ถ้าคิดถึงแบรนด์ที่หันมาทำตลาดเน็ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว เจ้าแรกคงหนีไม่พ้นเดลล์ ที่เปิดตัว Inspiron Mini 12 ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นทีมงานจึงเสาะหาเครื่องมาทดสอบให้ผู้อ่านได้รับชมกันถึงประสิทธิภาพ และความสะดวกจากเน็ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 12 นิ้วตัวนี้กัน
ด้วยระดับยี่ห้อของแบรนด์อย่างเดลล์ ทำให้เครื่องรุ่นนี้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในต่างประเทศ ที่คิดว่าขนาดหน้าจอของเน็ตบุ๊กทั่วไปที่ 8-10 นิ้วไม่เหมาะต่อการใช้งานของตนเอง เมื่อเดลล์เปิดตัวเน็ตบุ๊กขนาด 12 นิ้วออกมาจึงทำให้ผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวให้ความสนใจกันมาก
แต่เมื่อเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอาจจะเจอปัญหาจากราคา ที่ตั้งราคาเปิดตัวมาถึง 22,290 บาท พฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ของคนไทยจะมองที่ความคุ้มค่าของจำนวนเงินที่เสียไปเป็นหลัก การวางจำหน่ายที่ราคาเท่านี้จะทำให้ไปชนตลาดเดียวกับโน้ตบุ๊กขนาด 14 นิ้ว ทั่วไปในตลาดประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคเกิดความลังเลในการตัดสินใจเลือกซื้อ จากทั้งข้อจำกัดทางด้านประสิทธิภาพของเน็ตบุ๊กและจำนวนเงินที่ต้องจ่ายออกไป ดังนั้นจุดแข็งเดียวของสินค้ารุ่นนี้จึงอยู่ที่ขนาดหน้าจอ 12 นิ้วและน้ำหนักที่อยู่ประมาณ 1.2 กิโลกรัม
Design Of Dell Inspiron Mini 12
เริ่มกันที่รูปร่างของ 'Mini 12' จะเห็นถึงลักษณะการออกแบบตามเอกลักษณ์ของเดลล์คือ เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหรา เหมาะกับลักษณะการใช้งาน ซึ่งตัวเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทยขณะนี้จะมีเพียงสีขาวสีเดียว ฝาหน้าของเครื่องจะมีเพียงสัญลักษณ์ของเดลล์ติดอยู่ตรงกลางเท่านั้น โดยวัสดุของเครื่องจะเป็นพลาสติกที่มีลักษณะมันเงาผสมกับแมกนีเซียมอัลลอยด์ ทำให้เมื่อใช้งานไปนานๆแม้ตัวเครื่องจะเป็นสีขาวแต่ถ้าสังเกตดีๆก็จะเห็นรอยนิ้วมือติดอยู่ ขนาดตัวเครื่องจะอยู่ที่ 299 x 229 x 23.3-27.6 มิลลิเมตร
เมื่อเปิดขึ้นมาจะพบกับหน้าจอ LCD แบบ WVGA ขนาด 12 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดสูงสุด 1280 x 800 พิกเซล ด้านบนของหน้าจอจะเป็นที่อยู่ของกล้องเว็บแคมความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแสดงสถานะขณะใช้งาน นอกจากนี้หากสังเกตจะพบว่า สีของตัวเครื่องด้านในทั้งหมดจะเป็นสีเทาเงินตัดกับสีดำ บริเวณตรงกลางด้านล่างของหน้าจอจะมีสัญลักษณ์ของเดลล์ติดอยู่
ส่วนบริเวณข้อต่อจะยึดบริเวณด้านซ้ายและขวา มีความแข็งแรงดีจากการทดสอบคว่ำหน้าจอ ตรงกลางจะเป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังมีไฟแสดงสถานะเครื่องอยู่บริเวณมุมขวา โดยจะมีไฟเพียงจุดเดียวเท่านั้น ถ้าไฟขึ้นสีขาวจะแปลว่าเปิดเครื่องใช้งานอยู่ หรือถ้าเสียบสายชาร์จและมีไฟขึ้นแปลว่าชาร์จไฟอยู่
