Samsung M7603 Beat DJ มีจุดเด่นด้านเสียงเพลงรวมถึงการใส่แอปพลิเคชันใหม่อย่าง "Beat DJ" เข้ามาเพิ่มความสนุก ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีระบบสัมผัสที่ทางซัมซุงเป็นผู้นำตลาดทัชโฟนในขณะนี้ กับลูกเล่นการรีมิกซ์เพลงของเหล่าดีเจมืออาชีพ พร้อมด้วยด้วยคุณภาพเสียงจาก B&O ทำให้"ซัมซุง Beat DJ"แตกต่างจากมิวสิกโฟนทั่วไป
ทางซัมซุงบอกว่า สำหรับรุ่นนี้เน้นกลยุทธ์เจาะกลุ่ม Young-Minded-Consumer (YMC) กลุ่มผู้มีรสนิยมและไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่ ผ่านการทำมิวสิคมาร์เกตติ้ง โดยกลยุทธ์นี้เป็นการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในทุกระดับ ทุกเพศ ทุกวัย และทุกกลุ่ม ซึ่งจะไม่มีการแตกเซกเมนต์เทชันเหมือนในอดีตอีกต่อไป พร้อมกันนี้ซัมซุงยังเชื่อว่า ถึงแม้ผู้บริโภคจะมีความต้องการสินค้าที่แตกต่างกัน แต่ก็มีอีกหนึ่งจุดที่เหมือนกัน คือ คนกลุ่มนี้ชอบชอบเทคโนโลยี - นวัตกรรม, ความสนุกสนาน และหลงใหลในเสียงเพลง ซึ่งในประเทศไทยผู้บริโภคกลุ่มนี้มีสูงมาก ทำให้ซัมซุงเลือกเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านมิวสิกมาร์เกตติ้ง
Design of Samsung M7603 Beat DJ
นานๆทีกว่าจะมีโทรศัพท์มือถือรูปทรงแปลกๆออกมาให้ได้ใช้งานกันในยุคหลังๆ ถ้ามองครั้งแรกหลายๆคนอาจจะคิดว่าเครื่องที่เห็นอยู่นี้เป็นเครื่องเล่นเพลง MP3 หรือไม่ก็เครื่องเกม ซึ่งต้องบอกว่าคิดผิดถนัดเลยครับเพราะมันคือ"โทรศัพท์มือถือ" โดย "Samsung M7603 Beat DJ" ถูกดีไซน์ให้มีความแตกต่างฉีกแนวเดิมๆด้วยการตัดขอบโค้งมนหัว-ท้าย โดยเป็นการต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้านี้ คือ "Samsung M6710 Beat DISC" โทรศัพท์ทรงสไลด์ที่มีความโค้งมนด้านล่างเพียงอย่างเดียว
ถ้ามองดูโดยรวมตัวเครื่องรุ่นนี้จะมีรูปทรงเป็นวงรี หรือ "รูปทรงไข่" สุดแท้แต่การจินตนาการของแต่ละบุคคล ใช้พลาสติกคุณภาพสูงเป็นวัสดุประกอบเครื่อง ทำให้ได้น้ำหนักที่ถือว่าเบาเหมาะแก่การพกพา ตัวเครื่องมีขนาด 112 x 51 x 13.9 ม.ม. น้ำหนัก 99.7 กรัม ใช้สีเงินตัดขอบด้วยสีน้ำเงินโดยรอบ
ด้านหน้า : ไล่จากส่วนบนสุดจะพบลำโพงโค้งรับกับตัวเครื่องวางอยู่ตรงกึ่งกลางของตัวเครื่อง ด้านบนลำโพงมีเซนเซอร์ตรวจจับความคลื่อนไหว 2 ตัว คือ เซ็นเซอร์วัดแสง กับเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ(ตัดหน้าจอเมื่อใช้ระหว่างการสนทนา) ส่วนด้านซ้ายเป็นลนส์กล้องหน้าใช้สำหรับ "Video Call" เพียงอย่างเดียว ถัดลงมาเป็นจอแสดงผลแบบทัชสกรีน OLED 16 ล้านสี ขนาด 2.8 นิ้ว (240 x 400 พิกเซล) ซึ่งทางด้านข้างจอแสดงผลมียี่ห้อ 'Samsung' กับ ชื่อลำโพงยี่ห้อดัง 'Audio by Bang & Olufsen ICEpower' วางพาดแนวนอนอยู่บนขอบเครื่องทั้ง 2 ฝั่ง
