xs
xsm
sm
md
lg

Review : Samsung Jet S8003 ทัชโฟนพลังแรงไม่มีตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ระยะหลังมานี้กระแสทัชโฟนกำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง"ซัมซุง"ที่ยังคงกินรวบตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ส่งทัชโฟนน้องใหม่ตัวจี๊ดเข้าวงการอีกรุ่น หวังทิ้งระยะห่างคู่แข่งให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า “Samsung Jet” เมื่อเห็นชื่อนี้แล้วเชื่อว่าหลายๆคนก็คงเดากันถูก ว่ามันต้องมาพร้อมกับความแรงของตัวเครื่องแน่ๆ ใช่แล้วครับ รุ่นนี้ชูจุดเด่นเรื่องการตอบสนองทันใจหลังใช้ปลายนิ้วสัมผัส จากระบบประมวลผลที่ให้ความเร็วสูงถึง 800 MHz

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับอินเตอร์เฟส TouchWiz 2.0 ซึ่งเป็นเวอชันใหม่ล่าสุด ที่มีเอฟเฟกต์มัลติมีเดียทรงลูกบาศก์สามมิติ Media Gate 3D ให้ใช้งาน, "Motion UI" สนุกกับการสัมผัส เขย่า และสะบัด, "Smart Unlock" ฟังก์ชันเรียกใช้งานโดยไม่ต้องปลดล็อกเครื่องก่อน, รองรับการทำงานแบบ "Multi-Task" ที่สามารถเปิดใช้งานได้สูงสุดถึง 7 โปรแกรมในเวลาเดียวกัน และการเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ผ่านทาง Microsoft ActiveSync ทำให้ใช้งานได้ง่ายโดยประสิทธิภาพไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน

Feature on Samsung Jet S8003



"ซัมซุงเจ็ต"ใช้อินเตอร์เฟสแบบ 'Touch Wiz' เวอร์ชัน 2.0 ซึ่งเป็นเวอชันใหม่ล่าสุดที่ทางซัมซุงพัฒนาขึ้นมาให้ใช้งาน ณ เวลานี้ โดยยังคงมาพร้อมกับฟังก์ชันโมบาย วิตเจ็ตอยู่ในแถบ 'Side bar'ทางด้านข้าง สามารถลากไอคอนต่างๆออกมาวางไว้ทางหน้าจอหลักได้อย่างอิสระเหมือนเช่นเคย ส่วนที่พัฒนาขึ้นใหม่จะเป็นในส่วนของเอฟเฟกต์มัลติมีเดียทรงลูกบาศก์สามมิติ (Media Gate 3D) กับ Motion UI ซึ่งจะรีวิวให้ทราบเป็นรายหัวข้อทางด้านล่าง นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอหลักมาให้ใช้งานอยู่ทั้งหมด 3 หน้าด้วยกัน จึงทำให้มีพื้นที่วางไอคอนเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า



มาดูในส่วนของเมนูกันบ้าง เมื่อกดปุ่มเมนูเข้าไปดูถึงกับตะลึง! เพราะไม่เคยเห็นเมนูมากเท่านี้มาก่อนในเครื่องที่ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โมบาย ซึ่งนับๆดูแล้วมีถึง 31 เมนูด้วยกัน ประกอบไปด้วย หน้าแรก ได้แก่บันทึกข้อมูลการใช้งาน(Call Log), Google, เครื่องเล่นเพลง(Music Player), อินเทอร์เน็ต(Internet), เครื่องเล่นวิดิโอ(Video Player), ไฟล์ส่วนตัว(My Files), ปฏิทิน(Calendar), กล้องถ่ายรูป(Camera), โฟโต้เบราว์เซอร์(Photo Browser), รายชื่อรูปถ่าย(Photo Contacts), การเตือน(Alarms), การตั้งค่า(Setting)

หน้าที่ 2 ได้แก่ ค้าหาเพลง(Find Music), คอมมิวนิตี้(Communities), Dynamic Canvas, วิทยุ(FM Radio), แลกเปลี่ยน(ActiveSync), การแก้ไขวิดิโอ(Video Editor), เกมส์และอื่นๆ(Games and More), เครื่องบันทึกเสียง(Voice Recorder), บลูทูธ(Bluetooth), ซิงโครไนซ์(Synchronize), การตั้งเวลา(Timer), การจับเวลา(Stopwatch)

และหน้าที่ 3 ได้แก่ Wi-fi, ดาวน์โหลด(Downloads), สมุดบันทึก(Memo), สิ่งที่ต้องทำ(Task), เวลาโลก(World Clock), เครื่องคิดเลข(Calculator) และการเปลี่ยนหน่วย(Converter)



