xs
xsm
sm
md
lg

Review : Sense 80 พีดีเอโฟนสุดคุ้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Sense 80
เพราะไม่เคยมีใครให้ได้มากเท่านี้ ในราคา 11,900 บาท โปรเซสเซอร์ 400 MHz, Windows Mobile 6.1, GPS, Wi-Fi 802.11 b/g, EDGE, GPRS, Bluetooth, FM Radio, กล้อง 2 ล้านพิกเซล, ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ, เล่นไฟล์ MP3, MPEG4, 3GP, การ์ด Micro SD 2 GB และคอนเทนต์ต่างๆมากมายที่แถมมาในตัวเครื่อง เราจึงยกให้ Sense 80 เป็นพีดีเอโฟนสุดคุ้มจริงๆ

Sense 80 เป็นพีดีเอโฟนรุ่นแรกที่ทาง บริษัท สามารถ โมบาย เซอร์วิสเซส จำกัด นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 และวางตลาดไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยราคา ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2551 ที่ 11,900 บาท จุดขายของเครื่องรุ่นนี้มีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ แถมคุณภาพก็ไม่ได้ต่ำตามราคาด้วย

เข้าถึงโปรแกรมได้เร็วผ่าน Sense Home
Sense Home
Sense Home เป็นอินเตอร์เฟสการใช้งานจุดแรกที่ผู้ใช้ Sense 80 ทุกคนต้องเจอ เพราะมันจะปรากฏอยู่ที่หน้าจอ Today หน้าจอแรกหลังบูตเครื่องเสร็จ Sense Home จะทำหน้าที่เหมือนทางลัดในการเข้าสู่โปรแกรมต่างๆที่มีอยู่บนเครื่องทั้งหมดแทนการเรียกผ่านปุ่ม Start อยากรู้ว่าในเครื่องนี้มีโปรแกรมอะไรอยู่บ้างก็ดูได้จากที่นี่แหละ... สะดวกดี
Sense Home
Sense Home จะมีการจัดแบ่งแท็ปออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Home, Multimedia, Programs และ Status โดย Home จะแสดงเวลาปัจจุบัน สถานะการตั้งปลุก สถิติสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับ จำนวนข้อความและอีเมลที่ยังไม่ได้อ่าน และแสดงสภาพอากาศ, Multimedia เป็นที่รวมปุ่มลัดสำหรับการเข้าถึงโปรแกรมดูรูป ดูหนัง และฟังเพลง, Programs จะรวมปุ่มลัดของโปรแกรมทั้งหมดที่มีอยู่บนเครื่องเอาไว้ โดยใช้ Scholl Bar ในการเลื่อนดู และสุดท้าย Status แสดงสถานะของทรัพยากรของระบบ ได้แก่ หน่วยความจำภายใน ภายนอก แบตฯ และระดับความสว่างหน้าจอ เรายังสามารถปรับแต่งการทำงานของแบตฯและความสว่างหน้าจอได้โดยตรงจากที่นี่ด้วย

อัปเดท ข้อมูล ข่าวสาร ทันเหตุการณ์ ด้วย Sense Screen
Sense Screen
Sense Screen เป็นจุดขายจุดที่ 2 ของ Sense 80 ที่จริงจะเรียกว่าเป็นจุดสร้างรายได้ให้กับ "สามารถ" และ "พันธมิตรทางธุรกิจของสามารถ" ก็คงไม่ผิด... เพราะมันคือศูนย์รวมปุ่มลัดเพื่อการเข้าถึงคอนเทนต์และบริการของสามารถและพันธมิตร แล้วคอนเทนต์และบริการเหล่านี้ก็มีประโยชน์มากเสียด้วย โดยเฉพาะกับนักธุรกิจและนักเดินทาง

