xs
xsm
sm
md
lg

Review : HP Pavilion dv7 ความบันเทิงสมบูรณ์แบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อาจจะต้องบอกกันก่อนว่าโน้ตบุ๊กที่นำมารีวิวในช่วงนี้จะอยู่ระดับไฮ - เอนท์ไปซักหน่อย เนื่องจากแต่ละค่ายขยันส่งรุ่นใหญ่มาประชันกันเหลือเกิน และแน่นอนว่าต้องเป็นเซนทริโน 2 กันหมดแล้ว

สำหรับท่าานผู้อ่านที่สนใจในตัว เซนทริโน 2 คงต้องรอกันซักพักเมื่อผู้ผลิตต่างๆเริ่มส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดมากขึ้น น่าจะมีการดัมป์ราคาลงมาอยู่ในระดับ 2 หมื่นปลายๆ ให้ท่านผู้อ่านได้มาใช้กันอย่างสบายตัว

ส่วนคู่แข่งคนสำคัญของ HP อย่าง ASUS ตอนนี้ก็ไม่ได้เงียบหายไปไหนนะครับ กำลังพัฒนาระบบที่จะนำมาใช้ควบคู่กับเซนทริโน 2 ที่ชื่อ Express Gate โดยอาจจะเรียกได้ว่าเป็นอาวุธลับของ ASUS ที่จะนำคู่แข่งอื่นๆในยุคสมัยของแพลตฟอร์มอย่างเซนทริโน 2 ก็เป็นได้ นอกจากนี้ทั้ง Toshiba, BenQ หรือแม้แต่ Dell เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจออกโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆเข้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์เรื่อยๆ ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆคงจะได้มีโน้ตบุ๊กดีๆราคาไม่แพงใช้กันมากขึ้น

มาเข้าเรื่องกันซะที ทางเอชพีหวังที่จะให้ Pavilion dv7 เป็นตัวนำร่องเข้าสู่การยุคสมัยที่จะเข้าสู่การใช้งานโน้ตบุ๊กแทนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในบ้านก็เป็นได้เพราะจากราคา และประสิทธิภาพที่ได้นั้นไม่แพ้กับพีซีคุณสมบัติดีๆเครื่องนึงเลยทีเดียว บางท่านอาจจะคิดว่าราคาระดับนี้ไปซื้อชุดโฮม-เทียเธอร์ดีๆซักชุดไปเลยไม่ดีกว่าหรือ เรื่องนี้คงจะอยู่ที่การตัดสินใจของตัวท่านเองเพียงแต่อยากให้ลองดูความสามารถของโน้ตบุ๊กตัวนี้กันก่อนจะดีกว่า

Design of HP Pavilion dv7

สำหรับ HP Pavilion dv7-1007TX ทางเอชพีบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Liquid Metal ทำให้ตัวเครื่องมีลวดลายในสไตล์ ที่เรียกว่า Mesh เมื่อสังเกตดูจะพบว่าตัวเครื่องออกแนวเรียบๆแต่แฝงด้วยลวดลายที่โฉบเฉี่ยวจากสีเงินบริเวณขอบ และด้านในเครื่อง ส่วนตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียมอัลลอย, โครเมี่ยม และพลาสติกผสมคุณภาพสูง

Pavilion dv7-1007TX จัดเป็นโน้ตบุ๊กแนว Home Entertainment ที่มีขนาดใหญ่เพราะมีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 396 x 285 x 34/42 มิลลิเมตร จากส่วนที่บางสุด และหนาสุดตามลำดับ ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 3.5 กิโลกรัม ถือเป็นโน้ตบุ้กขนาดใหญ่ที่ไม่เหมาะกับการพกพาไปไหน แต่น่าจะแฝงประสิทธิภาพในการใช้งานไม่ต่างจากพีซีเลย



เริ่มจากในส่วนหลังของหน้าจอจะพบกับสัญลักษณ์ HP อยู่บริเวณมุมขวาล่างทีทางเอชพีเรียกว่า 'magic chrome' ที่เมื่อเปิดเครื่องใช้งานจะมีไฟ LED ทำให้สัญลักษณ์ดังกล่าวสว่างขึ้นเรื่อยๆจนเครื่องพร้อมใช้งาน ส่วนบริเวณอื่นจะเรียบไปด้วยสีดำสนิทมีลักษณะเป็นมันเงา