ใต้จอแสดงผล มีปุ่มรับสาย-โทรออก, ปุ่มย้อนกลับ และปุ่มวางสาย วางเรียงรับความโค้งของตัวเครื่องอยู่ล่างสุด ย้อนกลับขึ้นไปเหนือปุ่มทั้งสามเล็กน้อย จะสังเกตเห็นรูปครึ่งวงกลมซึ่งส่วนนี้ถูกออกแบบให้ใช้งานแบบสัมผัสในฟังก์ชันเล่นเพลงโดยเฉพาะ มีหลักการทำงานคล้ายกับ"ทัชแพด" บนโน้ตบุ๊กนั่นเอง
ด้านหลัง : พลิกมาดูด้านหลังยังคงแหวกแนวไม่เหมือนใคร ด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิตอล ไฟแฟลช และกระจกเล็กๆสำหรับถ่ายรูปตัวเอง ถูกดีไซน์ให้รวมเป็นก้อนสามเหลี่ยมเดียวกันได้อย่างลงตัว ดูแล้วแปลกตาไปอีกแบบ ถัดลงมาเป็นข้อความการันตีว่ากล้องที่ให้มานั้นมีความละเอียด '3.2 MP Auto Focus' กับชื่อยี่ห้อ 'SAMSUNG' วางพาดอยู่ ซึ่งพื้นผิวทางด้านนี้ถูกออกแบบให้สามารถป้องกันรอยคราบนิ้วมือ และลดการลื่นไหลเมื่อจับถือได้เป็นอย่างดี
เมื่อเปิดฝาหลังออก จะพบกับช่องวางแบตเตอรี่ชนิด Li-Ion 960 mAh หากถอดแบตฯออกจะพบกับช่องเสียบซิมการ์ดอยู่ทางด้านซ้าย
***หมายเหตุ เปิดฝาหลังโดยการงั้นขึ้น มีสัญลักษณ์บอกจุดที่เปิดทางด้านล่าง
ด้านขวา : มีเพียงช่องช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำแบบ MicroSD มีพลาสติกหุ้มปิดมิดชิด(สามารถใส่ได้สูงสุด 16 GB) กับปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพในเมนูกล้อง(กดค้างเข้าเมนูกล้อง)
ด้านซ้าย : ไล่จากฝั่งซ้ายเป็นช่องสำหรับร้อยสายคล้องมือ-คอ หรือสายห้อยโทรศัพท์แฟชัน, ปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียงในเมนูเพลง และขยายภาพเข้า-ออกในเมนูกล้อง, ปุ่มล็อกหน้าจอแสดงผล (ดันทางซ้ายล็อกหน้าจอ ตรงกลางปลดล็อกหน้าจอ ดันทางขวาเข้าเมนูเครื่องเล่นเพลง) และช่อง Micro USB มีพลาสติกหุ้มปิดมิดชิด ใช้สำหรับโอนถ่ายข้อมูล ชารจ์แบตฯ หรือจะใช้ร่วมกับชุดหูฟังพอร์ต Micro USB ซึ่งใช้ร่วมกันที่ช่องนี้เพียงช่องเดียว
ด้านบน และด้านล่าง : ด้านบน จะพบช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน (3.5 ม.ม.) มีฝาพลาสติกหุ้มมิดชิด และช่องระบายเสียงของลำโพง ส่วนทางด้านล่าง มีสัญลักษณ์บอกตำแหน่งเปิดฝาหลัง โดยมีรูไมโครโฟนสำหรับสนทนาหรือใช้ในการบันทึกเสียงวางซ่อนอยู่ตรงสัญลักษณ์อีกทีหนึ่ง และช่องระบายเสียงของลำโพงเช่นเดียวกันทางด้านบน
Function on Samsung M7603 Beat DJ
เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาปุ๊บ สิ่งแรกที่ได้พบหน้าจอที่คุ้นตากันเป็นอย่างดีสำหรับโทรศัพท์ทัชสกรีนของซัมซุง ซึ่งยังคงใช้อินเตอร์เฟสแบบ 'Touch Wiz' ที่สามารถเลือกจัดเรียง Icon ได้ตามใจ โดยจะมีแถบ 'Side bar' ให้ลาก Icon เข้า-ออกอยู่ทางด้านซ้ายของจอ ส่วนเมนูที่ใสมาในเครื่องรุ่นนี้มีทั้งหมด 12 เมนู ประกอบไปด้วย บันทึกข้อมูลการใช้งาน(Call Log), Google, เพลง(Music), อินเทอร์เน็ต(Internet), ข้อความ(Messages), ไฟล์ส่วนตัว(My Files), ออแกไนเซอร์(Organizer), กล้องถ่ายรูป(Camera), โฟโต้เบราว์เซอร์(Photo Browser), แอปพลิเคชัน(Applications) การเตือน(Alarms) และการตั้งค่า(Settings)
Music
เมนู "เพลง(Music)" ถือว่าเป็นแหล่งรวมฟังก์ชันเด่นทางด้านเสียงเพลงของเครื่องรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อเปิดเข้าสู่เมนูจะพบรายการฟังก์ชันให้เลือกใช้งานอยู่ทั้งหมด 4 รายการด้วยกัน ได้แก่ เครื่องเล่นเพลง, Beat DJ, ค้นหาเพลง และค้นหาแทร็ก โดยจะรีวิวให้ดูเพียง 2 รายการหลักที่ถือเป็นพระเอก และพระรองของเครื่องรุ่นนี้ ว่าแล้วเราไปดูทีละรายการกันเลย
Beat DJ
พระเอกหลักของเครื่องรุ่นนี้ต้องยกให้กับ "Beat DJ" เป็นแอปพลิเคชันที่ไว้สำหรับรีมิกซ์เพลงตามแบบฉบับของใครของมัน ใครที่ฝันอยากจะเป็นดีเจรีมิกซ์เพลงแดนซ์ตามสถานบันเทิงต่างๆก็ลองมาฝึกได้กับแอปพลิเคชันตัวนี้ที่มีอยู่ใน "Samsung M7603 Beat DJ" ได้เลย ซึ่งเมื่อกดเข้าสู่ "Beat DJ" ก็ให้เลือกเพลงที่ต้องการจะมารีมิกซ์ใหม่ โดยกดที่รูปซีดีทางซ้าย จากนั้นก็เลือกเพลงด้วยการหมุนตามรูปวงกลมทางด้านขวา ซึ่งทำหน้าที่เป็น "Scroll Wheel" แล้วก็รอเครื่องคัดลอกเพลงสักพัก
เมื่อได้เพลงที่ต้องการแล้วก็คราวนี้ก็มาถึงการใส่ลูกเล่น ซึ่งมีฟังก์ชันให้เล่น 3 ส่วนด้วยกัน (อย่าลืมกด 'REC' มุมบนซ้ายเพื่ออัดเสียก่อนนะครับ) เริ่มที่ส่วนแรกการใส่ตัวอย่างเสียง "Samples" เปรียบได้เหมือนกับใส่จิงเกิลเสียงของดีเจ มีให้เลือกใช้งานทั้งหมดกว่า 20 รูปแบบ วิธีการเลือกหาเสียงใช้วิธีการเดียวกับการค้นหาเพลงดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น เมื่อต้องการจะเล่นเสียงก็ให้กดเลือก 1 ครั้ง จากนั้นก็กดเล่นเสียงทับเพลงที่กำลังเล่นอยู่ได้เลย
ถัดมาเป็นส่วนของ "Filters" เป็นการเลือกลูกเล่นการรีมิกซ์เพลงที่เป็นฟีเจอร์ของเหล่าดีเจ ซึ่งให้มาใช้ค่อนข้างหลากหลายมีด้วยกันทั้งหมด 10 รูปแบบ ได้แก่ Flanger, Reverb, Highpass, Lowpass, Bandpass, Tempo Change, Pitch Shift, Auto-pan, Echo และLooper ซึ่งวิธีการใช้งานก็กดเลือกรูปแบบที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น อยากจะให้เล่นวนซ้ำ 3 รอบ ในช่วงทำนองท่อนนึง ก็ให้เลือกที่รูปแบบ "Looper" แล้วปรับไปที่เลข 3 เท่านี้เพลงก็รีมิกซ์เล่นวนช่วงทำนองนั้น 3 รอบ สามารถเลือกปรับรูปแบบอื่นเพิ่มเติมได้โดยที่รูปแบบก่อนหน้านี้ยังคงอยู่