สำหรับหน้าตาของ Sense Screen ก็จะคล้ายๆกับ Widget ของ Samsung Omnia และ F480 คือมีแถบสไลด์บาร์ที่ซ่อนอยู่ทางด้านข้าง เอาปากกาสไตลัสไปจิ้มๆตรงขอบด้านซ้ายของจอภาพมันก็จะโผล่หน้ามาให้เห็น บนสไลด์บาร์จะมีไอคอนต่างๆซึ่งสามารถลากมาวางบนหน้าจอหลักได้อย่างอิสระ สำหรับคอนเทนต์และเซอร์วิสที่ไอ-โมบายจัดเตรียมไว้ให้นั้น มีอะไรบ้าง เราแว้บไปดูกันสักนิด

Traffic GPS รายงานสภาพการจราจร ครอบคลุมถนนและแยกสำคัญๆทั่วกรุงเทพฯ แสดงผลแบบ Real time, Golf GPS ใช้ค้นหาระยะจากจุดที่เรายืนหรือจุดที่ลูกกอล์ฟตกกับปากหลุม โดยโปรแกรมจะมีข้อมูลสนามกอล์ฟจำนวน 10 สนามไว้ให้ ส่วนใหญ่จะอยู่รอบๆกรุงเทพฯ ได้แก่ อัลไพน์, คัสคาต้า, กฤษดาซิตี้กอล์ฟฮิลล์, กรุงเทพกรีฑา, เลควูด, ลำลูกกา, เมืองเอก, ปัญญาอินทรา, พัฒนากอล์ฟ, ไพน์เฮิร์ทส และวินเซอร์ และ EDT ข้อมูลสถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว ที่น่าสนใจ ทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังแสดงรายการโปรโมชันและส่วนลดของร้านแต่ละแห่งด้วย โดยทั้ง 3 แอปพลิเคชันดังกล่าวจะทำงานร่วมกับระบบ GPS

News ข่าวทันเหตุการณ์ (RSS Feed) จากสำนักข่าวทั่วโลก, Weather Forecast รายงานสภาพอากาศทั่วโลก, Stock อัปเดทความเคลื่อนไหวหุ้นในตลาดหลักทรัพย์, Exchange Rate ดูอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราและแปลงสกุลเงิน, Oil Price อัปเดทราคาน้ำมัน, Gold Price อัปเดทราคาทองคำ

MSN แชตกับเพื่อนผ่านโปรแกรม MSN, Hi5 เข้าถึง Hi5 ได้โดยตรง และ Hotmail เช็กอีเมลผ่าน Hotmail

i-Link บริการด้านมัลติมีเดีย เข้าถึงหลากหลายบริการจาก i-Link, Bug2Mobile ค้นหาข้อมูลต่างๆ ทั้ง ธุรกิจ บันเทิง และไลฟ์สไตล์ รวมถึงดาวน์โหลดโมบายคอนเทนต์ผ่าน wap.bug2mobile.com, BUG1900 บริการข้อมูลข่าวสาร กีฬา สาระบันเทิง อาทิ ผลกีฬา ดูดวง ผลสลาก ฯลฯ จาก BUG1900 และบริการสอบถามเลขหมายโทรศัพท์จาก BUG1113

Call ปุ่มลัดเข้าถึงโปรแกรม Phone สำหรับการโทรออก, Appointment ปุ่มลัดเข้าถึงโปรแกรมแสดงตารางนัดหมาย, Calendar ปุ่มลัดเข้าถึงโปรแกรม Calendar, Digital Clock แสดงเวลาปัจจุบัน และ Mail ปุ่มลัดไปยังโปรแกรมรับส่งอีเมล

WiFi by True Move เข้าสู่บริการ True Wi-Fi, True Music เข้าสู่เว็บไซต์ http://truemusic.truelife.com และ True Life เข้าสู่เว็บไซต์ http://www.truelife.com

การใช้งานเกือบทั้งหมดต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ผ่าน GPRS/EDGE หรือ Wifi ถึงจะทำงานได้ เพราะมีข้อมูลที่ต้องอัปเดทอยู่ตลอด นั่นหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และผู้ใช้แต่ละคนต้องรับผิดชอบกันเอง เพราะฉะนั้นจะเรียกใช้งาน Sense Screen แต่ละครั้ง โปรดใช้วิจารณญาณคิดกันให้ดีๆ มิฉะนั้นเดือนถัดไปคุณอาจมีปัญหาด้านการเงินได้