Media Gate 3D

"Media Gate 3D" เป็นอินเตอร์เฟสการใช้งานที่ทางซัมซุงใส่เข้ามาในเวอชัน 2.0 ซึ่งเป็นเอฟเฟกต์มัลติมีเดียทรงลูกบาศก์สามมิติ (3D Cube) สามารถเรียกใช้อินเตอร์เฟสนี้ได้ โดยการกดปุ่มเหนือปุ่มชัตเตอร์ข้างเครื่องด้านขวา หน้าจอจะปรากฏเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงลูกบาศก์สามมิติขึ้นมา สามารถใช้นิ้วเลื่อนเพื่อบังคับทิศทางไปยังหน้าต่างๆทั้ง 6 ด้าน หรือจะเลือกผ่านแถบด้านล่างก็สามารถเรียกใช้งานได้เช่นเดียวกัน



โดยทั้งฟังก์ชันที่อยู่บนลูกบาศก์สามมิติทั้ง 6 หน้า ประกอบไปด้วย อัลบั้มภาพ, เครื่องเล่นเพลง, เครื่องเล่นวิดิโอ, วิทยุ FM, เกมส์และอื่นๆ สุดท้ายฟังก์ชันอินเทอร์เน็ต เมื่อเรียกใช้งานจะปรากฏเป็นปกอัลบั้มตามฟังก์ชันต่างๆที่ได้เลือก สามารถเลื่อนเลือกใช้งานได้ง่ายๆเพียงแค่เลื่อนนิ้วไป-มา และเมื่อเจอไฟล์อัลบั้มตามที่ต้องการแล้วก็ให้ใช้นิ้วจิ้มที่อัลบั้มนั้นอีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะใช้งานไฟล์อัลบั้มนี้



Motion UI



"Motion UI" เป็นอีกหนึ่งอินเตอร์เฟสการใช้งานที่ถูกใส่เข้ามาในเวอชัน 2.0 ซึ่งเป็นลูกเล่นใหม่ที่ออกมาเติมสีสันให้ "Jet" หวือหวามีชีวิตชีวามากขึ้น ก่อนการใช้งานให้ผู้ใช้เข้าไปตั้งค่าโดยกดปุ่มเมนู(ปุ่มกลาง) เลือกการตั้งค่า > การตั้งค่าโมชัน เมื่อเข้ามาในหน้าการตั้งค่าจะพบกับ หมวดย่อยให้เลือกปรับค่าทั้ง 4 หมวดย่อย ได้แก่ 1.โมชันเกท เป็นโมชันที่ให้เลือกใช้งานฟังก์ชันต่างๆตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ซ้าย กับขวา นั่นหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถเลือกฟังก์ชันได้เพียง 2 ฟังก์ชันเท่านั้น จากที่ให้มาทั้งหมด 5 ฟังก์ชัน ได้แก่ กล้องถ่ายรูป, เพลง, วิทยุ FM, โมชันไดอัล และโมชันเกม



2. การพักเสียงชั่วคราว โมชันนี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ เสียงเรียกเข้าปัจจุบันจะถูกปิดชั่วคราว โดยรูปแบบเสียงไม่ได้เปลี่ยนแปลง ให้เลือกใช้งานโดยการกดเปิด-ปิด 3. การใช้ลำโพงขยายเสียง โมชันนี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อ ระหว่างที่โทรศัพท์หากย้ายโทรศัพท์ห่างออกจากใบหน้า และนำมาวางไว้บนพื้นราบเครื่องจะทำการเปิดลำโพงขยายเสียงให้อัตโนมัติ ให้เลือกใช้งานโดยการกดเปิด-ปิด 4. การเรียนรู้โมชัน เป็นตัวช่วยสอนการใช้งานโมชันต่างๆ ได้แก่ การเขย่า, การสัมผัส 2 ครั้ง และการสะบัด ให้เลือกใช้งานโดยการกดเปิด-ปิดเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าต้องกดเพื่อบันทึกเพื่อยืนยันทุกครั้ง

ก่อนไปเริ่มเล่นแต่ละฟังก์ชันเรามาทำความรู้จักสัญญาณสื่อสารระหว่างเครื่องกับผู้ใช้งานกันก่อน ซึ่งมีสัญญาณสื่อสารดังต่อไปนี้ เขย่าเครื่องมากกว่า 3 ครั้ง หมายถึงการจบการทำงานของฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่, สัมผัสเครื่อง 2 ครั้งภายใน 1 วินาที หมายถึงการหยุดพัก, เล่น/พัก ในฟังก์ชันเครื่องเล่นเพลง หรือในฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพ, สะบัดเครื่องไปทางซ้ายแล้วกลับทันที หมายถึงย้อนกลับเพลงก่อนหน้าที่เพิ่งเล่นไป และสะบัดเครื่องไปทางขวาแล้วกลับทันที หมายถึงเพลงถัดไป

