ในเมื่อกระแสของตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน กำลังหันไปให้ความสนใจโทรศัพท์ที่มีปุ่ม QWERTY กันอย่างแบล็กเบอรี่ ทำให้เจ้าตลาดวินโดวส์ โมบาย ในประเทศไทยไม่รอช้าที่จะวางขาย HTC Snap หวังจะเกาะกระแสดังกล่าวเพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายให้กับโทรศัพท์แนวที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทย
ถ้าเป็นเมื่อปีก่อน อาจจะไม่มีใครเชื่อว่าโทรศัพท์ที่เป็น QWERTY แบบทรงแท่ง (Bar) จะได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นประเทศไทย เพราะจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีเครื่องรุ่นใดที่มีลักษณะดังกล่าวได้รับความนิยมแบบถล่มทลาย
แต่ในปีนี้ถ้านับเฉพาะในส่วนของวินโดวส์ โมบาย อาจจะได้เห็นเครื่องแนวนี้ออกมาทำตลาดในประเทศไทยกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยอีก 2 รุ่นคือ Samsung Omnia B7320 ที่รีวิวกำลังจะตามมาเร็วๆนี้ และ LG Times ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ส่วนที่เป็นซิมเบียนจากโนเกียเห็นจะมี E63 ที่น่าสนใจในราคาต่ำกว่าหมื่น ละรุ่นล่าสุดอย่าง E72 ที่กำลังจะนำเข้ามาทำตลาดในช่วงปลายปีนี้
Feature On HTC Snap
แน่นอนว่าฟีเจอร์หลักของเอชทีซี สแนป อยู่ที่ฟังก์ชันในการจัดการอีเมลอย่าง Inner Circle ซึ่งทีมงานจะอธิบายในส่วนดังกล่าวหลังจากแนะนำให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงหน้าจอหลักสำหรับการใช้งานต่างๆ ที่ถือเป็นหน้าจอมาตรฐานของวินโดวส์ โมบาย ที่ไม่ได้ใช้หน้าจอทัชสกรีนในการสั่งงาน
แม้ว่าหน้าจอหลักจะไม่ได้ถูกครอบมาด้วยอินเตอร์เฟสการใช้งาน TouchFLO เหมือนในรุ่นใหม่ๆที่ออกมา แต่จากหน้าตาที่มีมาให้ในเครื่องรุ่นนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างไปเท่าไหร่นัก ดังนั้นแม้ผู้ที่ไม่เคยใช้งานก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยากนัก
ในหน้าแรกสุดจะประกอบไปด้วย นาฬิกาบอกเวลาพร้อมวันที่ โดยส่วนล่างแบ่งเป็นบอกเวลานัดหมาย และการเตือนต่างๆคือ สายที่ไม่ได้รับ ข้อความเสียง ข้อความสั้น และอีเมลใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ส่วนด้านบนก็จะมีสัญลักษณ์บอกเหมือนกับด้านล่าง แต่จะเพิ่มการเตือนของ Inner Circle ที่เป็นสัญลักษณ์วงกลมขึ้นมาด้วย ในกรณีที่มีอีเมลที่ผู้ใช้ตั้งค่าไว้เข้ามา
เมื่อกดเลื่อนลงมาจากหน้าจอหลักเป็นในส่วนของการจัดการอีเมล ดังตัวอย่างในรูปถ้ามีอีเมลเข้ามาเพียงฉบับเดียว จะแสดงหัวข้อพร้อมอีเมลผู้ส่งขึ้นมาทันที ส่วนในกรณีที่มีหลายอีเมล จะขึ้นบอกว่ามีอีเมลเข้ามาใหม่จำนวนเท่าใดแทน ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงข้อความสั้น (Message)
หน้าจอต่อมาคือ อีเมล (Emails) โดยหน้าจอจะแสดงชื่อผู้ส่ง หัวข้อ และอีเมลที่ใช้ ทั้งหมดซึ่งผู้ใช้สามารถเลื่อนเพื่อดูหัวข้ออีเมลที่สนใจได้ ต่อมาคือหน้าจอแสดงสภาพอากาศ (Weather) ที่สามารถเลือกแสดงได้หลายประเทศ รวมไปถึงการดูล่วงหน้าได้ 5 วัน