แผนที่, GPS และระบบนำทาง
ระบบนำทางและแผนที่ PowerMap R12
แผนที่, GPS และระบบนำทาง เป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Sense 80 ที่เราต้องปรบมือให้ดังๆ เรามีโอกาสได้พาเจ้า Sense 80 ไปเที่ยวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และพักค้างคืนที่ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก 1 คืน ต้องบอกว่าเจ้า Sense 80 ช่วยได้เยอะเลย ตั้งแต่วางแผนการเดินทาง กำหนดเส้นทาง นำทางไปจนถึงจุดหมาย และพากลับบ้าน
รายละเอียดบนแผนที่ยังไม่ Make Sense
แผนที่ที่ถูกบรรจุไว้ในตัว Senso 80 คือ PowerMap R12 พัฒนาโดยบริษัท เอเบิล ไอทีเอส (Able ITS) มีความละเอียดสูง ครั้งแรกที่เปิดแผนที่ขึ้นมา อาจจะงงๆนิดหน่อย เพราะมันโชว์แผนที่ตรงไหนมาก็ไม่รู้ Zoom Out ออกมาเพื่อดูภาพรวมว่าก็ยิ่งงง เพราะมันไม่โชว์ชื่อจังหวัดหรือชื่อเขต หรือแม้แต่เส้นแบ่งเขตก็ไม่มี แต่กลับโชว์ชื่อสถานที่ เช่น ชื่อวัด ชื่อสถานศึกษา ชื่อธนาคาร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตั้งอยู่เขตไหนจังหวัดไหน ตรงนี้คือจุดบกพร่องที่น่าปรับปรุงโดยเร่งด่วนของแผนที่ตัวนี้
ข้อมูลสถานที่น่าสนใจ (POI) เยอะมาก
อ้าว... แล้วจะหาเขาค้อเจอได้ไง??? ใช้ Search ครับ เขามี Search มาให้ กดที่ไอคอนรูปแว่นขยายตรงทูลส์บาร์ใต้แผนที่ เลือกแท็บ All POI เปลี่ยนคีย์บอร์ดเป็นภาษาไทย แล้วพิมพ์คำว่า “เขาค้อ”... เรียบร้อย... มีชื่อสถานที่ที่มีคำว่าเขาค้อรวมอยู่ด้วยโชว์ขึ้นมาเพียบเลย เลือกเอาสักที่นึง เช่น พระตำหนักเขาค้อ แล้ว add ใส่ Favorite ไว้จะได้ไม่ต้องหาใหม่ จากนั้นเราก็หาภูหินร่องกล้า อ้อ... อย่าลืมมาร์กกรุงเทพฯไว้ด้วย ลองคำนวณเส้นทางดู... เวลาผ่านไปนาทีกว่าๆ... ในที่สุดเราก็ได้เส้นทางไปเขาค้อและภูหินร่องกล้าแล้ว ระยะทางเป็นเท่าไหร่??? ให้กดดูที่ไอคอนรูปรถจะมีบอกระยะทาง คือ 389 กิโลเมตร และที่หน้านี้ก็ยังมีออปชันให้เลือกสำหรับการคำนวณเส้นทางแบบอื่นๆด้วย เช่น เส้นทางปกติ, ไม่ขึ้นทางด่วน, เส้นทางที่สั้นที่สุด และเส้นทางจักรยาน
จุดอ้างอิงบนแผนที่เพื่อใช้ในการค้นหา POI จะอยู่ตรงกลางในกรอบสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน
ทีนี้ก็หาปั๊ม (แก๊ส) โดยเฉพาะ NGV ระยะทาง 389 กิโลเมตรไปไม่ถึงแน่นอน หรืออาจถึงแต่กลับไม่ได้ ต้องหาที่เติมก่อน เอาสักครึ่งทางก็แล้วกัน ย่อแผนที่ลงมาให้เห็นจุด Start กับ Finish ในหน้าจอเดียวกัน เอาปากกาสไตลัสแตะที่กึ่งกลางเส้นทางที่คำนวณไว้แล้วลากให้มาอยู่ในกรอบสีน้ำเงินตรงกึ่งกลางจอภาพซึ่งจะปรากฏขึ้นตอนที่ลากแผนที่ กรอบนี้ค่อนข้างสำคัญเพราะจะใช้เป็นจุดอ้างอิงสำหรับการค้นหาสถานที่ (POI) ที่อยู่ใกล้ๆ เสร็จแล้วขยายเข้าไป ตอนขยายหน้าจอ เส้นทางอาจขยับออกด้านซ้ายหรือขวาเล็กน้อย ก็ลากมันให้เข้ามาอยู่ตรงกลางแล้วขยายต่อ