เมื่อตั้งค่า และรู้จักสัญญาณการสื่อสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่นี้ก็ได้เวลาลองของโมชันกันบ้าง ซึ่งทีมงานขอยกตัวอย่างการใช้งานดังต่อไปนี้ ตั้งค่าโดยการเลือกฝั่งซ้ายให้เป็นฟังก์ชันเครื่องเล่นเพลง ส่วนด้านขวาให้เป็นฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพ เริ่มการใช้งานโดยการกดปุ่มอินเตอร์เฟสที่อยู่เหนือปุ่มชัตเตอร์ทางข้างเครื่องด้านขวาค้างไว้ หน้าจอจะปรากฏลูกบาศก์ซึ่งมีฟังก์ชันที่ได้ตั้งค่าไว้อยู่ 2 ด้าน ด้านล่างมีข้อความบอกชัดเจนว่าให้สะบัดตัวเครื่องไปในทิศทางที่ค้องการใช้ฟังก์ชันนั้นๆ กล่าวคือ หากสะบัดไปทางซ้ายก็จะเข้าฟังก์ชันเครื่องเล่นเพลง แต่ถ้าสะบัดไปทางขวาก็จะเข้าฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพตามที่ได้ ตั้งค่าไว้ใน "โมชันเกท"



ฟังก์ชันเครื่องเล่นเพลงสามารถสั่งงานให้เล่นเพลงโดยการสัมผัสเครื่อง 2 ครั้ง เช่นเดียวกับหยุดพักเพลงชั่วคราวก็ทำในลักษณะเดียวกัน ส่วนถ้าอยากจะเปลี่ยนเพลงถัดก็ให้สะบัดเครื่องไปทางขวา 1 ครั้ง ถ้าจะย้อนกลับไปฟังเพลงก่อนหน้านี้ก็ให้สะบัดไปทางซ้าย 1 ครั้ง และถ้าจะจบฟังก์ชันนี้ก็ให้เขย่าเครื่อง 3 ครั้ง สำหรับฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพนั้นสามารถเรียกใช้งาน โดยการสัมผัสเครื่อง 2 ครั้ง เพื่อทำการถ่ายภาพ กล้องจะนับเวลาถอยหลัง 3 วินาที จากนั้นก็จะทำการโฟกัสวัตถุพร้อมถ่ายภาพให้อัตโนมัติ และถ้าจะจบฟังก์ชันนี้ก็ให้เขย่าตัวเครื่อง 3 ครั้งเช่นเดียวกัน



Smart Unlock

รุ่นนี้มีฟังก์ชัน "Smart Unlock" ติดมาให้ใช้งานกันด้วย ซึ่งฟังก์ชันนี้ทางทีมงานเคยรีวิวกันให้ชมไปแล้วใน "Samsung Star" จึงไม่ขออธิบายถึงวิธีการใช้งานอีก แต่ขอสรุปรวบลัดให้ทราบทั่วกันว่า เป็นฟังก์ชันทางลัดที่ช่วยอำนวยความสะดวกพาเข้าฟังก์ชันต่างๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วเขียนตัวอักษรบนหน้าจอตามที่กำหนดไว้ เครื่องก็จะทำตามคำสั่งทันที แต่จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อหน้าจอล็อกอยู่เท่านั้น และเลือกใช้งานได้เพียงฟังก์ชันเดียว



ในส่วนของการตั้งค่านั้นยังคงเหมือนเดิม กล่าวคือ ผู้ใช้ต้องเข้าไปเซ็ตค่าเพื่อทำการตกลงกับฟังก์ชันก่อนว่า จะใช้ตัวอักษรใดเป็นรหัสในการสื่อสารระหว่างกัน โดยการเข้า เมนู > การตั้งค่า > สมาร์ทอันล็อก เมื่อเข้ามาในฟังก์ชันให้กดคำสั่ง "เปิด" เพื่อเปิดใช้งานการปลดล็อกก่อน จากนั้นจะมีฟังก์ชันให้เลือกปรับค่าอยู่ด้วยกัน 3 หมวดหลัก ได้แก่ 1. ปลดล็อกโทรศัพท์ เป็นการปลดล็อกโทรศัพท์เท่านั้น 2. โทรด่วน เป็นการกำหนดรายชื่อบุคคลที่ต้องติดต่อบ่อยๆ



สุดท้ายส่วนที่ 3. แอปพลิเคชัน
เป็นการกำหนดการเข้าแอปพลิเคชัน ซึ่งรุ่นนี้ได้เพิ่มหมวดย่อยมาให้เลือกใช้งานถึง 2 เท่า จากเดิมที่มีตัวเลือก 5 หมวดย่อยแต่ รุ่นนี้ให้มา 10 หมวดย่อย ยังไม่นับรวมหมวดยิบย่อยในบางหมวดลงไปอีก ประกอบไปด้วย บันทึกข้อมูลการใช้, สมุดโทรศัพท์, เครื่องเล่นเพลง, เบราว์เซอร์, ข้อความ, ไฟล์ส่วนตัว, ออแกไนเซอร์ (มีให้ลือกหมวดย่อยๆดังนี้ ปฏิทิน, สมุดบันทึก, สิ่งที่ต้องทำ, เวลาโลก, เครื่องคิดเลข, การเปลี่ยนหน่วย), แอปพลิเคชัน (มีให้ลือกหมวดย่อยๆดังนี้ คอมมิวนิตี้, Dynamic Canvas, วิทยุ FM, แลกเปลี่ยน ActiveSync, การแก้ไขวิดิโอ, เครื่องบันทึกเสียง, บลูทูธ, ซิงโครไนซ์, การตั้งเวลา, การจับเวลา, WiFi), การเตือน และการตั้งค่า