ส่วนสุดท้ายหลายคนคงคันมือกันแล้วใช่ไหมครับ และการเป็นดีเจที่สมบูณณ์แบบจะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้นั่นคือการ "Scratch" แผ่นเสียงนั่นเอง ซึ่งเจ้า "Samsung M7603 Beat DJ" ก็มีฟังก์ชันนี้รองรับ เพียงแค่ใช้นิ้วถูๆไถๆแผ่นซีดีที่ปรากฏขึ้นบนจอโทรศัพท์ ก็สามารถสนุกได้เหมือนกับการสแคชแผ่นเสียงของจริงเลยทีเดียว แต่มีข้อแม้ว่าอย่าถูแรงเกินไปนะครับ เดี๋ยวนิ้วจะถลอก :P ไม่ใช่สิเดี๋ยวหน้าจอจะบอบช้ำแล้วอายุการใช้งานจะลดน้อยลงตามไปด้วย สัมผัสเบาก็สแคชฉลุยแล้วครับพี่น้อง :) เมื่อรีมิกซ์เพลงจนหนำใจแล้วก็กด "REC" มุมบนซ้ายอีกรอบ จากนั้นเครื่องก็จะทำการบันทึกเป็นไฟล์เสียง นำไปใช้งานได้ตามใจชอบ
Music Player
ถัดมา "เครื่องเล่นเพลง"พระรองของเครื่องรุ่นนี้ ซึ่งจะว่าไปแล้วพระรองก็เหมือนกับคู่หูคนสนิทก็ว่าได้ เนื่องด้วยฟังก์ชันภายในเมนูนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับ "DJ" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีวิธีเข้าสู่เครื่องเล่นเพลงได้ทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน แบ่งเป็นทางเมนู 2 วิธี คือ เลือกเมนู > เพลง(Music) > เครื่องเล่นเพลง หรือ เลือกผ่านไอคอนที่อยู่ใน 'Side bar' ทางหน้าจอหลัก และทางคีย์ลัดอีก 1 วิธี คือ เลื่อนปุ่มสีเงินด้านข้างฝั่งซ้ายเข้าหาตัว เมื่อเข้าสู่เครื่องเล่นเพลงจะมีฟังก์ชันเรียงรายให้เลือกใช้งานดังนี้ แทร็กทั้งหมด, รายการเพลง, อัลบั้ม, รายการแสดง Beat DJ, นักร้อง, ประเภท และPodcasts
เมื่อเลือกรูปแบบการใช้งานได้แล้วก็กดเลือกเพลงที่ต้องการเล่น เครื่องจะเข้าสู่เครื่องเล่นเพลงและเล่นเพลงอัตโนมัติ การปรับค่าต่างๆสามารถทำได้สะดวกผ่านหน้าเครื่องเล่นเพลงได้เลย ซึ่งหน้าตาของเครื่องเล่นเพลงไล่จากทางด้านประกอบไปด้วย ฟังก์ชันเชื่อมไปยังแอปพลิเคชัน "Beat DJ", รายชื่อเพลงทั้งหมด, การตั้งค่า ถัดลงมาเป็นที่แสดงรูปอัลบั้มเพลง ใต้ล่างมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานได้แก่ รูปแบบเสียงจำลอง 5.1 แชนแนล (ใช้ได้เมื่อต่อผ่านทางหูฟังเท่านั้น), สลับเล่นเพลงแบบสุ่ม และการทำงานแบบเล่นวนซ้ำ (ทั้งหมด, รอบเดียว, เฉพาะเพลง) ส่วนด้านล่างเป็นฟังก์ชันควบคุมเครื่องเล่นเพลง ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ ปุ่นเล่นเพลง และปุ่มเดินหน้า ส่วนการเพิ่ม-ลดเสียงสามารถทำได้โดยการกดที่รูปลำโพง แล้วหมุนตามวงกลมที่ปรากฏซึ่งทำหน้าที่เป็น "Scroll Wheel"