ถัดมาคือหน้าจอ เบราวเซอร์ (Internet Explorer) ซึ่งจะแสดงตามจำนวนหน้าที่ผู้ใช้บันทึกเป็นหน้าโปรดไว้ เช่นในรูปบันทึกเว็บไซต์ เมเนเจอร์ ออนไลน์ ไว้นั่นเอง เมื่อต้องการเข้าเว็บก็สามารถกดที่หน้าจอนี้เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ได้ทันที ส่วนต่อมาคือเครื่องเล่นเพลง (Music Player) ซึ่งทางเอชทีซีก็ได้นำเครื่องเล่นเพลงตัวเดียวกับใน TouchFLO มาใส่ ทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่า Windows Media Player
ส่วนต่อมาจะเป็นตัวช่วยสำหรับการตั้งค่าต่างๆของเครื่อง (Getting Started) แบ่งเป็น 8 ค่าคือ ตั้งเวลา ตั้งค่าอีเมล ตั้งรหัสล็อกเครื่อง ตั้งค่าบลูทูธ เปลี่ยนรูปฉากหลัง ตั้งเสียงเรียกเข้า ตั้งค่าการย้ายเพลง และสุดท้ายเมื่อตั้งค่าเรียบร้อยสามารถ ย้ายตัวช่วยการตั้งค่าออกไปได้
สุดท้ายคือการตั้งค่า (Setting) ประกอบไปด้วย การตั้งโปรไฟล์โทรศัพท์ ตัวจัดการการเชื่อมต่อต่างๆ ตั้งเสียงเรียกเข้า เปลี่ยนรูปฉากหลัง และเทสก์เมเนเจอร์ ไว้ใช้สำหรับการปิดโปรแกรมต่างๆที่เปิดค้างไว้ ซึ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้วินโดวส์ โมบาย
เมื่อเรียนรู้หน้าจอหลักทั้งหมดของวินโดวส์ โมบาย เครื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว มาดูกันถึงโปรแกรมเด่นประจำเครื่องที่เรียกว่า Inner Circle กันบ้าดีกว่า ซึ่งการใช้งานโปรแกรมดังกล่าวผู้ใช้จะต้องทำการตั้งค่าอีเมลต่างๆให้เรียบร้อยก่อน
ตัวโปรแกรมจะมีหน้าที่ในการ "กรองอีเมลที่สำคัญ" จากรายชื่อผู้ส่งอีเมลที่ผู้ใช้ตั้งไว้ ให้เข้ามารวมกันอยู่ภายในหน้าต่างของโปรแกรม ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีที่ผู้ใช้มีอีเมลเข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน แต่มีอีเมลที่สำคัญๆ และไม่สามารถพลาดการติดต่อจากอีเมลนี้ได้ ก็สามารถตั้งอีเมลดังกล่าวให้เข้ามาอยู่ในรายชื่อผู้ส่งนั่นเอง
หน้าจอการใช้งานอีเมลจะแสดงผลเช่นเดียวกับในรูป ซึ่งในกรณีที่มีไฟล์แนบผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาเปิดในเครื่องได้เช่นเดียวกับการใช้วินโดวส์ทั่วๆไป ส่วนในการส่งอีเมลภาษาไทยสำหรับผู้ที่ใช้ Hotmail ทีมงานพบว่า เครื่องทุกรุ่นไม่สามารถส่งอีเมลภาษาไทยผ่าน Hotmail ได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการส่งอีเมลภาษาไทยจากโทรศัพท์มือถือ
หน้าจอโทรศัพท์ ไม่มีสีสันอะไรมากมายนัก โดยปุ่มตัวเลขสามารถกดได้จากคีย์บอร์ดอยู่แล้ว ส่วนรายชื่อผู้ติดต่อที่แสดง เนื่องจากเป็นหน้าจอแนวนอนจึงแสดงผลย้อนหลังได้เพียง 4 รายชื่อล่าสุดเท่านั้น ในหน้าจอโทรออกถ้ามีการตั้งรูปประจำตัวไว้ ก็จะมีแสดงผลในหน้าจอโทรศัพท์ พร้อมกับรายชื่อ และเบอร์โทรศัพท์
จุดเด่นอีกจุดของเครื่องรุ่นนี้คือ สามารถใช้คีย์บอร์ดพิมพ์ภาษาไทยได้ แม้ว่าที่ตัวคีย์บอร์ดจะไม่มีการสกรีนภาษาไทยมาให้ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้แสดงเวอร์ชัลคีย์บอร์ดบนหน้าจอในกรณีที่ใช้ภาษาไทยหรือไม่ โดยการเปลี่ยนภาษาจะถูกตั้งมาให้ใช้ปุ่ม Fn+ _ ที่อยู่มุมขวาบนสุด
Program And Setting