ไม่มีปั๊ม NGV ตลอดเส้นทางเที่ยวเขาค้อ-ภูหินร่องกล้า
พอขยายได้ความละเอียดพอประมาณ (ในกรอบอัตราส่วนแสดงตัวเลข 1-2 km) ก็ได้เวลาหาปั๊ม คลิกไอคอนรูปแว่นขยาย เลือกแท็บ All POI ช่อง Type ให้เลือกเป็น Petrol Station ส่วนช่อง Area ช่องแรกเลือก Near By ช่องที่ 2 All Range เลือกเป็น GPS/Map การเลือกออปชันแบบนี้จะหมายถึง ให้ค้นหารายชื่อปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้จุดอ้างอิงบนแผนที่ (กึ่งกลางจอภาพ)... ปรากฏว่าไม่มีปั๊ม NGV แฮะ… ไม่เป็นไรค่อยๆไล่ขึ้นไปตามเส้นทางดู ก็คือค่อยๆขยับแผนที่ไปเรื่อยๆ และทำซ้ำขั้นตอนการค้นหา... ไล่ไปจนถึงเพชรบูรณ์... ปรากฏว่า ไม่มีปั๊ม NGV ตลอดเส้นทาง มีแต่ปั๊ม LPG ที่อำเภอชัยบาดาลกับที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คนใช้ NGV ถ้าจะเที่ยวเขาค้อเพชรบูรณ์ก็ต้องทำใจกันล่ะ น้ำมันอย่างเดียว ไม่ต้องไปหาให้เมื่อยคอและเสียสมาธิในการขับรถ ส่วนคนใช้ LPG ก็สบายไป มีให้เติมถึง 2 จุด จริงๆแล้วยังมีอีกจุดหนึ่งด้วยที่หล่มสัก รวมเป็น 3 จุด... ฝากถึง ปตท. รีบๆขยายกำลังการผลิตและจำนวนปั๊ม NGV เร็วๆหน่อย โดยเฉพาะในต่างจังหวัด อย่าเฉพาะแค่กรุงเทพฯ ไม่งั้นคงไม่มีคนใช้ NGV
แสดงผล 2 มุมมอง Top View และ Bird Eye View พร้อมสถิติการเดินทาง
ลองใช้ระบบนำทางดูบ้าง เริ่มระบบด้วยการกดปุ่ม GPS ตรงมุมล่างขวาในหน้าแผนที่ ระบบจะใช้เวลาจับสัญญาณประมาณ 3-5 นาที เสียงนำทางเป็นภาษาไทย เสียงดัง ฟังชัด มีมุมมองให้เลือกดู 2 มุมมอง คือ Top View และ Bird Eye View และมีสถิติการเดินทางให้ดูด้วย ทั้งความเร็ว ระยะทาง และเวลาที่ใช้ในการเดินทาง ในโหมด GPS On นี้ ระหว่างเดินทางเราสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขจุดหมายปลายทางได้ทันทีโดยไม่ต้องกลับมาที่โหมด GPS Off มีอินเตอร์เฟสสวยงาม มองเห็นได้ชัดเจน สีสันสดใส ค้นหาสถานที่ต่างๆได้สะดวก และใช้ง่ายกว่าโหมด GPS Off เยอะเลย
โหมด GPS On อินเตอร์เฟสสวยงาม POI จัดหมวดหมู่เรียบร้อย
เรื่องสถานที่ PowerMap R12 มีการจัด POI เป็นหมวดหมู่จำนวน 12 กลุ่ม ได้แก่ ปั๊มน้ำมัน, ที่จอดรถ, ธนาคาร, ร้านอาหาร, โรงแรมที่พัก, ห้างสรรพสินค้า, สถานีขนส่ง, สถานบันเทิง, หน่วยราชการ, โรงพยาบาล, สถานศึกษา และอื่นๆ ที่จริงน่าจะมีสถานบริการเกี่ยวกับรถยนต์เพิ่มมาอีกกลุ่มนะ เพราะค่อนข้างจำเป็นเวลารถเสียต่างจังหวัด