"การตั้งค่า" ของเครื่องเล่นเพลงมีให้ปรับอยู่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ การเล่นพื้นหลัง(เปิด-ปิด), 5.1 แชนแนล(เปิด-ปิด), อีควอไลเซอร์มีให้ปรับกว่า 7 รูปแบบ ได้แก่ ปกติ คลาสิก, ร็อก, แจ๊ส, ป๊อป, แดนซ์ และกำหนดค่าเอง, เสียงเอฟเฟกต์ ได้แก่ ปกติ, ไวด์, ไดนามิก, Externalisation, Music Clarity และBass Enhancemen, เมนูเพลง เป็นการตั้งค่าว่าจะให้แสดงอะไรบ้าง ซึ่งมีตัวเลือกดังต่อไปนี้ รายการเพลง, อัลบั้ม, รายการแสดง, Beat DJ, นักร้อง, ประเภท, ผู้แต่ง, ที่เล่นไม่นานมานี้, ที่เล่นบ่อย, ที่เพิ่มมาไม่นานนี้, และPodcasts
หลังการใช้งานเมนูเพลงพบว่า ฟังก์ชันต่างๆที่ใส่มาให้ใช้กับเครื่องรุ่นนี้ถือว่าตอบสนองความต้องการได้ครบ โดยเฉพาะลูกเล่นใน "BeatDJ" ที่เป็นแอปพลิเคชันใหม่ที่ใส่เข้ามาในเครื่องรุ่นนี้ถือว่าทำได้น่าประทับใจ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายทำให้การใช้งานไม่ต่างจากของจริง(มืออาชีพ)เสียเท่าไร เรื่องของเสียงนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เนื่องด้วยชื่อลำโพงยี่ห้อดังที่แปะไว้ข้างเครื่องอย่าง 'Bang & Olufsen ICEpower' หรือที่รู้จักกันในนาม "B&O" ซึ่งการันตีถึงคุณภาพเสียงได้เป็นอย่างดี และหลังจากฟังเสียงขอบอกว่าไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เสียงที่ขับออกมาดังกังวาล(มาก) เร่งจนสุดก็ไม่พบว่าเสียงจะแตกพร่าให้ได้ยิน กลับมีมิติเพิ่มมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ ส่วนโทนเสียงออกทางแหลมใสปนนุ่มนิดๆ
FM radio
"วิทยุ FM" ของเครื่องรุ่นนี้ ถูกแยกออกมายู่ในเมนูแอปพลิเคชัน (Applications) ซึ่งจะใช้งานได้เมื่อต่อเข้ากับหูฟังสมอล์ทอล์กเท่านั้น หรือหูฟังขนาดมาตรฐานทั่วไป(3.5 ม.ม.) เมื่อกดเข้าสู่เมนูนี้จะพบกับฟังก์ชันการใช้งานต่างๆอยู่บนพื้นที่เดียวกัน โดยตรงกลางมีตัวเลขบอกคลื่นความถี่ทศนิยม 2 ตำแหน่ง สามารถกดให้ทำงานด้วยการกดปุ่มเล่น(กลาง)ซึ่งอยู่ทางด้านล่าง ส่วนการเปลี่ยนคลื่นให้กดปุ่มลูกศรที่อยู่ขนาบด้านซ้าย และขวา หรือจะกดให้ค้นหาคลื่นความถี่แบบอัตโนมัติ ด้วยการเลือกที่เพิ่มเติม > เลือกค้นหา สามารถเลือกฟังผ่านลำโพงสนทนาได้เลย โดยกดปุ่มที่รูปหูฟังให้เปลี่ยนเป็นรูปลำโพงทางด้านบน
