเป็นเหมือน Explorer ในการสำรวจไฟล์มีเดียต่างๆ ที่อยู่ในตัวเครื่องหรือในฮาร์ดไดร์ฟที่นำมาเสียบผ่านพอร์ต USB



Photos ในส่วนนี้จะเป็นการแสดงรูปภาพที่เก็บอยู่ในฮาร์ดไดร์ฟ โดยจะรองรับนามสกุลไฟล์ตั้งแต่ JPEG, GIF, TIF/TIFF, BMP และ PNG โดยในส่วนการแสดงผลสามารถแสดงได้แบบทั้ง Thumbnail และเป็นชื่อไฟล์

อีกทั้งเมื่อกดเข้าไปชมรูปภาพแล้ว เมื่อกดปุ่ม Options บนรีโมทจะมีคำสั่งพิเศษ เช่น หมุนซ้าย-ขวา ซูมเข้าออก ให้คะแนนภาพถ่ายสำหรับไว้จัดโหมดหมู่ รวมถึงคำสั่งในการอัปโหลดรูปภาพเข้าสู่โปรไฟล์ Facebook ได้ทันที (ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)



Videos สำหรับส่วนของ Videos จะสามารถโชว์รายละเอียดและ Thumbnail ของวิดีโอได้ (ต้องเป็นวิดีโอที่ซื้อผ่านออนไลน์) และยังสามารถ Browse ไฟล์วิดีโอจากฮาร์ดไดร์ฟภายนอกมาชมผ่านส่วนของ Videos รวมถึงความสามารถในการอัปโหลดวิดีโอลงสู่หน้า Facebook ของเราได้ด้วย (เพียงแต่ไฟล์วิดีโอต้องมีขนาดต่ำกว่า 1GB และมีความยาวคลิปไม่เกิน 20 นาที)



Musics ในส่วนการรับฟังเพลง สามารถเล่นผ่านได้จากส่วนนี้ ซึ่งระหว่างการเล่นเพลงผู้ใช้ยังสามารถออกจากตัวโปรแกรมได้ขณะเพลงยังบรรเลงอยู่ โดยการควบคุมการเล่นเพลงสามารถใช้ปุ่ม Media Player Control บนรีโมทควบคุมได้



มาที่ส่วนของ Services ซึ่งถือเป็นไม้ตายสำคัญของระบบ InternetTV ซึ่งการใช้งานในส่วนของแอปฯ ใน Services จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกแอปพลิเคชัน



AccuWeather ในส่วนของแอปฯ แรกจะเป็นแอปฯ บอกสภาพภูมิอากาศ ซึ่งใช้บริการของ AccuWeather.com และสามารถรับชมภาพภูมิอากาศในรอบ 7 วันได้ด้วย รวมถึงสามารถรับชมแผนที่สภาพอากาศผ่านดาวเทียมได้



Deezer แอปฯ ตัวนี้จะใช้ในการฟังสถานีวิทยุออนไลน์ ผ่านบริการ Deezer.com



Facebook สำหรับแอปฯ Facebook ที่ให้มากับ WD TV Live Hub ค่อนข้างมีความสามารถที่ครบครันแบบเดียวกับแอปฯ Facebook บนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการชม Newsfeed ความสามารถในการเข้าชม Wall ของตังเองและเพื่อนๆ รวมถึงความสามารถในการอัปโหลดหรือรับชมรูปและวิดีโอ หรือสามารถคอมเมนต์และกด Like รูปได้



Flickr บริการ Flickr หลายท่านที่เป็นนักถ่ายภาพคงรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นบริการสำหรับฝากไฟล์ภาพที่ค่อนข้างได้รับความนิยม ก็ได้ถูกพัฒนาเป็นแอปฯ สำหรับ WD TV Live Hub ด้วย



Flingoแอปฯ Flingo เป็นเสมือนแอปฯ รวมช่องทีวีออนไลน์ มีตั้งแต่ช่อง FOX WB TMZ Showtime Vimeo เป็นต้น โดยการแสดงผลจะเป็นลักษณะแบบสตรีมมิ่งเหมือน YouTube และความละเอียดในการแสดงผล ช่องส่วนใหญ่ใน Flingo จะแสดงผลเป็น HD อยู่แล้ว



Live365 แอปฯ ตัวนี้จะใช้ในการรับฟังวิทยุออนไลน์แบบสดๆ ผ่านระบบสตรีมมิ่ง




Mediafly สำหรับ Mediafly เปรียบเสมือนช่องทางในการรับชมช่องและรายการต่างๆ ผ่านระบบสตรีมมิ่ง เพียงแต่สำหรับบริการที่ขึ้นกับทาง Mediafly ยังไม่มีช่องทีวีหรือรายการของประเทศไทยบรรจุลงไปเท่านั้น



Tune in สำหรับแอปฯ Tune in น่าจะเหมาะกับประเทศไทยมากที่สุด เพราะในตัวแอปฯ มีการรวบรวมสถานีวิทยุออนไลน์หลากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยไว้ในฟังกันแบบสตรีมมิ่งได้ด้วย เช่น ช่อง Cool 93, City Radio Pattaya, Fat Radio หรือ INN News ไว้