Multi-Task



นอกจากนี้ "Samsung Jet" ยังรองรับการทำงานแบบ "Multi-Task" ที่สามารถเปิดใช้งานได้สูงสุดถึง 7 โปรแกรมในเวลาเดียวกัน ซึ่งภายหลังจากการทดลองใช้งาน สามารถเปิดได้มากกว่า 7 โปรแกรมโดยที่ไม่พบอาการหน่วงของเครื่องแต่อย่างใด ส่วนวิธีการปิดโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน สามารถทำได้โดยการกดที่ปุ่มเมนูค้างไว้ เครื่องจะเข้าสู่ระบบ "การจัดรายการทำงาน" ที่แสดงได้ทั้งแบบ 3D และตาราง สั่งปิดทีละโปรแกรมที่ "กากบาทมุมขวาบน" หรือจะปิดโปรแกรมที่เปิดอยู่ทั้งหมด โดยการกดปุ่ม "จบแอปพลิเคชันทั้งหมด" ด้านล่างซ้ายสุด



Camera

รู้จักลูกเล่นการใช้งานใหม่ๆที่ใส่มาในรุ่นนี้กันแบบไม่มีกั๊กแล้ว คราวนี้ถึงคิวลูกเล่นด้านมัลติมีเดียกันบ้าง เริ่มกันที่เมนูกล้อง (Camera)ก่อนเลย โดยกล้องหลักทางด้านหลังรุ่นนี้ให้ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมแฟลชแบบ 'Dual Power LED' ส่วนกล้องตัวที่สองทางด้านหน้าไม่สามารถใช้ถ่ายรูปได้ เอาไว้ใช้สำหรับ Video Call ของระบบ 3G เพียงอย่างเดียว โดยฟังก์ชันกล้องหลักมีให้เลือกใช้งานทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ โหมดถ่ายภาพนิ่ง โหมดซีน(Scn) และโหมดวิดิโอ



เริ่มจากโหมดถ่ายภาพนิ่ง สามารถเลือกค่าการใช้งานได้หลายแบบ ได้แก่ ถ่ายแบบช็อตเดียว, ถ่ายแบบตรวจจับรอยยิ้ม หรือสไมล์ช็อต สามารถจับความเคลื่อนไหวบนใบหน้าได้ที่มีรอยยิ้มอัตโนมัติ, ถ่ายต่อเนื่องแบบกดชัตเตอร์ค้างไว้ (สูงสุด 9 ภาพ), พาโนรามาแบบ 4 ช็อต ซึ่งรุ่นนี้มีให้เลือกปรับทิศทางก่อนว่าจะเริ่มจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย และสามารถถ่ายพาโนรามาแบบแนวตั้งได้ด้วยมีให้เลือกถ่ายจากล่างขึ้นบน หรือจากบนลงล่าง โดยหลังจากกดถ่ายภาพเริ่มต้นกล้องจะถ่ายให้อัตโนมัติ เพียงแค่เลื่อนตัวกล้องไปด้านข้างตามลูกศรที่ปรากฏบนจอภาพ เพื่อถ่ายภาพต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนครบตามช็อตที่ได้กำหนด จากนั้นเครื่องจะประมวลผลเชื่อมต่อภาพให้เอง, โมเสกมีให้เลือกอยู่ 18 แบบ, และเฟรมมีให้เลือก 20 รูปแบบ



"การตั้งค่า" สามารถปรับค่าได้ดังนี้ เริ่มจากการตั้งเวลา มีให้เลือก 2, 5 และ10 วินาที, ความละเอียดมีให้เลือกปรับ 7 แบบ ได้แก่ 5 ล้านพิกเซล(2560x1920), 3 ล้านพิกเซล(2048x1536), 2 ล้านพิกเซล(1600x1200), 0.3 ล้านพิกเซล(640x480), แบบไวด์สกรีน 4 ล้านพิกเซล(2560x1536), 2 ล้านพิกเซล(1600x960) 0.4 ล้านพิกเซล(800x480), สมดุลสีขาว มีให้เลือกปรับ 5 แบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, แสงจ้า, อินแคนเดสเซนต์, ฟลูออเรสเซนต์ และสว่างน้อย, เอฟเฟกต์มีให้เลือกปรับ 4 แบบ ได้แก่ ไม่มี, ภาพขาวดำ, ซีเปีย และเนกาทีฟ, การวัดแสงมีให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ เมทริกซ์, เน้นตรงกลาง และตำแหน่ง, คุณภาพของรูปภาพมีให้เลือกใช้งาน 4 แบบ ได้แก่ ดีที่สุด, ดี, ปกติ และพื้นฐาน



นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกปรับโหมดโฟกัส 3 แบบ ได้แก่ ออโต้โกัส มาโคร ตรวจจับใบหน้า, สามารถเลือกใช้ระบบป้องกันสั่นไหวได้, WDR สำหรับเคลียฉากหลังภาพให้สม่ำเสมอ, ตรวจการกระพริบตา ส่วนคุณภาพของรูปภาพมีให้เลือกใช้งาน 4 แบบ ได้แก่ ดีที่สุด, ดี, ปกติ และพื้นฐาน การปรับแต่งสีของภาพมีให้เลือกปรับ 3 อย่าง คือ ความเข้ม, ระดับสี และความคมชัด



ส่วนการปรับค่าการใช้งานทั่วไปนั้นมีให้เลือกปรับค่า ได้แก่ เปิด-ปิดการใช้งานไกด์ไลน์, กำหนดการแสดงผล มีให้เลือกใช้งานดังนี้ เปิด, ปิด และ 2 วินาที, เปิด-ปิดการเชื่อมต่อ GPS, เสียงชัตเตอร์มีให้เลือกใช้งานดังนี้ เสียง 1, 2, 3 และปิดเสียง และส่วนสุดท้ายเป็นการระบุแหล่งที่เก็บภาพ ว่าจะให้เก็บลงเครื่อง หรือเก็บลงบนการ์ดความจำ



นอกจากนี้ บนหน้าจอถ่ายภาพยังมีเลือกปรับการใช้งานแฟลช (อัตโนมัติ, เปิด และปิด) กับการปรับปริมาณการรับแสง ว่าจะให้กล้องรับแสงมากหรือน้อย



ถัดมาใน"โหมดซีน" มีให้เลือกใช้ทั้งหมด 14 รูปแบบ ได้แก่ ออโต้, ถ่ายบุคคล, ภาพวิว, กลางคืน, กีฬา, ในร่ม, ชายหาดหรือหิมะ, พระอาทิตย์ตก, พระอาทิตย์ขึ้น, สีสันของฤดูใบไม่ร่วง, ดอกไม้ไฟ, ตัวอักษร, แสงเทียน และแสงพื้นหลัง เรียกได้ว่าใส่มาให้ใช้กันแบบเต็มที่ไม่มีกั๊ก ซึ่งคล้ายกับรุ่น "Ultra Touch" ที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพตามที่เคยรีวิวให้ชมไปแล้วก่อนหน้านี้



สุดท้าย"โหมดกล้องวิดิโอ" มีให้เลือกบันทึกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ปกติ, MMS (เป็นการจำกัดสำหรับ MMS โดยเฉพาะ) และเคลื่อนไหวช้า สามารถซูมภาพขณะบันทึกในโหมดนี้ได้



"การตั้งค่า" ในโหมดวิดิโอสามารถตั้งค่าได้ดังนี้ เริ่มจากการตั้งเวลา มีให้เลือก 2, 5 และ10 วินาที, ความละเอียดมีให้เลือกปรับ 4 แบบ ได้แก่ ไวด์สกรีน 0.3 ล้านพิกเซล(720x480), 0.3 ล้านพิกเซล(640x480), 320x240 พิกเซล และ176x144 พิกเซล, สมดุลสีขาว มีให้เลือกปรับ 5 แบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, แสงจ้า, อินแคนเดสเซนต์, ฟลูออเรสเซนต์ และสว่างน้อย, เอฟเฟกต์มีให้เลือกปรับ 4 แบบ ได้แก่ ไม่มี, ภาพขาวดำ, ซีเปีย และเนกาทีฟ, เปิด-ปิด WDR, คุณภาพวิดิโอมีให้เลือกใช้งาน 3 แบบ ได้แก่ ดี, ปกติ และพื้นฐาน การปรับแต่งสีของภาพมีให้เลือกปรับ 3 อย่าง คือ ความเข้ม, ระดับสี และความคมชัด



ส่วนการปรับค่าการใช้งานทั่วไปมีให้เลือกปรับค่า ได้แก่ เปิด-ปิดการใช้งานไกด์ไลน์, เปิด-ปิดการบันทึกเสียง และการระบุแหล่งที่เก็บภาพ ว่าจะให้เก็บลงเครื่อง หรือเก็บลงบนการ์ดความจำ

ภายหลังจากการใช้งานพบว่ากล้องสามารถตอบสนองได้ไว กดเข้าเมนูใช้งานปุ๊บเครื่องก็พร้อมใช้งานทันที แต่ยังพบปัญหาการประมวลภาพภายหลังกดปุ่มชัตเตอร์ที่มีอาการหน่วงให้เห็นอยู่เล็กน้อย ฟังก์ชันการใช้งานภายในใส่มาให้ใช้อย่างครบเครื่อง คุณภาพที่ได้จากการถ่ายภาพนิ่งจัดอยู่ในระดับปานกลาง บางภาพไม่ค่อยคมชัดเท่าไร สีสันที่ได้ค่อนข้างสดตรงกับธรรมชาติ เมื่อใช้งานไปสักพักตัวเครื่องมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่าเห็นได้ชัด ส่วนภาพที่ได้จากการบันทึกในโหมดวิดิโออยู่ในระดับกลางๆ