ในส่วนของโปรแกรมภายในเครื่องก็จะมีมาให้ตามมาตรฐานวินโดวส์ โมบายทั่วๆไป แต่จะมีการแบ่งประเภทของโปรแกรมต่างๆให้เข้าไปอยู่ในโฟลเดอร์ย่อย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแต่ละโปรแกรมตามหมวดหมู่ได้ง่ายขึ้น เช่น หมวดมัลติมีเดีย, ออฟฟิศ โมบาย, เกมส์ และโปรแกรมเสริมต่างๆ
โดยภายในมัลติมีเดีย ประกอบไปด้วย อัลบั้ม (Album) สำหรับใช้ดูรูปภาพในแนวของเอชทีซี เครื่องเล่นเพลง (Audio Manager) กล้อง (Camera) รูปภาพและวิดีโอ (Picture & Videos) โปรแกรมดูรูปภาพในรูปแบบของวินโดวส์ โมบาย สตรีมมีเดีย (Streaming Media) บันทึกวิดีโอ (Video Recorder) และสุดท้าย วินโดวส์ มีเดีย (Windows Media) เครื่องเล่นมัลติมีเดียตามแบบฉบับวินโดวส์นั่นเอง
ส่วนของโปรแกรมออฟฟิศ ก็มีมาให้ครบทั้ง Excel, One Note, Power Point และ Word สำหรับในหมวดของโปรแกรมเสริม จะมีที่น่าสนใจคือ QuickGPS สำหรับช่วยค้นหาพิกัดดาวเทียม ส่วนโปรแกรมอื่นๆผู้ใช้วินโดวส์ โมบาย คงจะคุ้นเคยกันดี
สำหรับการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊ก ทีมงานก็ได้ทดลองดาวร์โหลดแอปพลิเคชันจากลิงก์ ภายในเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ มาใช้งาน ถือว่าทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดทสถานะ อัปโหลดรูป วิดีโอต่างๆ รวมถึงอ่านความเคลื่อนไหวต่างๆของเพื่อนๆในเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
หน้าตาภายในโปรแกรมควบคุมการเชื่อมต่อต่างๆ จะคล้ายๆกับที่อยู่ในเครื่องรุ่นอื่นๆของเอชทีซี โดยจะแบ่งเป็นการเปิดไฟล์ทโหมด เปิดการใช้งานโทรศัพท์ บลูทูธ ไวไฟ การเปิดตั้งค่าใช้ Push Mail ของทางไมโครซอฟท์ และสุดท้ายคือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ GPRS/EDGE/3G นั่นเอง
การตั้งค่า (Setting) หน้าจอการตั้งค่าใน วินโดวส์ โมบาย เครื่องนี้อาจจะแปลกตาไปจากวินโดวส์ โมบาย โปรเฟสชันเนล ที่เป็นทัชสกรีน โดยคำนึงถึงผู้ใช้งานให้สามารถสั่งงานผ่านปุ่มควบคุมได้ มีทั้งหมด 33 หัวข้อให้เลือกเข้าไปตั้งค่าตามความเหมาะสม ซึ่งในจุดนี้คงต้องขอให้รูปอธิบายถึงหัวข้อต่างๆในการตั้งค่าทั้งหลาย และเลือกมาอธิบายเฉพาะจุดที่น่าสนใจ
ในส่วนของการตั้งค่า Phone เมื่อเข้ามาแล้วเลือก Advanced ผู้ใช้สามารถตั้งค่าในการส่งข้อความสั้นกลับอัตโนมัติ ในกรณีที่กดตัดสาย ซึ่งการตั้งค่านี้มีมาในเครื่องที่ใช้วินโดวส์ โมบายทุกรุ่น แต่ถ้าในเฉพาะของเอชทีซีจะมีเพิ่มในส่วนของการตั้งให้เครื่องสั้น เมื่อคู่สนทนารับสาย หลังจากกดโทรออก นอกจากนี้ยังมีตั้งให้บันทึกเบอร์โทรศัพท์ใหม่เมื่อจบสายสนทนา
การตั้งค่าแทร็กบอล (Trackball) ผู้ใช้สามารถปรับความเร็วในการตอบสนองของแทร็กบอลได้ โดยแบ่งเป็นขณะใช้งานปกติ และการใช้งานในเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งมีให้เลือก 3 ระดับคือ ช้า ปานกลาง และเร็ว รวมไปถึงการตั้งค่าในการใช้งานอื่นๆอย่างเช่น จำนวนบรรทัดที่จะเลื่อนต่อการ Scroll แทร็กบอลหนึ่งครั้ง