YouTube สำหรับแอปฯ YouTube ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ InternetTV เพราะ YouTube ถือเป็นเว็บฝากไฟล์วิดีโอและแหล่งรวมคลิปวิดีโอออนไลน์ติดอันดับโลก โดยตัวแอปฯ นอกจากสามารถค้นหาคลิปวิดีโอได้แล้ว ยังสามารถเข้าสู่ออปชันเพิ่อเข้าดูรายละเอียดของตัวคลิปหรือสามารถแชร์วิดีโอไปยังเฟสบุ๊กได้อีกด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป



สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพด้วยการโดยการเปิดรับชมไฟล์ MKV ที่เข้ารหัส MPEG4AVC ที่ความละเอียด FullHD 1080p และเข้ารหัสเสียง Dolby Digital Plus พบว่า WD TV Live Hub สามารถถอดรหัสไฟล์ได้และเล่นได้ค่อนข้างลื่นไหล ส่วน Subtitle ที่มาเป็นนามสกุล SRT เมื่อเปิดกับเครื่องเล่นดังกล่าวก็สามารถเล่นได้ รวมถึงการแสดงผลภาษาไทยก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหา

อีกทั้งการเชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์กผ่าน Ethernet พบว่าสามารถทำได้ไม่ยากนัก ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ WD TV Live Hub เข้ากับ Router เน็ตเวิร์กภายในบ้านจากนั้นก็ให้ Router กระจายสัญญาณ WD TV Live Hub ให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์อื่นๆ สามารถมองเห็นฮาร์ดไดร์ฟภายในได้ เพื่อไว้ใช้แลกเปลี่ยนไฟล์รวมถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ WD TV Live Hub กำลังเชื่อมต่อกับ Home Theater และทีวีจอยักษ์อยู่

ส่วนการฟังเพลงและรับชมรูปภาพ ก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึงการเล่นอินเทอร์เน็ตก็ทำได้ค่อนข้างดี เพียงแต่ว่าบริการส่วนใหญ่อาจตอบสนองคนไทยได้ไม่ดีนัก แต่ยังโชคดีที่ตัวเครื่องเมื่ออัปเฟริมแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดจะสามารถอ่านภาษาไทยได้ และการรับชม InternetTV ต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วพอสมควรถึงจะสตรีมมิ่งมีเดียเหล่านั้นได้ลื่นไหล

แต่ทั้งนี้ใช่ว่า WD TV Live Hub จะไม่มีข้อสังเกตใดๆ เลย เพราะแน่นอนด้วยการที่ตัวเครื่องเน้นหนักไปทาง Internet TV แต่กลับให้การเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กและอินเทอร์เน็ตต้องทำผ่านสายแลนเพียงอย่างเดียว ไม่รองรับ WiFi ทำให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานอินเตอร์เน็ทอาจจะไม่ครอบคลุมการใช้งาน ที่ MediaHub และอินเทอร์เน็ตตามบ้านในปัจจุบันมักเน้นหนักไปที่การเชื่อมต่อผ่าน WiFi ที่ถือว่าสะดวกกว่าสายแลนอย่างมาก

และอีกหนึ่งส่วนที่ทางทีมงานขอตั้งเป็นข้อสังเกตสำคัญก็คือความเร็วในการทำงานหรือคัดลอกไฟล์จากตัวฮาร์ดไดร์ฟภายนอกเข้าสู่ฮาร์ดไดร์ฟภายในจะค่อนข้างช้า รวมถึงการสั่งงานไฟล์ต่างๆ อาจต้องอาศัยความใจเย็นในการกดสั่งงานเล็กน้อย

สุดท้ายแล้วสำหรับ WD TV Live Hub ก็ถือเป็น MediaHub + InternetTV ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้งานที่ค่อนข้างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการฟังเพลง ชมภาพยนตร์ ดูคลิปวิดีโอจาก YouTube ที่รองรับไฟล์ได้ค่อนข้างหลากหลาย หรือใช้ดูรูปภาพ เล่น Facebook ฟังวิทยุออนไลน์ รวมถึงหน้าตาของ UI ใช้งานที่สวยงาม และการใช้งานที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและเรียนรู้ง่าย

แต่ทั้งนี้ด้วยคุณสมบัติที่ใส่มาค่อนข้างมากทำให้ราคาค่าตัวของ WD TV Live Hub พุ่งสูงถึงเกือบหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งถ้าเทียบกับความต้องการของผู้ใช้ MediaHub ส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังต้องการแค่รับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงและเชื่อมต่อกับ Home Theater ได้ มากกว่าจะใช้ InternetTV อาจทำให้ WD TV Live Hub ถูกเมินจากผู้ใช้ทั่วไปได้ง่าย

ขอชม
- รองรับรูปแบบไฟล์ได้หลากหลาย
- มี Services ให้ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตหลากหลาย เช่น YouTube, Facebook
- มีฮาร์ดไดร์ฟไว้เก็บข้อมูลภายใน
- ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
- สามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ด USB ได้
- อ่านภาษาไทยได้

ขอติ
- ราคาค่อนข้างแพง
- ไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยได้
- เครื่องทำงานค่อนข้างช้า

Company Related Links :
Western Digital




กำลังโหลดความคิดเห็น