ในส่วนของหน้าจอนั้นมีขนาดถึง 17 นิ้ว โดยเป็นแบบไวด์สกรีน ที่เรียกว่า HP BrightView Infinity Glass ลักษณะคือเป็นหน้าจอแบบ WXGA แล้วหุ้มด้วยพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มความคมชัดแม้มองจากด้านข้าง บริเวณด้านบนของหน้าจอจะมีกล้องเว็บแคม และช่องไมโครโฟน ส่วนบริเวณล่างของหน้าจอจะมีโลโก้ hp อยู่ตรงกลาง โดยความละเอียดของหน้าจอจะอยู่ที่ 1440 x 900 อาจจะไม่สามารถเล่นหนังแบบ Full HD ที่ 1080p ได้เต็มที่นักแต่ตรงจุดนี้สามารถต่อออกโทรทัศน์ผ่านพอร์ต HDMI ได้



ส่วนข้อพับมีขนาดใหญ่รองรับตามขนาดของหน้าจอ ใช้วัสดุที่แข็งแรงอย่างโครเมี่ยมในการยึด ถัดลงมาดูที่ตัวเครื่องเริ่มจากส่วนบนสุดจะเป็น ปุ่มสำหรับสั่งการต่างๆบนหน้าปัดโครเมี่ยม ที่เป็นระบบสัมผัสทั้งหมดยกเว้นปุ่ม เปิด - ปิดเครื่องบริเวณด้านขวา ส่วนปุ่มอื่นๆจะมี ปุ่มลัดเข้าสู่โปรแกรม Quick Play ปุ่มปิดเสียง ปุ่มเพิ่มลดเสียง ปุ่มควบคุมเครื่องเล่น และปุ่มเปิด - ปิดการเชื่อมต่อทั้งไวเลส - บลูทูธในปุ่มเดียว

บริเวณที่ติดกับปุ่มลัดต่างๆจะเป็นลำโพงสเตอริโอจากผู้ผลิตเครื่องเสียงชื่อดังอย่าง Altec Lansing ที่เชื่อมลงมาถึงบริเวณคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ 101 ปุ่ม โดยมีเพิ่มมาในส่วนของปุ่มตัวเลข(Numeric keypad) ทางด้านขวาเช่นเดียวกับ คีย์บอร์ดมาตรฐานของเครื่องพีซีทั่วไป ไฟแสดงสถานะของ Numlock และ Caps lock จะซ่อนอยู่บริเวณขอบของคีย์บอร์ดใกล้ๆกับปุ่มดังกล่าว



ตัวคีย์บอร์ดมีสีเงินแบบเดียวกับตัวเครื่อง ลักษณะคงทนน่าใช้งาน ซึ่งการใช้งานอาจจะไม่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่ชอบคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊กแบบปกติ แต่เมื่อใช้ไปซักพักก็สามารถใช้งานได้คล่องตัว แป้นพิมพ์มีขนาดใหญ่รับต่อตัวเครื่องทำให้ง่ายต่อการใช้งาน อาจจะใช้งานยากซักหน่อยตรงส่วนของปุ่มทิศทางที่มีขนาดเล็ก แต่โดยรวมถือว่าโอเค



ถัดลงมาด้านล่างจะมี ทัชแพด สีเงินสะท้อนแสงอีกเช่นเดียวกัน ตัวทัชแพดมีขนาดใหญ่พอสมควร บริเวณด้านข้างมี สัญลักษณ์บอก Scroll Wheel ส่วนปุ่มกดจะอยู่แยก ลงมาด้านล่างลักษณะคล้ายกัน ตัวปุ่มมีขนาดใหญ่สามารถใช้งานได้ด้วยการกดเบาๆเท่านั้น นอกจากนี้บริเวณบนของทัชแพด จะมีปุ่มสำหรับล็อกการใช้งาน สำหรับผู้ที่ใช้เมาส์ในการทำงานแทน



นอกจากนี้ตรงมุมล่างขวา จะมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือไว้ใช้ในการเข้าระบบต่างๆ เพื่อเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล จะเห็นได้ว่าลักษณะการออกแบบบริเวณด้านในเครื่องจะเน้นไปในแนวสีเงินสะท้อนแสงตอบรับกับด้านข้างของเครื่อง ตัดกับหน้าจอสีดำที่ให้ความรู้สึกหรูหราสมราคากันเลยทีเดียว