Music



ด้าน"เครื่องเล่นเพลง"ของรุ่นนี้มีฟังก์ชันการใช้งานไม่ต่างจากทัชโฟนของซัมซูงก่อนหน้านี้สักเท่าไร ซึ่งเมื่อเรียกใช้เมนูนี้หน้าจอแรกที่ปรากฏ ก็ยังคงเป็นฟังก์ชันตัวเลือกใช้งานว่าต้องการใช้งานในลักษณะไหนได้แก่ แทร็กทั้งหมด, รายการเพลง, นักร้อง, อัลบั้ม, ประเภท และผู้แต่ง โดยสามารถเลือกเพิ่มเติม หรือปิดการใช้งานบางฟังก์ชันได้ ด้วยการเลือกที่ การตั้งค่า > กดแถบเมนูเพลง จากนั้นจะปรากฏรายการต่างๆออกมาให้เลือก (ถ้าติ๊กเครื่องหมายถูก แสดงว่าต้องการเลือกให้ฟังก์ชันนั้นแสดงผล) และในส่วนของการคั้งค่านี้เองยังสามารถตั้งได้ว่า จะให้มีเปิดการเล่นบนพื้นหลังหรือไม่ รวมถึงมีให้เลือกเอฟเฟกต์เพลง และการแสดงภาพมีให้เลือก 3 ชนิดด้วยกัน



เมื่อเลือกรูปแบบการใช้งานได้แล้วก็กดเลือกเพลงที่ต้องการเล่น เครื่องจะเข้าสู่เครื่องเล่นเพลงและเล่นเพลงโดยอัตโนมัติ การปรับค่าต่างๆสามารถทำได้สะดวกผ่านหน้าเครื่องเล่นเพลงได้เลย ประกอบไปด้วย ฟังก์ชันใช้งานเสียงรูปแบบ 5.1 แชนแนล อีควอไลเซอร์ที่มีให้ปรับกว่า 9 รูปแบบ ได้แก่ ปกติ, Rock, Jazz, Live, Classic, Mega Bass, Concert Hall, Wow HD, Bass Enhancement, Music Clarity และExternalisation, การทำงานแบบเล่นวนซ้ำ(เล่นวน 1 รอบ เล่นแบบวนซ้ำไปเรื่อยๆ และเล่นวนซ้ำเฉพาะเพลงที่เลือก) สุดท้ายปรับการสลับเล่นเพลงแบบสุ่ม

หลังการใช้งานเมนูเพลงพบว่า ฟังก์ชันต่างๆที่ใส่มาสามารถใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน เสียงที่ขับออกมาทางลำโพงด้านหลังค่อนข้างชัด และใสพอสมสมควร เมื่อลองเร่งจนสุดไม่พบเสียงแตกพร่าให้ได้ยิน โทนเสียงที่ขับผ่านทางลำโพงออกแหลมเป็นส่วนใหญ่ และมีมิติชวนน่าฟัง ซึ่งถือว่าสอบผ่านสำหรับความบันเทิงด้านเสียงเพลง

FM Radio



"วิทยุ FM" สามารถใช้งานได้เมื่อต่อเข้ากับหูฟังสมอล์ทอล์กเท่านั้น โดยเมื่อกดเข้าสู่เมนูนี้จะพบกับฟังก์ชันการใช้งานต่างๆอยู่บนพื้นที่เดียวกัน ประกอบไปด้วย ส่วนบนมีให้เลือกใช้งานฟังก์ชัน "AF" กับช่องทางการรับฟังเสียง ว่าจะฟังผ่านลำโพง หรือหูฟัง ถัดลงมาตรงกลางเป็นตัวเลขบอกคลื่นความถี่ทศนิยม 2 ตำแหน่ง หน้าปัดวิทยุสามารถใช้นิ้วสัมผัสเลื่อนหาช่องได้เลย กดปุ่มเล่น(กลาง)ทางด้านล่างเพื่อให้วิทยุเริ่มทำงาน ส่วนการเปลี่ยนคลื่นให้กดปุ่มลูกศรที่อยู่ขนาบด้านซ้าย และขวา หรือจะกดให้ค้นหาคลื่นความถี่แบบอัตโนมัติ ด้วยการเลือกที่เพิ่มเติม > เลือกค้นหา



"การตั้งค่า" ของวิทยุสามารถปรับค่าได้ดังนี้ การเล่นแบ็กกราวด์ เป็นการเซ็ตค่าให้วิทยุทำงานอยู่แม้จะกลับออกไปยังหน้าหลัก, แสดงชื่อสถานี ว่าจะให้แสดงชื่อหรือไม่ และเปลี่ยนความถี่ใหม่อัตโนมัติ, คุณภาพการบันทึก มีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ สูง, ปกติ และต่ำ สุดท้ายตั้งชื่อพื้นฐาน