ถ้าแบตฯใกล้จะหมดจะเป็นไฟสีแดง ส่วนไฟบอกสถานะการทำงานของฮาร์ดดิสก์ และ ซีพียูไม่ปรากฏให้เห็น ถัดลงมาเล็กน้อยทางด้านซ้ายจะมีปุ่มเปิดเครื่องสีเงินอยู่ ส่วนตรงกลางไล่เป็นแนวยาวจากซ้ายจรดขวาเป็นที่อยู่ของช่องลำโพง ริมขวาจะมีสัญลักษณ์ 'Mini'
ในส่วนของคีย์บอร์ดแม้ว่าขนาดจะไปเท่ากับคีย์บอร์ดทั่วไป เล็กว่าเพียงเล็กน้อยสามารถใช้งานได้อย่างสบายๆ ถ้านำไปเทียบกับเน็ตบุ๊กขนาดหน้าจอเล็กๆ จะมีข้อสังเกตอยู่บริเวณปุ่ม ม, ใ, ฝ และ บริเวณปุ่มลูกศรจะมีขนาดเล็กกว่าปุ่มอื่นๆ การใช้งานถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่ถึงกับลำบากมากนัก
บริเวณทัชแพดจะเป็นสีเดียวกับกรอบตัวเครื่อง โดยจะมีลักษณะเป็นร่องลงไป การรับสัมผัสทำได้เร็วตามมาตรฐานทั่วไป ปุ่มคลิกเมาส์ ซ้ายและขวาจะเป็นปุ่มพลาสติก การใช้งานจำเป็นต้องใช้แรงช่วยนิดหน่อย
ทางด้านหลังของเครื่องจะมีลักษณะเป็นแผ่นเดียวกันไม่มีช่องสำหรับใส่หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใดๆ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถนำไปอัปเกรดอุปกรณ์ภายในได้ด้วยตนเอง ส่วนช่องระบายความร้อนจะอยู่ตรงกลางพอดี ดังนั้นถ้าใช้งานบนตักอาจจะนำความร้อนออกมาสู่หน้าขาได้
Input and Output Ports
ด้านซ้าย จะประกอบไปด้วย ช่องล็อกเครื่อง ที่เสียบสายชาร์จ พอร์ด VGA-Out และ พอร์ตยูเอสบี 2 พอร์ต
ทางด้านขวา จะมีช่องเสียบการ์ดรีดเดอร์แบบ 3-1 รูเสียบหูฟังและไมโครโฟน พอร์ตยูเอสบีอีกหนึ่งพอร์ต และช่องเสียบสายแลน
ส่วนด้านหน้าและหลังของเครื่องจะไม่มีพอร์ตการเชื่อมต่อใดๆ ซึ่งถ้ามองจากด้านหน้าจะเห็นได้ถึงความบางของตัวเครื่องแสดงให้เห็นว่าเล็กกว่าโน้ตบุ๊กขนาด 12 นิ้วรุ่นอื่นๆในตลาดอย่างแน่นอน
นอกจากการเชื่อมต่อภายนอกแล้วภายในยังประกอบไปด้วยการเชื่อมต่อไวเลสของ Broadcom 802.11 b/g และ บลูทูธ 2.1 และตัวเครื่องยังรองรับระบบ 3G ในอนาคต เนื่องจากเมื่อถอดแบตเตอรี่ออกมา จะมีช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ (ตัวที่วางจำหน่ายในขณะนี้ ยังไม่รองรับแต่ตัวเครื่องสามารถใส่อุปกรณ์ให้ใช้งานได้ในอนาคต)
Performance And Benchmark
สำหรับประสิทธิภาพของเจ้าตัว 'Mini 12' คงไม่แตกต่างจากเน็ตบุ๊กรุ่นอื่นๆในตลาดมากนัก จะมีที่เห็นชัดๆ คือระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมกับ วินโดวส์ วิสต้า โฮม เบสิก ทำให้ความเร็วของเครื่องลดลงไปเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับวินโดวส์ เอ็กซ์พี ส่วนอีกจุดที่สำคัญของเน็ตบุ๊กรุ่นนี้คือเลือกที่จะใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ PATA ขนาด 1.8 นิ้ว ซึ่งหาเปลี่ยนในตลาดได้ค่อนข้างยาก
ไล่กันไปทีละอย่างตามสูตรเริ่มกันที่ซีพียูจะเป็น Intel Atom Z530 @ 1.6 GHz ที่ใช้เทคโนโลยี 45 นาโนเมตร, คอร์สปีดสูงสุดอยู่ที่ 1596.1 MHz ส่วน FSB อยู่ที่ 532MHz, L1 D-Cache 24KB, L1 I-Cache 32KB และ L2 Cache ขนาด 512KB จะเห็นได้ว่าเปลี่ยนรุ่นซีพียูจากรุ่นยอดนิยมอย่าง N270 มาเป็น Z530 ช่วยประหยัดพลังงานขึ้นอีกนิด
ทางด้านเมนบอร์ดจะใช้ชิปเซ็ต Intel ID8100/ID8119 ที่ทางเดลล์ผลิตขึ้นมาเอง ส่วนหน่วยความจำจะเป็น DDR2 ขนาด 1GB แบบฝังไว้ในเมนบอร์ด ทำให้ CPU-Z ไม่สามารถตรวจค่าได้