ทางด้านหลังของเครื่อง มีช่องระบายอากาศอยู่ทางด้านขวา เมื่อพลิกข้างใต้ขึ้นมาจะพบช่องใส่แบตเตอรี่ขนาด 4750 mAh และ Subwoofer แบบ Triple Bass ส่วนบริเวณมุมด้านขวาบนจะมีพัดลมเพื่อระบายความร้อน ซึ่งจะปรับรอบการหมุนโดยอัตโนมัติ เมื่อความร้อนของเครื่องมากขึ้นก็จะหมุนแรงตามอัตราที่ตั้งไว้จากทางโรงงาน



แอบเปิดฝาออกมาดู พบช่องใส่แรมที่ใส่มาแค่ช่องเดียว สามารถใส่เพิ่มได้อีก 1 ช่อง รวมเป็นทั้งหมด 4GB ถัดลงมาด้านล่างจะเห็นว่าตรงกลางว่างอยู่ เราสามารถนำฮาร์ดดิสก์อีกลูกหนึ่งมาใส่ เพื่อให้ใช้งานแบบ Dual HDD หรือต่อ RAID ได้ บริเวณด้านซ้ายจะเป็นฮาร์ดดิสก์ที่ใส่มาให้อยู่แล้ว ส่วนทางขวาจะเป็นในส่วนของการ์ดจอและไวเลส

Input and Output Ports

ทีนี้มาดูที่จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้อีกจุดหนึ่งคือ พอร์ตการเชื่อมต่อที่ให้มาอย่างครบครันตามเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ดังนั้นเรามาดูกันในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อและไฟแสดงสถานะรอบๆเครื่องกันบ้าง



เริ่มจากด้านซ้าย ไล่จากริมในสุดจะเป็นช่องสำหรับล็อกโน้ตบุ๊ก ถัดมาเป็น VGA-Out, Expension Port 3, แลน, พอร์ต HDMI, E-SATA, USB 1 ช่อง, Firewire, 5-1 การ์ดรีดเดอร์ และ Express Card



ทางด้านขวาเริ่มจากริมในเหมือนกันคือ ช่องสำหรับเสียบชาร์จแบตฯที่มีไฟบอกสถานะ ถัดมาช่องทีวีจูนเนอร์ เพื่อต่อสายเข้ากับเคเบิลทีวี หรือ เสาสัญญาณแบบ Athena ก็ได้ ต่อมาเป็น ออพติคัลไดร์ฟเป็นแบบ Blu-Ray ROM กับ SuperMulti DVD±RW Double Laye และ พอร์ต USB อีก 2 ช่อง



ส่วนด้านหน้าเครื่องจะมีไฟแสดงสถานะอยู่บริเวณด้านซ้าย แบ่งเป็นไฟใช้งานเครื่อง สถานะชาร์จแบตฯ และการทำงานของซีพียู ส่วนทางด้านขวาจะมีช่องสำหรับต่อลำโพงและไมโครโฟน ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องเล่นสเตอริได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากการเชื่อมต่อผ่านพอร์ตต่างๆแล้วยังมีการเชื่อมต่อผ่านระบบไวเลส แลน ที่รองรับ 802.11a/b/g/n รวมไปถึงการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 2.0 จะเห็นได้ว่ามีครบเครื่องจริงๆ

ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพในด้านต่างๆของเครื่อง จะอยู่ในหน้าถัดไปนะครับ












Performance & Benchmarks

สิ่งที่จะการันตีคุณภาพของโน้ตบุ๊กรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นแพลตฟอร์มอย่าง เซนทริโน 2 ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ทีนี้เรามาดูกันถึงสเปกและคุณสมบัติต่างๆภายในเครื่องนี้กัน



เมื่อตรวจสอบผ่านโปรแกรม CPU-Z พบว่า HP Pavilion dv7 ใช้ซีพียู Intel Core 2 Duo T9400 @ 2.53 GHz ที่ใช้เทคโนโลยี 45 นาโนเมตร, คอร์สปีดสูงสุดอยู่ที่ 2526.7 MHz ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเลยทีเดียว ส่วน FSB อยู่ที่ 1066MHz, L1 D-Cache 32KB x 2, L1 I-Cache 32KB x 2 และL2 Cache ขนาด 6 MB



ด้านเมนบอร์ด ใช้ของที่ทาง เอชพี ผลิตเองโดยใช้ชิปเซ็ต Intel PM45 ที่รองรับเซนทริโน 2 นั้นเอง ในส่วนของหน่วยความจำเป็น DDR2 dual channel ที่สามารถรองรับได้มากสุดถึง 8 GB ส่วนที่ใส่มาในเครื่องนั้นเป็น DDR2 ขนาด 2 GB