Design of Samsung Jet S8003

Samsung Jet เป็นทัชโฟนที่ถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมแท่งตัดขอบโค้งมนทั้ง 4 ด้าน ใช้วัสดุทำจากพลาสติกเกือบทั้งหมด งานประกอบทำได้เรียบเนียนดูแน่นหนาดี ตัวเครื่องมีขนาด 108.8 x 53.5 x 11.9 ม.ม. น้ำหนัก 110 กรัม หลังจากลองสัมผัสถือว่าจับได้กระชับมือ ตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เทอะทะจนไม่อยากพกติดตัว และน้ำหนักก็ไม่ได้มากตามขนาดตัวเครื่อง



ด้านหน้า : พื้นผิวส่วนด้านบนกินลงไปถึงรอบหน้าจอแสดงผลมีลักษณะมันวาว ไล่จากส่วนบนสุดจะพบลำโพงสีเงินวางเด่นอยู่ตรงกึ่งกลาง ถัดเยื้องลงมาทางด้านขวาเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ใกล้กันเป็นเลนส์กล้องหน้าขนาดเล็ก สำหรับใช้ Video Call อย่างเดียว ถัดลงมาเป็นยี่ห้อ "SAMSUNG" วางพาดอยู่ตรงกึ่งกลาง ถัดมาทางด้านล่างเป็นจอแสดงผลแบบทัชสกรีน WVGA AMOLED 16 ล้านสี ขนาด 3.1 นิ้ว (480 x 800 พิกเซล)



ใต้จอแสดงผล ไล่จากซ้ายไปขวามีปุ่มรับสาย-โทรออก, ปุ่มเมนู(กดค้างเข้า Multi-Task) และปุ่มวางสาย (กดค้างเปิด-ปิดเครื่อง) วางเรียงตามลำดับอยู่ด้านล่างสุดของเครื่อง การดีไซน์ปุ่มกดดูหรูหราน่าใช้งาน พื้นผิวถูกออกแบบให้เป็นลายเส้นเล็กๆแนวขวางมีลักษณะสากมือเล็กน้อย



ด้านหลัง : พลิกมาดูด้านหลังของเครื่องจะพบกับเลนส์ถ่ายภาพ พร้อมแฟลชแบบ Dual Power LED วางอยู่ในกรอบมุมบนทางด้านซ้าย ใต้กรอบมีข้อความการันตีความละเอียด "5 MEGA AUTO FOCUS" ถัดลงมาด้านซ้ายเกือบล่างสุดมียี่ห้อ "SAMSUNG" วางพาดอยู่ ส่วนล่างสุดมีลำโพงเสียงวางไว้อยู่ตรงกึ่งกลางของเครื่อง ลักษณะพื้นผิวทางด้านนี้เป็นแบบมันวาว ยามต้องแสงจะเห็นลายภายในซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นสีแดง บ่งบอกถึงความร้อนแรงของเครื่องได้เป็นอย่างดี



เมื่อเปิดฝาหลังออก ไล่จากส่วนบนด้านขวาเลนส์กล้องเป็นช่องใส่เมมโมรีการ์ดแบบ microSD สามารถใส่ได้สูงสุดถึง 16 GB ถัดลงมาใต้เลน์กล้องเป็นที่สำหรับใส่ซิมการ์ด ถัดมาด้านล่างเป็นช่องวางแบตเตอรี่ชนิด Li-Ion 1100 mAh



ด้านขวา : ถูกออกแบบให้มีปุ่มล็อกหน้าจอไว้ด้านบนเครื่อง(กด 1 ครั้งล็อกเครื่อง และกดค้างเพื่อปลดล็อกเครื่อง) ถัดลงมาด้านล่างมีปุ่มเข้าใช้งานฟังก์ชันMotion กับMedia Gate 3D ใกล้กันเป็นปุ่มกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ-วิดีโอ (กดค้างเข้าฟังก์ชันถ่ายภาพ)



ด้านซ้าย : ด้านบนสุดเป็นช่องสำหรับร้อยสายคล้องมือ-คอ ถัดมาใกล้กันเป็นปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียงในเมนูเพลง และขยายภาพเข้า-ออกในเมนูกล้อง




ด้านบน และด้านล่าง : ด้านบนมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB 2.0 สำหรับใช้โอนถ่ายข้อมูล ชารจ์แบตฯ พร้อมฝาปิดมีสัญลักษณ์บอกชัดเจนบนฝาวางอยู่กึ่งกลางเครื่อง ถัดมาด้านขวาเป็นช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมาใกล้กันมีรูไมโครโฟนเล็กๆสำหรับบันทึกเสียง ส่วนทางด้านล่างมีเพียงช่องสำหรับเปิดฝาหลัง กับรูไมโครโฟนสำหรับสนทนาวางค่อนไปทางซ้ายเท่านั้น