ทดลองใช้งานโปรแกรม PCMark05 คะแนนออกมาอยู่ที่ 1039 แม้ว่าจะดูน้อยไปสักนิดอาจจะมีผลมาจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น รวมกับระบบปฏิบัติการอย่างวินโดวส์ วิสต้า แต่อย่างไรนับว่ายังไม่ต่ำกว่าคะแนนทั่วไปของเน็ตบุ๊กรุ่นอื่นๆ ที่ใช้ฮาร์ดดิสก์เช่นเดียวกัน
ลองดูกันในส่วนของกราฟิกการ์ดทีมงานมีปัญหาขณะทดสอบใช้งานเนื่องจากโปรแกรม GPU-Z ไม่สามารถใช้งานได้ อาจจะเกิดจากมองไม่เห็นการ์ดจอออนบอร์ดที่ทางเดลล์ใส่มาก็เป็นได้ ดังนั้นจึงนำค่าจากวินโดวส์มาให้ดูแทน ระบบแสดงผลจะเป็น Intel GMA 500 ที่มีหน่วยความจำ 251MB (จริงๆมันน่าจะเป็น 256MB) ในตัว ช่วยให้ใช้งานได้รวดเร็วมากขึ้น
เมื่อทดสอบผ่านโปรแกรม 3DMark06 ที่ความละเอียด 1280 x 800 คะแนนออกมาอยู่ที่ 77 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนปกติของเน็ตบุ๊กที่เคยทดสอบในระดับความละเอียด 1024 x 768 จะอยู่ในช่วง 80 - 90 คะแนน ดังนั้นเมื่อความละเอียดหน้าจอมากขึ้นคะแนนเลยลดลงเล็กน้อย จากนั้นทีมงานได้ทดสอบโดยการดูภาพยนตร์ความละเอียดสูง (720p) เครื่องก็ไม่แสดงอาการหน่วงหรือกระตุกให้เห็น ดังนั้นถือว่าสอบผ่านในระดับความละเอียดสูง (ถ้าเป็น 1080p จะมีอาการหน่วงอย่างรู้สึกได้)
ในส่วนของฮาร์ดดิสก์ที่เป็นแบบ PATA เป็นของยี่ห้อ ซัมซุง ความจุ 80GB อัตราการเข้าถึงข้อมูลจะสูงกว่าค่าเฉลียปกติที่ 17 เป็น 22.8ms ความเร็วสูงสุดในการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ 37.8MB/s
มาดูภาคการรับสัญญาณไวเลสกันบ้างเจ้าตัว 'Mini 12' ใช้ไวเลสของ Broadcom 802.11 b/g ดังที่บอกไว้ข้างต้น การรับสัญญาณถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง แม้จะมีลักษณะแกว่งๆบ้างแต่ก็ไม่ต่ำกว่า 90% ดังนั้นการใช้งานด้านเน็ตเวิร์กยังทำได้ดีอยู่
Speaker
มาถึงอีกจุดด้อยสำคัญของ 'Mini 12' คือระบบเสียงที่ออกจากลำโพงเป็น โมโน... จริงครับไม่ได้เขียนผิดแต่อย่างใด ลำโพงจะอยู่บริเวณข้างๆกับปุ่มเปิดเครื่อง ส่วนที่เห็นเป็นช่องๆ หลอกตามาถึงฝั่งขวาจะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ผู้เชียวชาญเกี่ยวกับโน้ตบุ๊กในต่างประเทศให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า เดลล์ต้องการที่จะประหยัดพลังงาน และ ลดขนาดของตัวเครื่อง ทำให้ใส่มาได้เพียงลำโพงแบบ โมโน เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเสียงที่ได้ออกมาถือว่าดังดีทีเดียว ส่วนความกว้างแคบ แยกเสียงซ้ายขวาคงไม่ต้องพูดถึง ส่วนระบบเสียงภายในยังเป็นระบบยอดฮิตอย่าง Realtek Hd Audio ทำให้คุณภาพของเสียงที่ต่ออกลำโพงยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
Battery and Heat
แบตเตอรี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของ 'Mini 12' เนื่องมาจากใช้แบต Lithium-Ion 24WHr ซึ่งเป็นแบบ 3 เซลล์เท่านั้น การใช้งานทั่วไป เปิดความสว่างหน้าจอ 50% เสียง 50% ใช้เล่นอินเทอร์เน็ต พิมพ์งาน ฟังเพลง ได้ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ถ้าใช้แบบประหยัดพลังงานสุดๆ ไม่เปิดไวเลส ไม่เปิดเสียง น่าจะอยู่ได้ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
ทดสอบใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพกล่าวคือเปิดภาพยนตร์ความละเอียดสูง (720p) ความสว่างหน้าจอสูงสุด เปิดเสียงดังสุด จะใช้งานได้เพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง ส่วนเวลาในการชาร์จแบตฯถือว่าทำได้ดีเพราะใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เท่านั้นเอง
มาดูกันในส่วนของความร้อนถ้าใช้งานปกติความร้อนของซีพียูจะอยู่ประมาณ 51 องศาเซลเซียส อาจจะมีขึ้นไปสูงถึง 65 องศาเซลเซียสในบางช่วง ถ้าใช้งานซีพียูหนักๆ ความร้อนจะขึ้นไปถึง 90 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว แต่ถ้าลดการทำงานของซีพียูลงความร้อนก็จะลดลงด้วยความเร็ว ในจุดนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายอากาศทำหน้าที่ได้ดี ส่วนความร้อนของฮาร์ดดิสสูงสุดประมาณ 41 องศาเซลเซียส ต่ำสุดประมาณ 27 องศาเซลเซียส ในวันที่อากาศหนาวๆ
สำหรับ Rate จากวินโดวส์ วิสต้าแสดงผลตามรูปครับ
Feature of Dell Inspiron Mini 12
ในส่วนของฟีเจอร์ที่ทางเดลล์มีให้มานั้นคือ "Dell Dock" ที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชัน ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ก็เหมือนกับ Dock ในเครื่อง Mac นั่นเอง แต่น่าเสียดายที่ระบบดังกล่าว จำกัดการทำงานแค่ในวินโดวส์ วิสต้าเท่านั้น
โดย Dell Dock จะมีปุ่มให้เลือก 8 หมวดหลัก และ สามารถเพิ่มปุ่มลัดหรือปรับแต่งรูปแบบในการใช้งานได้
- E-Mail & Chat ซึ่งถ้าเครื่องที่ลงโปรแกรมใช้งานทั่วไปก็จะเรียก Microsoft Outlook ขึ้นมาใช้งานสำหรับอีเมล ส่วนแชทนั้นจะเป็นแอปพลิเคชันอีกตัวที่เดลล์แถมมาให้ซึ่งจะอธิบายในภายหลัง
- Internet จะเป็นการเรียกใช้งานแอปพลิเคชันอย่าง Internet Explorer และ ระบบ Parental Control
- Photos จะมีปุ่ม Take a Picture สำหรับการใช้งานกล้องเว็บแคม และ View Photos สำหรับเรียกใช้งานโปรแกรมดูภาพที่ติดมากับวินโดวส์ (Windows Picture)
- Music จะมีปุ่ม Listen ti Music ขึ้นมาสำหรับเรียกโปรแกรม Windows Media Player นั่นเอง
- Videos ในหมวดของวิดีโอจะมีปุ่มสำหรับ Capture Video, Create Video (Windows Movie Maker) ,Play Video (Windows Media Player) และ Video Chat
- Office จะเป็นการเรียกโปรแกรมจาก Microsoft Office ทั้งหมด
- Security ในจุดนี้จะเป็นส่วนของการป้องกันทั้งหมด ถ้ามีการลงโปรแกรมป้องกันไวรัสก็จะมีปรากฏขึ้นในส่วนนี้ด้วย แต่ถ้าไม่ได้ลงจะมีเพียงแค่ระบบ Parental Control เท่านั้น
- Help & Support ในส่วนนี้จะมีให้ตั้งค่าของ Dell Dock เรียกระบบ Support ของเดลล์ ระบบ Help ของวินโดวส์ Tranfer your data และ Uninstall Soft ware
- Internet Explorer จะเป็นช็อตคัทเข้าสู่โปรแกรม IE ที่คุ้นเคย
- Recycle Bin ที่ทุกคนคุ้นเคย
Dell Webcam Central