ลองทดสอบผ่านโปรแกรม PCMark05 ผลออกมาอยู่ที่ 4153 ซึ่งถือว่าสูงในระดับนึง เชื่อว่าถ้าใส่แรมเพิ่มเข้าไปถึง 4 GB คะแนนจะพุ่งขึ้นไปแซงหน้าโน้ตบุ๊กในระดับเดียวกันก็เป็นได้



มาดูถึงการ์ดจอ หรือกราฟิกการ์ดที่ใช้งานกัน ผ่านโปรแกรม GPU-Z พบว่าใช้ NVIDIA GeForce 9600M GT พร้อมกราฟิกแรมขนาด 512 MB ซึ่งจากสมรรถนะด้านกราฟิกที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงนี้ ทำให้ Pavilion dv7 สามารถตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังแบบไฮเดฟฯ เกมที่ใช้กราฟิกหนักๆก็สามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ



เมื่อลองทดสอบผ่านโปรแกรมอย่าง 3DMark06 คะแนนออกมาอยู่ที่ 3996 เมื่อทดลองในขนาดหน้าจอ 1280 x 800 ซึ่งคะแนนดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับสูงสำหรับการ์ดจอแยก



จะเขียนให้ดูผลทดสอบเฉยๆก็ยังไงอยู่เลยทดลอง หยิบ Crysis Warhead ที่เพิ่งออกสดๆร้อนๆมาทดลองกันให้เห็นชัดๆกันไปเลย ลองใช้โปรแกรม FRAMBUFFER Crysis WARHEAD Benchmark จากเว็บ framebeffer ปรับโหมดความละเอียดที่ 1280x800 ที่ใช้ความละเอียดแบบ Enthusiast ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.39 ตัวเลขอาจจะดูไม่ค่อยมาก แต่ก็เล่นได้อย่างไม่เสียอารมณ์ ทดลองดูภาพยนตร์ความละเอียดสูงที่ 1080p ก็ไม่แสดงอาการกระตุกหรือค้างให้เห็น



ส่วน rate และ basic information จากวินโดวส์ วิสต้า แสดงผลตามรูปด้านบนนี้



มาดูกันที่อัตราการเข้าถึงข้อมูลใน ฮาร์ดดิสก์ขนาด 320 GB rpm 5400 จาก โตชิบา ความเร็วสูงสุดในการอ่านข้อมูลอยู่ที่ 61.6 MB/s ส่วนอัตราการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 18.9 ms อาจจะเพราะฮาร์ดดิสก์มีขนาดใหญ่ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ช้ากว่าอัตราเฉลี่ยที่ประมาณ 16-17 ms แต่ความรู้สึกเมื่อใช้งานไม่มีความรุสึกถึงอัตราหน่วงแต่อย่างไร



ทางด้านของไวเลส แลนนั้น ใช้การ์ดไวเลส Intel Wireless WiFi Link 5100 ที่รองรับมาตรฐาน 802.11a/b/g/n ระดับของสัญญาณอยู่ในเกณฑ์ดี ทดลองจากการเชื่อมต่อห่างจาก Access Point ประมาณ 10 เมตร การโอนถ่ายข้อมูลผ่านไวเลสก็ได้ตามความเร็วของเราเตอร์ที่ใช้คือประมาณ 56 Mbps

Speaker

ลำโพงสเตอริโอจาก Altec Lansing แบบ 2.1 นั้นให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง จากพลังขับของเครื่องที่ให้เสียงดังกังวาน แยกซ้าย-ขวาอย่างชัดเจน สามารถใช้งานแทนลำโพงสเตอริโอดีๆภายในห้องขนาดกลางๆได้ดีเลยทีเดียว

Battery and Heat



ในส่วนของแบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-Ion 8 เซลล์ เมื่อทดลองใช้งานแบบปกติ เปิดความสว่างหน้าจอที่ 50% เปิดเสียงไว้ที่ 60% ใช้งานอินเทอร์เน็ต เปิดเพลงฟัง ใช้งานจนแบตฯเหลือประมาณ 7% เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที

เมื่อทดลองใช้งานหนักๆ(ลองกับ Crysis Warhead) เปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด เปิดเสียงดังสุด ใช้งานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ส่วนเมื่อใช้งานดูภาพยนตร์ดีวีดี ใช้ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที หรือประมาณภาพยนตร์หนึ่งเรื่องนั้นเอง ส่วนเวลาในการชาร์จ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง



ความร้อนในการใช้งานปกตินั้น จะอยู่ที่ประมาณ 55 องศาเซลเซียส โดนอุณหภูมิของ ซีพียูอยู่ที่ประมาณ 50-51 องศาเซลเซียส ความร้อนของการ์ดจออยู่ที่ประมาณ 63 องศาเซลเซียส และความร้อนฮาร์ดดิสก์อยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส



ส่วนความร้อนสูงสุดขณะใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพนั้น ตัวเครื่องอุณหภูมิขึ้นไปอยู่ประมาณ 86 องศาเซลเซียส ส่วนซีพียูนั้นคงอยู่ในระดับเดิมคือ เกือบๆ 50 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอเมื่อใช้งานหนักๆจะขึ้นไปถึงประมาณ 95 องศาเซลเซียส ซึ่งจังหวะที่ขึ้นสูงสุดจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

จบกันไปในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพในด้านต่างๆแล้วนะครับ ต่อไปมาทำความรู้จักกับโปรแกรมอย่าง Quick Play ที่จะมาอำนวยความสะดวกในการใช้งาน และบทสรุปของโน้ตบุ๊ก HP Pavilion dv7




Quick Play in HP Pavilion dv7

ระบบ Quick Play ที่ให้มากับเครื่องของ HP นั้นใช้อำนวยความสะดวกในการใช้งานด้านมัลติมีเดียทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 5 เมนูหลักดังที่จะกล่าวต่อไปนี้



อันแรกคือโปรแกรมสำหรับใช้ดูภาพยนตร์ต่างๆ ไม่ว่าจากแผ่น บลู-เรย์, ดีวีดี, วีซีดี และ ไฟล์วิดีโอนามสกุลต่างๆที่อยู่ในเครื่อง คุณภาพของเสียงที่ได้ออกมาจากโปรแกรมดังกล่าวคงสู้กับโปรแกรมเฉพาะทางอย่าง Power DVD ไม่ได้ แต่ถูกทดแทนด้วยความสะดวกสบายในการใช้งานรีโมทเพื่อควบคุม และสังงานแทน



แน่นอนว่าเมื่อมีโปรแกรมสำหรับดูภาพยนตร์แล้วก็ต้องมีสำหรับฟังเพลง ตัวโปรแกรมถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆไล่จากทางด้านซ้ายคือ Source หรือ ที่อยู่ของเพลง ที่สามารถเลือกในไดร์ฟต่างๆภายในเครื่องรวมไปถึงแฮนดี้ไดร์ฟ เมื่อเลือกแล้วจะมีไฟล์เพลงขึ้นมาให้เลือก ในส่วนกลางของหน้าจอ เมื่อเลือกเพลงที่ต้องการฟังแล้ว รายชื่อเพลงก็จะเข้าไปอยู่ในส่วนของ Playlist ทางด้านขวา ต่อจากนั้นเมื่ออยากเซฟลิสต์เพลงเก็บไว้ก็สามารถทำได้จากปุ่มควบคุมด้านล่าง



ด้วยความที่ HP Pavilion dv7 มีระบบทีวีจูนเนอร์ติดตั้งมาด้วย ทำให้สามารถรับชมทีวีผ่านสัญญาณแอนาล็อกได้ทั้งจากเสา Athena และ สายเคเบิ้ลทีวี โดยเมื่อเสียบสายสัญญาณแล้ว ทำการค้นหาสัญญาณก็สามารถรับชมทีวีจากหน้าจอนี้ได้เลย นอกจากนี้ขณะรับชมยังสามารถบันทึกรายการทีวีที่รับชมอยู่ให้เป็นไฟล์ ดิจิตอลได้อีกด้วย



ต่อมาเป็นของแถมสำหรับแฟนพันธ์แท้ 'เอเอสทีวี' แน่นอนว่าเมื่อสามารถเชื่อมต่อกับสายเคเบิ้ลทีวีได้ ก็สามารถเชื่อมต่อกับจานดาวเทียมของเอเอสทีวีได้เช่นเดียวกัน ท่านใดที่อยากรับชมและบันทึกเก็บไว้ ระบบทีวีจูนเนอร์จะสามารถตอบสนองการใช้งานของท่านได้อย่างแน่นอน