"การตั้งค่า" ของวิทยุสามารถปรับค่ามีอยู่ 3 ส่วนหลัก ดังนี้ การเล่นพื้นหลัง เป็นการเซ็ตค่าให้วิทยุทำงานอยู่แม้จะกลับออกไปยังหน้าหลัก, แสดงชื่อสถานี ว่าจะให้แสดงชื่อหรือไม่ และเปลี่ยนความถี่ใหม่อัตโนมัติ
Camera
"กล้อง" ของ "Samsung M7603 Beat DJ" มีความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล มีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดถ่ายภาพนิ่ง โหมดซีน(Scn) และโหมดวิดีโอ ส่วนกล้องด้านหน้าที่ให้มาไม่สามารถใช้ถ่ายรูปได้ เอาไว้ใช้สำหรับ Video Call ของระบบ 3G เท่านั้น
เมื่อลองเปิดดูฟังก์ชันของเมนูกล้องพบว่าลูกเล่นต่างๆยังคงเอกลักษณ์เดิมของทางซัมซุง และยังไม่มีลูกเล่นใหม่ๆเข้ามาใส่ในเครื่องรุ่นนี้ ซึ่งไปไล่ดูที่ละโหมดกันเลยดีกว่า เริ่มจากโหมดการถ่ายภาพนิ่ง สามารถเลือกค่าการใช้งานได้หลายแบบ ได้แก่ ถ่ายแบบช็อตเดียว, ถ่ายต่อเนื่องแบบกดชัตเตอร์ค้างไว้ (สูงสุด 9 ภาพ), พาโนรามา มีให้เลือกใช้ทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่ 3, 4, 5 และ6 ช็อต โดยหลังจากกดถ่ายภาพเริ่มต้นกล้องจะถ่ายให้อัตโนมัติ เพียงแค่เลื่อนตัวกล้องไปด้านข้างตามลูกศรที่ปรากฏบนจอภาพ เพื่อถ่ายภาพต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนครบตามช็อตที่ได้กำหนด จากนั้นเครื่องจะประมวลผลเชื่อมต่อภาพให้เอง, โหมดสไมล์ช็อตสามารถจับความเคลื่อนไหวบนใบหน้าที่มีรอยยิ้มอัตโนมัติ, โมเสกมีให้เลือกอยู่ 18 แบบ, เฟรม อีก 20 รูปแบบ, แฟลช(เปิด,ปิด,ออโต้) และปรับความสว่าง
"การตั้งค่า" สามารถปรับค่าได้ดังนี้ โหมดโฟกัส 3 แบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, มาโคร และแพนโฟกัส การตั้งเวลา มีให้เลือก 2, 5 และ10 วินาที ความละเอียด มีให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ 3.2 ล้านพิกเซล(2048x1536), 2 ล้านพิกเซล(1600x1200), 1.3 ล้านพิกเซล(1280x960) และ0.3 ล้านพิกเซล(640x480) สมดุลสีขาว มีให้เลือกปรับ 5 แบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, แสงจ้า, อินแคนเดสเซนต์, ฟลูออเรสเซนต์ และสว่างน้อย เอฟเฟกต์มีให้เลือกปรับ 5 แบบเช่นเดียวกัน ได้แก่ ไม่มี, ภาพขาวดำ, ซีเปีย, เนกาทีฟ และภาพสีน้ำ, การวัดแสงมีให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ เมทริกซ์, เน้นตรงกลาง และตำแหน่ง, คุณภาพของรูปภาพมีให้เลือกใช้งาน 4 แบบ ได้แก่ ดีที่สุด, ดี, ปกติ และพื้นฐาน
ส่วนการปรับค่าการใช้งานทั่วไปนั้นมีให้เลือกปรับค่า ดังต่อไปนี้ ไกด์ไลน์, การแสดงผล, หมุนอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดสามารถสั่งได้ว่าจะให้เปิดหรือปิดการใช้งาน เสียงชัตเตอร์มีให้เลือกใช้งานดังนี้ เสียง 1, 2, 3 และปิดเสียง และแหล่งเก็บว่าจะให้บันทึกลงเครื่อง หรือจะบันทึกลงการ์ดหน่วยความจำ