หน้าตาของโปรแกรมถ่ายรูป และ วิดีโอของเดลล์ จะมีสีดำสลับกับส้ม ด้านบนแถบให้เลือก Snap Photos สำหรับถ่ายภาพ และ Record Videos สำหรับถ่ายวิดีโอ ซึ่งจะใช้การควบคุมเหมือนกับใน Videos Chat ส่วนด้านล่างจะมีปุ่มสำหรับตั้งค่า ขนาดของภาพสูงสุดที่ 1280 x 1024 ตั้งเวลาถ่ายภาพ และระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นในส่วนของเอฟแฟกต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าเอเลี่ยน, ควันออกหู, ใส่วิก, แว่น, หนวด และเพิ่มสถานที่ต่างๆ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจ ส่วนเอฟแฟกต์อย่างภาพขาวดำ ซีเปียก็มีมาให้ครบเช่นเดียวกัน
ในส่วนของการปรับแต่งจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆคือ Picture Control สำหรับเพิ่มสีแสง ปรับแกมม่า Face Tracking สำหรับปรับระบบตรวจจับใบหน้า และสุดท้าย Pan & Zoom ทำหรับควบคุมกล้องแพนซ้ายขวาขึ้นลง และซูมเข้าออก
Dell Support Center
เป็นส่วนที่บอกถึงรายละเอียดอุปกรณ์ภายใน รหัสสินค้าสำหรับใช้บริการ ระบบติดต่อสอบถามออนไลน์ (ไม่แน่ในว่าในประเทศไทยจะใช้ได้รึเปล่า) มีระบบตั้งค่าเตือนเหตุการณ์ต่างๆ ถือว่าเป็นโปรแกรมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานอีกโปรแกรมหนึ่ง
บทสรุป
สำหรับเน็ตบุ๊กขนาด 12 นิ้วจากเดลล์รุ่นนี้ คงอยู่ที่ว่าผู้ใช้งานยอมรับสภาพความเป็นเน็ตบุ๊ก ที่มีข้อจำกัดในด้านการใช้งานได้หรือไม่ ซึ่งถ้ายอมรับในจุดนี้ได้ เครื่องรุ่นนี้จะถือว่าน่าใช้มาก เพราะมีขนาดหน้าจอใหญ่(แต่ไม่ถึงกับใหญ่เกินไป)ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
ด้วยตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเบาและขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วไปที่ขนาด 12 นิ้ว ทำให้เครื่องรุ่นนี้เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ทั้งนี้อย่าลืมคำนวนถึงเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่ที่ใช้แบบประหยัดๆ อย่างไรก็ไม่น่าเกิน 2 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าต้องการเวลาใช้งานที่เพิ่มขึ้นคงต้องเปลี่ยนให้แบตฯมีความจุมากขึ้น แต่ก็จะเพิ่มขนาดและน้ำหนักขึ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ในส่วนของเสียงที่ได้จากลำโพงจะเป็นแบบโมโน ถ้าไม่ใส่ใจในเรื่องเสียงที่ได้คงไม่มีผลกระทบอะไร แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้งานในการฟังเพลง หรือดูหนังที่แยกเสียงซ้าย-ขวา ชัดเจน คงต้องรอให้เดลล์พัฒนาในจุดนี้เพิ่มเติม
ส่วนระบบปฏิบัติการที่ให้มาเป็นวินโดวส์ วิสต้า ทำให้ดึงความสามารถของเน็ตบุ๊กให้ช้าลง ย้ำว่าช้าลงนะครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมเดลล์ ประเทศไทยจึงนำวินโดวส์ วิสต้า มาใช้งานในเน็ตบุ๊ก เพราะในต่างประเทศตัว 'Mini 12' จะมาพร้อมกับวินโดวส์ เอ็กซ์พี หรือ ลินุกซ์ อูบุนตู
ขอชม
- หน้าจอขนาด 12 นิ้วที่ให้ความละเอียด 1280 x 800
- ขนาดและน้ำหนักเครื่องที่เบากว่าโน้ตบุ๊กขนาด 12 นิ้วทั่วไป
ขอติ
- ลำโพงแบบโมโน ทำให้เสียงไม่ดีเท่าที่ควร
- ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ PATA ที่หาเปลี่ยนได้ยาก
- ช่องระบายความร้อนอยู่ใต้เครื่อง ทำให้เวลาใช้งานบนหน้าตักจะได้รับความร้อน
Company Relate Link :
Dell