ในส่วนของเกม จะเป็นการเรียกเกมต่างๆที่อยู่ในเครื่องขึ้นมา ซึ่งทาง HP ได้ลงเกมของเว็บไซด์ Wildgames มาให้แบบทดลองเล่น แต่ถ้าเราต้องการเล่นเพิ่มก็ต้องเสียเงินเพื่อที่จะซื้อเกมดังกล่าว ดังนั้นในส่วนนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นเมนูลัดในการเข้าถึง เกม ก็เป็นได้



ส่วนโปรแกรมสุดท้ายคือ คาราโอเกะ การใช้งานจะคล้ายกับโปรแกรมสำหรับฟังเพลง โดยถ้ามีไฟล์คาราโอเกะก็สามารถเปิดใช้งานได้ทันที

บทสรุป

สำหรับผู้ที่หาโน้ตบุ๊กที่สามารถครอบคลุมการใช้งานแทนพีซีได้ทุกอย่าง HP Pavilion dv7 น่าจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง แม้ราคาจะสูงไปหน่อยแต่ก็มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่คุ้มราคา สามารถนำมาใช้ต่อเป็นชุดโฮมเธียเตอร์ เพิ่มความบันเทิงในบ้าน หรือถ้าไม่ต่อเข้ากับชุดเครื่องเสียง เสียงที่ได้จากตัวเครื่องก็อยู่ในระดับที่ดี จากลำโพงขนาดใหญ่และซับวูฟเฟอร์ข้างใต้เครื่อง

จากคุณสมบัติทางด้านมัลติมีเดียไม่ว่าจะเป็นทีวีจูนเนอร์ รองรับบลู-เรย์ดิสก์ สามารถต่อพอร์ต HDMI ได้ เวลาในการใช้งานเมื่อใช้แบตเตอรี่ก็อยู่ในระดับมาตรฐานที่ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่จุดสำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้คือขนาดและน้ำหนักของเครื่องที่หนักเอาการอยู่ที่เดียว

ส่วนคุณสมบัติทางด้านการรักษาความปลอดภัยนั้น ระบบลายนิ้วมือ และ ระบบป้องกันแรงกระแทกจาก HP น่าจะทำให้ความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเต็มที่(ทางทีมงานไม่ได้ทำการทดสอบเรื่องเครื่องตกพื้นนะครับ) ดังนั้น HP Pavilion dv7 ไม่น่าจะทำให้ทุกท่านผิดหวัง ถ้าต้องการโน้ตบุ๊กหนึ่งเครื่องที่สามารถตอบสนองการใช้งานแบบรอบด้าน

ขอชม
- สามารถใช้งานประสิทธิภาพของ เซนทริโน 2 ได้อย่างเต็มที่
- พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆให้มาอย่างครบครัน
- ไดร์ฟบลู-เรย์ ที่เพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
- ระบบระบายความร้อนที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอติ
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักมากถึง 3.5 กิโลกรัม
- ด้วยความที่พื้นผิวมีลักษณะเป็นมันเงา ทำให้ตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย

คุณสมบัติทั่วไป

แพลตฟอร์มIntel Centrino 2 Processor Technology
ซีพียูIntel Core 2 Duo processor
 T9400 2.53 GHz / 1066 MHz FSB / 6MB L2Cache
ชิปเซ็ตIntel PM45
ระบบปฏิบัติการWindows Vista Home Premium
หน่วยความจำDDR2 Bus 800 2GB
ความจุHDD 320GB
หน้าจอWXGA+AG 17 นิ้ว
 ความละเอียด 1440 x 900
หน่วยประมวลผลภาพnVIDIA GeForce 9600M GT
 512MB
ออพติคัลไดร์ฟBlu-ray Disc drive
การ์ดรีดเดอร์มี 5 - 1
เว็บแคมมีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล
ไวเลสIntel Wireless WiFi Link 5100
 รองรับ 802.11 a/b/g/n
บลูทูธ 2.0มี
แลนมี
โมเด็มมี
ยูเอสบีมี 3 พอร์ต
HDMIมี
eSATAมี
แบตเตอรี่Lithium-Ion 8 เซลล์
ขนาด396 x 285 x 34/42 มิลลิเมตร
น้ำหนัก3.5 กิโลกรัม


สำหรับราคาเปิดตัวของ HP Pavilion dv7-1007TX Entertainment Notebook PC อยู่ที่ 69,900 บาท

Company Relate Link :
HP



กำลังโหลดความคิดเห็น