แบตเตอรี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นในการใช้งานของโทรศัพท์ประเภทนี้ เนื่องมาจากในการใช้งานจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตในการรับ-ส่งอีเมล ตลอดเวลา โดยในส่วนของการตั้งค่าพลังงาน (Power Management) ประกอบไปด้วยระดับความสว่างของหน้าจอ ตั้งให้ไฟหน้าจอดับในเวลาใด ซึ่งแบ่งเป็นเมื่อใช้งานจากแบตเตอรี่และขณะชาร์จ นอกจากนี้ยังมีบอกเวลาการใช้งานหลังจากฃาร์จแบตเตอรี่ครั้งล่าสุดให้ได้ดูกันด้วย
เครื่องที่นำมาทดสอบจะใช้รอมเวอร์ชัน 1.19.707.2 (50876) สำหรับสเปกภายในของเครื่องเริ่มกันที่ซีพียูเป็น Qualcomm MSM7225 528MHz Ram ขนาด 192MB ROM 256MB รองรับบลูทูธ 2.0 EDR และไวเลส 802.11 b/g
Design of HTC Snap
การดีไซน์ของโทรศัพท์แนว QWERTY ทรงแท่ง เรียกได้ว่ามีลักษณะความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อทางเอชทีซีพยายามทำให้ออกมาในแนวทางของตัวเองทำให้ตัวเครื่องดูมีลักษณะที่เหมาะกับนักธุรกิจสมัยใหม่มากขึ้นจากสีดำและความบางของตัวเครื่อง โดยขนาดของเครื่องอยู่ที่ 116.5 x 61.5 x 12 มิลลิเมตร น้ำหนัก 120 กรัม
เริ่มกันที่ด้านหน้าจากส่วนบนสุดจะเป็น ลำโพงสนทนาตามมาตรฐานของเอชทีซีที่มีลวดลายเป็นตะแกรงเหล็ก บริเวณซ้าย-ขวาของลำโพงสนทนาเป็นไฟบอกสถานะและเซ็นเซอร์ตรวจจับแสง สำหรับใช้ในการปรับความสว่างของหน้าจอ ถัดลงมาเป็นหน้าจอ TFT-LCD แบบ QVGA ขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล
ในส่วนของแถบปุ่มควบคุมมีด้วยกันทั้งหมด 7 ปุ่มด้วยกัน ไล่จากฝั่งซ้ายคือปุ่มรับสาย ซอฟต์คีย์ซ้าย ปุ่มกลับหน้าแรก แทร็กบอล ปุ่มย้อนกลับ ซอฟต์คีย์ขวา และปุ่มวางสาย ซึ่งบอกได้เลยว่าแทร็กบอลตรงกลางช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเครื่องได้เป็นอย่างดี
คีย์บอร์ด QWERTY ของเครื่องรุ่นนี้จะดีกว่าเครื่องรุ่นอื่นตรงที่ระหว่างแต่ละปุ่มจะมีช่องไฟเล็กน้อย และแยกแต่ละปุ่มออกจากกัน ไม่ได้เป็นแผงปุ่มกดทั้งแผงทำให้เมื่อใช้งาน จึงไม่ค่อยมีโอกาสที่เวลาพิมพ์แล้วติดพร้อมกัน 2 ปุ่มได้
ส่วนปุ่มลัดอำนวยความสะดวกประกอบไปด้วย การกดปุ่ม Tab ค้างสำหรับเข้าสู่โหมดสั่น ปุ่มเข้าเมนูกล้อง ปุ่มเข้ากล่องข้อความทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความสั้น อีเมล นอกจากนี้เมื่อกดปุ่ม FN+IM จะเป็นการเรียกใช้งานโปรแกรม MSN Messenger ขึ้นมาด้วย และสุดท้ายคือปุ่มวงกลมสีเขียวๆ สำหรับเข้าฟังก์ชัน Innert Circle นั่นเอง ส่วนบริเวญด้านล่างปุ่มคีย์บอร์ดจะมีช่องสนทนาอยู่ตรงกลาง
ด้านซ้าย มีเพียงปุ่มปรับระดับเสียงอยู่บริเวณมุมบนเป็นแนวยาว ด้านขวาเป็นพอร์ต ExtUSB ของทางเอชทีซี ที่ใช้สำหรับการชาร์จ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ หูฟัง-สมอลทอล์ก ด้านล่างเป็นช่องไว้ใช้ในการงัดฝาหลังออกมาเท่านั้น
ด้านหลังเครื่อง มีช่องลำโพงพาดเป็นแนวยาวอยู่ด้านบน ถัดลงมาเป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
เมื่อถอดฝาหลังออกมาบริเวณด้านล่างจะเป็นที่ใส่ซิมการ์ดซึ่งจำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อนเพื่อดันตัวล็อกการ์ดออก ส่วนไมโครเอสดีใส่ที่บริเวณล่างของเครื่อง สำหรับแบตเตอรี่ที่ให้มามีขนาด 1,500 mAh