บทสรุป

สำหรับ "Samsung Jet S8003" ต้องบอกพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เลยในเรื่องของความไว ซึ่งสมกับชื่อที่ทางซัมซุงตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะสื่อความหมายในเรื่องนี้ และก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยภายหลังได้สัมผัส ทดสอบ ทดลองต่างๆนานา รุ่นนี้ก็สามารถทำได้ครบถ้วนกระบวนความ แม้ว่าบางจุดอาจจะยังมีข้อติงอยู่บ้างแต่สิ่งเหล่านั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านั้น หากเทียบกับจุดหลักๆที่เป็นตัวชูโรงของรุ่นนี้

การเชื่อมต่อของรุ่นนี้มีมาให้เลือกใช้อย่างครบครันตั้งแต่ เชื่อมต่อบลูทูธ 2.1, Wi-Fi 802.11 b/g, ช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. เชื่อมต่อผ่านพอร์ต microUSB 2.0 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางเมนู Microsoft ActiveSync ที่มีมาให้อยู่ภายในตัวเครื่องด้วย ทำให้ใช้งานได้ง่ายโดยประสิทธิภาพไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนสักเท่าไร

ด้านการใช้งานสามารถตอบสนองการสัมผัสนิ้วมือได้ค่อนข้างดี เรื่องความไวไม่ต้องพูดถึง ส่วนเรื่องอินเตอร์เฟสใหม่ที่ใส่มาในรุ่นนี้นั้นถือว่าทำได้ประทับใจ ทั้งการดีไซน์ฟังก์ชันที่ดูสวยงาม และลูกเล่นใหม่ๆที่ตอบสนองได้ค่อนข้างดีเมื่อเรียกใช้งาน ในเรื่องของวัสดุและการประกอบเครื่องทำได้แน่นหนาดี ส่วนเรื่องของพลังงานแบตฯทีให้มาใช้ 1100 mAh ถือว่าเหลือเฟือ ใช้งานแบบเต็มที่ได้ 2 วันเต็มๆ ซึ่งตอนแรกเห็นซีพียูแรงขนาดนี้ หลายคนก็คงคิดแบบเดียวกันกับเหล่าทีมงานว่าต้องกินแบตฯแน่ๆ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยครับ จุดนี้ทำได้น่าประหลาดใจมากๆ ด้านเสียงสนทนาดังรับ-ฟังได้ชัดเจนดี

ขอชม
- ความไวในการทำงานของเครื่อง รวมถึงความลื่นไหลทำได้สมกับชื่อ "Jet"
- ลูกเล่นฟังก์ชัน รวมถึงช่องต่อต่างๆที่ใส่มาให้ครบถ้วนสมราคา
- แบตฯที่ให้มาสามารถใช้งานได้ยาวกว่าที่คาดไว้

ขอติ
- ตัวเครื่องที่ดูมันวาวทำให้เกิดคราบนิ้วมือได้ง่าย
- โหมดกล้องถ่ายภาพทำให้เครื่องมีอุณหภูมิสูงเมื่อใช้งานไปสักระยะนึ่ง
- ความละเอียดของกล้องที่ให้มา 5 ล้านพิกเซล เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ออกมายังไม่คมเท่าไรนัก

คุณสมบัติทั่วไปของ Samsung Jet S8003


ระบบเครือข่าย : GSM 850/900/1800/1900 MHz
รองรับ : GPRS/EDGE, HSDPA 3.6Mbps (900, 2100 เมกะเฮิร์ต)
หน้าจอ : WVGA AMOLED 16 ล้านสี ขนาด 3.1 นิ้ว (480 x 800 พิกเซล)
ขนาดตัวเครื่อง : 108.8 x 53.5 x 11.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 110 กรัม
หน่วยความจำภายใน : 2 และ 8 GB
หน่วยความจำภายนอก : รองรับ MicroSD สูงสุด 16 GB
เสียงเรียกเข้า : Polyphonic, MP3
กล้องด้านหลัง : 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมแฟลช Dual Power LED
กล้องด้านหน้า : มี (Video Call)
เครื่องเล่น MP3 Player : มี
วิทยุ FM Radio : มี
เชื่อมต่อ : บลูทูธ 2.1, microUSB 2.0, Wi-Fi 802.11 b/g และช่องต่อหูฟัง 3.5 มม.
ระบบค้นหาตำแหน่ง : มี
แบตเตอรี่ : Li-ion 1100 mAh

สำหรับราคาจำหน่ายของ Samsung Jet S8003 ราคาเปิดตัว 16,500 บาท

Company Related Links :
Samsung











ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายเมื่อใช้เอฟเฟกต์
ตัวอย่างภาพถ่ายเมื่อค่าสมดุลสีขาว (WB)
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดมาโคร
ตัวอย่างภาพถ่ายเมื่อใช้โมเสก
ตัวอย่างภาพถ่ายเมื่อใช้เฟรมที่ให้มา
ตัวอย่างภาพถ่ายพาโนรามาแนวนอน
ตัวอย่างภาพถ่ายพาโนรามาแนวตั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น