เอาล่ะ พอหอมปากหอมคอ สรุปว่า ยอดเยี่ยม สำหรับแผนที่, GPS และระบบนำทางบน Sense 80 สิ่งแรกที่ต้องเอ่ยชมคือ Sense 80 เป็นหนึ่งในพีดีเอโฟนราคาประหยัดเพียงไม่กี่รุ่นที่มีระบบนำทาง GPS พร้อมแผนที่มาให้ จุดที่ 2 คือ GPS มีความแม่นยำสูงเชื่อถือได้ และจุดที่ 3 การนำทางมีความถูกต้อง และแม่นยำ ขานเส้นทางในระยะที่เหมาะสมก่อนถึงจุดหมาย ไม่ใช่เลยแล้วพึ่งมาบอก

อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง อย่างแรกคือ รายละเอียดบนแผนที่ไม่ Make Sense เมื่อย่อแผนที่ลงในระดับที่เห็นภาพในวงกว้าง แทนที่จะแสดงเป็นชื่อและเขตจังหวัด กลับแสดงชื่อสถานที่ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอยู่จังหวัดไหนเขตไหน ทำให้ไม่สามารถหาสถานที่ที่ต้องการจากหน้าแผนที่ได้โดยตรง ต้องทำผ่าน Search อย่างเดียว อย่างที่ 2 คือใช้เวลาในการคำนวณเส้นทางนานเกินไป ประมาณ 1 นาทีกว่าๆ ทั้งการคำนวณเส้นทางในครั้งแรก (Routing) และการคำนวณเส้นทางใหม่ (Rerouting) ทำให้บางครั้งเลยจุดเลี้ยวหรือจุดกลับรถไปแล้ว ก็ต้องคำนวณเส้นทางใหม่ซ้ำเป็นรอบที่ 3 และ 4 ซึ่งแต่ละรอบก็กินเวลานานจริงๆ และอย่างที่ 3 ในช่วงจากเขาค้อไปภูหินร่องกล้า เครื่องพาเราลงเหวมากกว่า 10 ครั้ง เข้าใจว่าเป็นเส้นทางจักรยาน แต่ทำไมมาโชว์ในโหมดปกติก็ไม่รู้ แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดของแผนที่และระบบนำทาง เชื่อว่าข้อผิดพลาดนี้ต้องมีมากกว่า 1 แห่งแน่นอน ซึ่งต้องมีการปรับปรุงกันต่อไป

