xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”จับของปลอม 11 เดือน 3.3 ล้านชิ้น เสียหาย 1,140 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผยสถิติจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 11 เดือน ปี 68 จำนวน 1,132 คดี ยึดของกลาง 3,344,841 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 1,140 ล้านบาท พร้อมยกระดับจัดการสินค้าละเมิดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ จับมือเจ้าของแพลตฟอร์มปลดออกแล้ว 2,867 รายการ ประกาศลุยต่อ ขยายผลไปหารายใหญ่ ใช้กฎหมายอื่นที่เข้มกว่าจัดการ ดึงแพลตฟอร์มออนไลน์มาร่วมมือเพิ่ม เจ้าของที่เลิกสัญญาเช่า ปราบละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ภาครัฐ และใช้เทคโนโลยีช่วยปราบ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 11 เดือนของปี 2568 (ม.ค.-พ.ย.) กรมได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานพันธมิตร กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารวมทั้งสิ้น 1,132 คดี ลดลง 16.15% ยึดของกลาง 3,344,841 ชิ้น เพิ่มขึ้น 21.35% รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.89% แยกเป็นการบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 789 คดี ของกลาง 1,820,574 ชิ้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ 7 คดี ของกลาง 952,592 ชิ้น และกรมศุลกากร 336 คดี ของกลาง 571,675 ชิ้น

โดยแนวทางการดำเนินการ จะแบ่งการปฏิบัติการออกเป็น 3 ชุดหลัก ได้แก่ 1.ชุดจรยุทธ์ เฝ้าระวังพื้นที่ศูนย์การค้าและย่านการค้าสำคัญในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น ศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ แพลตินัม ประตูน้ำ สำเพ็ง สีลม พร้อมพงศ์ สุขุมวิท โดยลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน รวมทั้งกรณีได้รับแจ้งจาก บก.ปอศ. จะเข้าปฏิบัติการทันทีเมื่อมีหมายค้น 2.ชุดระดม กระจายกำลังตรวจตราพื้นที่สุ่มเสี่ยงในต่างจังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยออกปฏิบัติการต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์ และ 3.ชุดตรวจสอบและประเมินผล ตรวจสกัดการจำหน่ายสินค้าละเมิดในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ (พื้นที่สีแดง) ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใน 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) สงขลา กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ โดยลงพื้นที่ปฏิบัติการเป็นประจำทุกเดือน

ทั้งนี้ กรมยังได้ยกระดับการปราบปรามสินค้าละเมิดในตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง โดยนำมาตรการ Notice and Takedown มาใช้ภายใต้บันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ตระหว่างกรม เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ ซึ่งสามารถระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดบนแพลตฟอร์ม e-Commerce ชั้นนำ 5 ราย ได้แก่ Lazada Shopee TikTok Shop NocNoc และ Nex Gen Commerce ได้กว่า 2,867 รายการ และเตรียมขยาย MOU ความร่วมมือดังกล่าวไปยังแพลตฟอร์ม Line Shopping โดยมีกำหนดลงนาม MOU ร่วมกับบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 19 ธ.ค.2568 เพื่อเพิ่มเสริมกลไกการป้องกันและปราบปรามการละเมิดออนไลน์อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นางอรมนกล่าวว่า กรมจะเดินหน้าผลักดันการขับเคลื่อนแผนพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญา พ.ศ.2569–2570 ตามแนวทางที่คณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติกำหนด เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐกว่า 30 หน่วยงาน เดินหน้าป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม รวมทั้งจะประเมินผลและทบทวนมาตรการด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างสม่ำเสมอ และยกระดับความรู้และทักษะการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งกระบวนการสืบสวน จับกุม และสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งจะช่วยให้การคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเห็นผลอย่างชัดเจน

สำหรับมาตรการที่จะดำเนินการ ได้แก่ 1.ขยายผลการจับกุมและการปราบปรามผู้กระทำความผิดจากผู้ขายสินค้าละเมิดรายย่อยไปยังผู้ผลิตหรือขายสินค้ารายใหญ่ (แหล่งต้นน้ำ) อย่างเข้มงวด รวดเร็ว 2.ใช้กฎหมายอื่นประกอบเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เช่น กฎหมายฟอกเงิน กฎหมายคนเข้าเมือง กฎหมายภาษี 3.ขยายความร่วมมือ MOU การปราบปรามในตลาดออนไลน์ไปยังผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอื่น ๆ 4.มาตรการให้เจ้าของพื้นที่ยกเลิกสัญญากับผู้เช่า กรณีผู้เช่าจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการประกอบธุรกิจและสินค้าที่ขาย มิเช่นนั้นจะใช้มาตรการทางแพ่งดำเนินคดีกับผู้ให้เช่าพื้นที่ขายสินค้าละเมิด โดยใช้หลักการความรับผิดชอบร่วม รวมทั้งเปลี่ยนบทบาทจากผู้เพิกเฉยเป็นผู้ร่วมแก้ปัญหา 5.การปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และรณรงค์สร้างความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายและความเสี่ยงจากการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ 6.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปราบปรามการละเมิดออนไลน์ผ่านอุปกรณ์หรือแอพลิเคชันสำหรับการสตรีมมิ่ง เป็นต้น

นอกจากนี้ กรมขอรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันส่งเสริมการเคารพสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของผู้อื่น และต้องไม่ซื้อ ไม่ใช้ และไม่สนับสนุนสินค้าละเมิด ซึ่งแม้ลักษณะภายนอกจะใกล้เคียงกับสินค้าจริง แต่เป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค จึงฝากเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการชื้อสินค้าราคาถูกมาใช้ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยความปลอดภัยต่อชีวิตและร่างกาย และควรเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เลือกดูบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่มีตำหนิ ราคาเหมาะสม ไม่ถูกกว่าท้องตลาดจนเกินไป โดยหากหากประชาชนพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 02-547-4702 สายด่วน 1368 หรือเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th


กำลังโหลดความคิดเห็น