ไปดูต่อที่""โหมดซีน"กันบ้าง โหมดนี้มีให้เลือกใช้ทั้งหมด 8 รูปแบบ ได้แก่ ออโต้, ถ่ายบุคคล, ทิวทัศน์, กีฬา, พระอาทิตย์ตก, พระอาทิตย์ขึ้น, ตัวอักษร และแสงพื้นหลัง ซึ่งฟังก์ชันที่ใส่มาในโหมดนี้อาจจะดูน้อยไปหน่อยแต่ก็สมส่วนกับความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลที่ให้ติดตัวมาใช้งาน ประกอบกับจุดมุ่งหมายหลักของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ด้านเสียงเพลง มากกว่าการถ่ายภาพ
"การตั้งค่า" ของโหมดนี้คล้ายๆกับในโหมดกล้องถ่ายภาพนิ่ง เพียงแต่มีบางฟังก์ชันที่ไม่สามารถปรับค่าได้ ซึ่งมีดังต่อไปนี้ โหมดโฟกัส, สมดุลสีขาว, เอฟเฟกต์ เครื่องวัดแสง,แฟลช และปรับความสว่าง
ถัดมา"โหมดกล้องวิดีโอ" มีให้เลือกบันทึกทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ ปกติ, MMS (เป็นการจำกัดสำหรับ MMS โดยเฉพาะ) สามารถซูมภาพขณะบันทึกในโหมดนี้ได้ เปิดไฟเพื่อช่วยถ่ายในที่แสงสว่างน้อย และสามารถปรับค่าความสว่างได้อีกด้วย
"การตั้งค่า" ในโหมดวิดีโอสามารถตั้งค่าได้ดังนี้ สามารถตั้งเวลาถ่ายได้ 2, 5 และ10 วินาที การปรับค่าความละเอียด มีให้เลือกปรับ 3 แบบ ได้แก่ 0.3 ล้านพิกเซล(640x480), 320x240 และ176x144 ส่วนแสงสมดุลสีขาว, เอฟเฟกต์, ไกด์ไลน์, การแสดงผล, หมุนอัตโนมัติ และแหล่งเก็บมีให้เลือกปรับแต่งเหมือนกับโหมดถ่ายภาพนิ่ง ที่มีแตกต่างคือการบันทึกเสียงสามารถตั้งค่าได้ว่า จะให้มีการบันทึกเสียงลงไปในวิดีโอด้วยหรือไม่ ส่วนคุณภาพวิดีโอ มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ ดี, ปกติ และพื้นฐาน
ภายหลังจากการใช้งานพบว่า เมื่อเปิดใช้งานกล้องสามารถตอบสนองได้ไว แต่พอใช้งานถ่ายภาพกลับโฟกัสภาพค่อนข้างช้า ทำให้พลาดช็อตสำคัญได้ง่ายๆ คุณภาพที่ได้จากการถ่ายภาพนิ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สีสันไม่ฉูดดฉาดค่อนข้างตรงกับที่สายตาเห็น ส่วนภาพที่ได้จากการบันทึกจากโหมดวิดีโออคุณภาพยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบตามมาตรฐานบนโทรศัพท์มือถือทั่วไป เรื่องความร้อนเยังมีอุณหภูมิสูงจนรู้สึกได้อยู่ รวมถึงอาการค้างยังคงไม่ให้เห็นเป็นครั้งคราว
Photo Browser