บทสรุป
จากสเปกของ HTC Snap ที่ใส่มาให้คล้ายคลึงกับรุ่น Touch 3G ทำให้การใช้งาน วินโดวส์ โมบาย 6.1 ซึ่งไม่ใช่แบบหน้าจอทัชสกรีนในเครื่องนี้รวดเร็วและตอบสนองการใช้งานผ่านแทร็กบอลได้เป็นอย่างดี ในส่วนของคีย์บอร์ดแม้จะไม่มีการสกรีนภาษาไทยมาให้ แต่ทางเอชทีซียังใส่ฟังก์ชันแสดงเลย์เอาท์คีย์บอร์ดภาษาไทยบนหน้าจอให้ ดังนั้นการใช้งานหลักๆ สามารถใช้ผ่านคีย์บอร์ดได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ใช้อีเมล และแชตเป็นอย่างยิ่ง
การเชื่อมต่อของเครื่องรุ่นนี้ มีมาให้ครบตามความต้องการใช้งานด้านธุรกิจเป็นหลัก โดยมีมาให้ทั้ง บลูทูธ 2.0 EDR/A2DP, Wi-Fi 802.11b/g, HSDPA/WCDMA 900/2100 MHz, GPS สามารถใช้งานผ่าน Google Maps ได้ทันที, รองรับไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 16 กิกะไบต์, กล้องที่ให้มาความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ไม่มีออโต้โฟกัส และสุดท้ายการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หูฟัง สายชาร์จจากพอร์ต ExtUSB (มินิยูเอสบี)
เรื่องพลังงานแบตเตอรี่จากที่ให้มา 1500 mAh นั้นพบว่า สามารถใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และใช้โทรศัพท์วันละเล็กน้อย ทั้งนี้ทีมงานได้ทดสอบโดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน EDGE ในการซิงค์อีเมลตลอดเวลา พร้อมกับใช้ฟังเพลงประมาณ 2-3 ชั่วโมง เปิดโปรแกรมแชตใช้งานตลอดเวลา รวมทั้งหมดประมาณ 19 ชั่วโมง (ดังรูปแสดงสถานะแบตเตอรี่ด้านบน) สามารถสแตนบายมาได้กว่า 35 ชั่วโมง
ดังนั้นแม้จะใช้งานอีเมลหนักๆ แต่ไม่ได้เปิดใช้เครื่องตลอดเวลา สามารถใช้ได้ถึง 2 วันแน่ๆ ส่วนในเรื่องของเสียงสนทนา ดังชัดเจนตามมาตรฐาน ที่สำคัญคือเสียงเรียกเข้าของเครื่องรุ่นนี้ เรียกได้ว่าดังกว่าระดับมาตรฐานทั่วไปของทางเอชทีซีพอสมควร แม้อยู่ในที่ๆมีเสียงรบกวนยังสามารถได้ยินเสียงได้
ดังนั้นเครื่องรุ่นนี้คงยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของเครื่องที่เน้นไปที่กลุ่มนักธุรกิจเป็นหลัก จากฟังก์ชันเสริมต่างๆของเครื่อง แต่ทั้งนี้กลุ่มวัยรุ่นที่นิยมใช้งานแชต ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่เพราะตัวเครื่องยังสามารถใช้งานระบบเครือข่ายสังคมได้เป็นอย่างดี แม้ราคาเปิดตัวจะอยู่ที่ 14,900 บาท (ใกล้เคียงกับ BB Curve ในตลาดเกรย์มาเก็ตซึ่งไม่รองรับ 3G) สิ่งที่น่าสนใจคือเอชทีซีจะทำยังไงในการเสนอให้ผู้ใช้แบล็กเบอรี่หันมามองเอชทีซีบ้าง)
ขอชม
- ระบบการจัดการอีเมลอย่าง Inner Cirlcle ทำให้ไม่พลาดอีเมลที่สำคัญๆ
- ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ในการใช้งานต่อเนื่อง
- สามารถใช้คีย์บอร์ดพิมพ์ภาษาไทยได้ โดยมีเลย์เอาท์คีย์บอร์ดแสดงที่หน้าจอ
ขอติ
- กล้องความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซล ไม่มีระบบออโต้โฟกัส
- อินเตอร์เฟสการใช้งานแบบเดิมๆ ของวินโดวส์
Company Related Links :
HTC