ดูหนัง ฟังเพลง ฟังวิทยุ
FM Radio ใช้งานได้ดี
FM Radio เป็นอีกจุดขายของ Sense 80 มีพีดีเอโฟนน้อยจนนับรุ่นได้ที่จะมีโปรแกรมวิทยุติดมาให้ การรับสัญญาณวิทยุอยู่ในเกณฑ์ดี คุณภาพเสียงจัดว่าดีใช้ได้ ฟังได้อารมณ์ดนตรี มีเนื้อมีหนัง ไม่แห้งแบน เมมโมรี่มีเหลือเฟือ เพียงพอที่จะบันทึกวิทยุทุกสถานีที่มีอยู่ในประเทศไทย และเรายังสามารถบันทึกเพลงจากสถานีวิทยุได้โดยตรงด้วย
ดูหนัง ฟังเพลง ผ่าน Windows Media Player
ในส่วนของการดูหนังและฟังเพลง เป็นหน้าที่ของ Windows Media Player ที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว คุณภาพเสียงอยู่ในระดับดีเช่นเดียวกัน หูฟังที่ให้มาเสียงดีใช้ได้เลย เสียงเบสแน่น เสียงคนร้องลอยเหนือเสียงดนตรีและชัดเจน เสียงสูงใสและไม่แสบแก้วหู อีควอไลเซอร์ปรับเซ็ตได้ผ่านโปรแกรม Volumn Control ในหน้า Setting เรื่องการดูหนัง ภาพลื่นไหลดีมาก ไม่มีกระตุกให้เสียอารมณ์ แต่จอที่ซัพพอร์ตแค่ 65,536 เฉดสีเนี่ย ทำให้การไล่เฉดสีในบางฉากก็มีด่างเหมือนกัน อย่างไรก็ตามถือว่าปกติ เพราะเจ้าอื่นก็เป็น

ถ่ายรูป ดูรูป

เรื่องกล้อง ต้องบอกว่าแค่พอใช้เท่านั้น ระยะชัดอยู่ที่ 1-2 เมตร มาโครไม่สามารถ และถ้าเลยจาก 2 เมตร ความคมชัดของภาพก็จะลดลง ขึ้น ออปชันมีให้เลือกใช้แค่พอตัว มีโหมดถ่ายกลางคืนเพื่อชดเชยแสงให้รูปสว่างและเลือก Resolution ได้ระหว่าง 1600 x 1200, 1280 x 1024, 640 x 480, 320 x240, 176 x 144 แค่นั้น

ตัวอย่างรูปที่ถ่ายด้วย Sense 80

กล้องให้ผลงานแค่ระดับพอใช้
ส่วนการเรียกดูภาพ สามารถเรียกดูผ่านโปรแกรม Sense Album ซึ่งทำงานคล้ายๆโปรแกรมของไอโฟน มีหน้าแสดงรูป Thumbnail แตะเพื่อดูรูปเต็ม ลูบลงเพื่อย่อ ลูบขึ้นเพื่อขยาย ลูบซ้ายลูบขวาเพื่อดูรูปถัดไปหรือรูปก่อนหน้า

สุดท้ายเรื่องการ์ด Micro SD 2 GB ที่แถมมาให้ เจ้านี่ค่อนข้างสำคัญ เพราะมันคือแหล่งขุมทรัพย์ เป็นที่เก็บคอนเทนต์ต่างๆทั้งรูป, เพลง, หนัง และที่สำคัญคือเป็นที่เก็บโปรแกรม “PowerMap R12” แผนที่ประเทศไทยความละเอียดสูง

ดีไซน์
Sense 80
Sense 80 มีดีไซน์ที่ดีมาก ไม่น่าเชื่อว่าเครื่องพีดีเอโฟนราคาหมื่นสองทำดีไซน์ที่ยอดเยี่ยมและใช้วัสดุได้ดีขนาดนี้ คอนเซ็ปต์ง่ายๆ "เรียบ ลื่น มัน เงา หรูหรา" หน้าจอเรียบเป็นชิ้นเดียวกับตัวบอดี้ กรอบและตัวเครื่องเป็นพลาสติกสีดำ แต่มีลูกเล่น ไม่ใช่ดำสนิท แต่เป็นดำกราไฟท์ มีเม็ดสีบรอนซ์ผสมอยู่ด้วย ประมาณว่าดำประกายมุก ดูหรูหรา ชิ้นส่วนและการประกอบประณีตและแน่นหนาดีมาก ไม่มีเสียงออดแอดให้รำคาญโสตประสาทเวลาใช้งาน

ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจกบานใหญ่เป็นที่อยู่ของจอ LCD แบบทัชสกรีน ไซส์ 2.8 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล รองรับการแสดงผลได้สูงสุด 65,536 เฉดสี ซึ่งเป็นมาตรฐานของพีดีเอในปัจจุบัน ลงมาทางด้านล่างเป็นที่อยู่ของปุ่มกดจำนวน 4 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มซอฟต์คีย์ซ้าย, ปุ่มซอฟต์คีย์ขวา, ปุ่มโทรออก และปุ่มวางสาย ตรงกลางระหว่างปุ่มทั้ง 4 เป็นปุ่มเคอร์เซอร์ตรงกลม 5 ทิศทาง วัสดุเป็นโครเมี่ยม หรูหรา ทางด้านบนเป็นช่องลำโพงหูฟัง ซึ่งมีไฟ LED แสดงสถานะซ่อนอยู่ภายในด้วย
ด้านซ้าย
ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นที่อยู่ของปุ่ม GPS กดเพื่อเรียกโปรแกรม Wireless Manager ขึ้นมาใช้งาน ถัดมาเป็นปุ่มควบคุมระดับเสียง และล่างสุดเป็นช่องเสียบหูฟัง
ด้านขวา
ด้านขวาเป็นที่อยู่ของ ช่องใส่ซิมการ์ดและเมมโมรี่การ์ดแบบ MicroSD มีฝาปิดเรียบร้อย ถัดมาเป็นปุ่ม Soft Reset และปุ่มชัตเตอร์
ด้านหัว (ซ้าย) ด้านท้าย (ขวา)
ด้านบนของตัวเครื่องมีปุ่ม Power และตรงมุมเป็นช่องเก็บปากกาสไตลัส อาจมองจากทางด้านข้างของเครื่องก็ได้ ส่วนทางด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต miniUSB และรูไมโครโฟน
ด้านหลัง
ด้านหลังเป็นที่ติดตั้งกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ใช้สำหรับถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ขนาบข้างด้วยกระจกเงาสำหรับช่วยถ่ายตัวเองทางด้านซ้ายและลำโพงคุณภาพสูงทางด้านขวา ปิดทับด้วยตะแกรงสีดำดูสวยงาม สำหรับลำโพงที่ให้มาเป็นลำโพงเดี่ยว แต่คุณภาพเสียงระดับ HiFi เกินตัวทีเดียว ถัดลงมาเป็นช่องใส่แบตเตอรี่พร้อมฝาปิดเรียบร้อย

แบตเตอรี่ที่ให้มา เป็นแบบลิเธียมไอออน ขนาด 1,320 mAh เท่าที่ลองใช้งาน รัน GPS และระบบนำทาง 2 ขั่วโมง ฟังเพลงอยู่ 3 ชั่วโมง ที่เหลือใช้คุยโทรศัพท์ และเล่นนู่นนี่เรื่อยเปื่อย ใช้งานกลางๆ ไม่หนักมาก พบว่าอยู่ได้ทั้งวันสบายๆ

สรุป

ในกระบวนพีดีเอโฟนระดับหมื่นต้นๆ ไม่มีรุ่นไหนที่ใช้โปรเซสเซอร์ความเร็ว 400 MHz ยกเว้น Sense 80 รัน Windows Mobile 6.1 มี GPS พร้อมแผนที่และระบบนำทางด้วยเสียงภาษาไทย การเชื่อมต่อครบครันทั้ง Wi-Fi 802.11 b/g, EDGE, GPRS, Bluetooth มีวิทยุให้ฟัง มีกล้อง 2 ล้านพิกเซลไว้ใช้ถ่ายรูปและวีดีโอ รองรับไฟล์มัลติมีเดียเกือบทุกชนิด มีการ์ด Micro SD 2 GB มาให้ พ่วงด้วยคอนเทนต์ต่างๆมากมาย กับค่าตัว 11,900 บาท(ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2551) เราจึงยกให้ Sense 80 เป็นพีดีเอโฟนที่คุ้มค่าที่สุด

สเปก

กำลังโหลดความคิดเห็น