"Photo Browser" เป็นแหล่งรวมรูปภาพต่างๆที่อยู่ทุกซอกทุกมุมภายในเครื่อง ซึ่งเมื่อเข้ามาในเมนูนี้จะพบกับภาพต่างๆเรียงรายอยู่ทางด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นแถบเลือกตามลำดับตัวอักษรของชื่อไฟล์, เดือน และสี วางอยู่ตรงกึ่งกลาง ซึ่งสามารถปรับค่าได้โดยกดที่ปุ่มทางด้านซ้ายสุด การเลื่อนดูภาพสามารถทำได้ 3 วิธี ได้แก่ 1. ใช้นิ้วลากผ่านจอไปทางซ้าย และขวา 2. เอียงเครื่องไปทางซ้ายเมื่อต้องการให้ภาพเลื่อนไปทางด้านซ้าย และเอียงเครื่องไปทางขวาเมื่อต้องการให้ภาพเลื่อนไปทางด้านขวา 3. คือการดูภาพแบบสไลด์โชว์ ทำได้โดยการกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์คล้ายกับกระดาษ ซึ่งอยู่ทางด้านมุมขวาล่าง จากนั้นเลือก 'เลื่อนชม' แล้วกดปุ่มเล่น แค่นี้เครื่องก็จะทำการสไลด์โชว์ภาพวนไปเรื่อยๆ
บทสรุป
สำหรับโทรศัพท์มือถือ "Samsung M7603 Beat DJ" รุ่นนี้ แค่เห็นการดีไซน์ก็ชวนสะดุดตาให้หันมาเหลียวมองแล้ว จึงทำให้เหมาะกับคนที่ต้องการจะฉีกแนวไปจากเดิม หรือมีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง ซึ่งนอกจากรูปทรงที่แปลกตาแล้ว ฟังก์ชันภายในยังมีลูกเล่นใหม่ใส่เข้ามาเพิ่มความสนุอีกกด้วยดังที่สรุปไปแล้วในข้างต้น ส่วนการเชื่อมต่อนั้นมีมาให้ใช้ค่อนข้างครบ ขาดเพียงการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เท่านั้น การตอบสนองเมื่อใช้นิ้วมือสัมผัสทำได้ดี มีหนืดบ้างบางช่วงขณะ ส่วนเสียงสนทนาดังชัดเจนดี
ขอชม
- การดีไซน์ถือว่าแปลกตากว่าโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ตามท้องตลาด
- เสียงที่ขับออกทางลำโพงถือว่าทำได้อย่างมีพลัง และมีคุณภาพ
- การประกอบเครื่องดูแน่นหนา และมีน้ำหนักค่อนข้างเบา
ขอติ
- การจับโฟกัสในโหมดกล้องถือว่าทำงานค่อนข้างช้าพอสมควร
- กล้องด้านหน้าใช้วิดีโอคอลได้เพียงอย่างเดียว
- เมื่อใช้งานโหมดกล้องพบว่ามีอุณหภูมิสูงจนรู้สึกได้
ระบบเครือข่าย : GSM 900/1800/1900 MHz, UMTS 900/2100 MHz
รองรับ : GPRS/EDGE class 10, HSDPA 7.2 Mbps
หน้าจอ : OLED touchscreen 16 ล้านสี ขนาด 2.8 นิ้ว (240 x 400 พิกเซล)
ขนาดตัวเครื่อง : 112 x 51 x 13.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 99.7 กรัม
หน่วยความจำภายใน : 50MB
หน่วยความจำภายนอก : รองรับ MicroSD สูงสุด 16GB
เสียงเรียกเข้า : Polyphonic, MP3, WAV
กล้องด้านหลัง : 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และไฟแฟลช
กล้องด้านหน้า : วิดีโอคอล
เครื่องเล่น MP3 Player : มี
วิทยุ FM Radio : มี
เชื่อมต่อ : บลูทูธ 2.1, microUSB
ระบบค้นหาตำแหน่ง : A-GPS
แบตเตอรี่ : Li-ion 960 mAh
สำหรับราคาจำหน่ายของ Samsung M7603 Beat DJ ราคาเปิดตัว 12,500 บาท (มาพร้อม MicroSDการ์ดขนาด 8 GB)
Company Related Links :
Samsung