กทม.เปิดเวที Market Sounding เอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังหมดสัญญาปี 72 วาง รูปแบบ PPP Gross Cost จ้างเดินรถ 30 ปี ลงทุน 5.5 แสนล้านบาท ประเมินรายได้ 8.02 แสนล้านบาท คาดผู้โดยสารเพิ่มทะลุ 1.5 ล้านคน-เที่ยวต่อวัน สรุปศึกษาม.ค.69 เสนอ ก.มหาดไทยและครม.เห็นชอบ
วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (สจส.กทม.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นการลงทุนโครงการ (Market Sounding) งานศึกษาและวิเคราะห์โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร หรือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังหมดสัญญาสัมปทาน 30 ปี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 เพื่อนำเสนอข้อมูลผลการศึกษาโครงการในด้านต่างๆ และแนวทางการลงทุนและความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุน ของภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมรับฟังความคิดห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปประกอบการศึกษาและจัดทำโครงการให้มีความเหมาะสมครบถ้วน โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถาบันการเงิน นักลงทุน เข้าร่วม
โดยที่ปรึกษารายงานข้อมูลผลการศึกษา ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหลัก สายสุขุมวิท ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสายสีลม ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน จำนวน 24 สถานี ระยะทาง 23.5 กม. บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ได้รับสัมปทานโครงการจากกทม. เริ่มเปิดให้บริการ ปี 2542 อายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี ซึ่งจะสิ้นสุด ปี 2572 ภายหลังครบอายุสัมปทาน บีทีเอสซี จะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้เป็นของกทม.ทั้งหมด
จากการคาดการณ์ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบำรุงรักษา ซึ่งปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียว 1 ขบวนมี 4 ตู้ มีความจุผู้โดยสาร 1,208 คน สุงสุด 1,381 คน ในอนาคตเพิ่มเป็น 6 ตู้ ความจุเพิ่มขึ้น 1,812 คน สูงสุด 2,072 คน โดยใช้เงินลงทุนในการจัดหาขบวนรถ 8,426.11 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบำรุงรักษา ตลอดอายุสัญญาสัมปทานใหม่ตั้งแต่ปี 2573-2602 รวมอายุ 30 ปี จำนวน 557,076.42 ล้านบาท มีรายได้จากค่าโดยสาร 802,585.60 ล้านบาท
นอกจากนี้มีรายได้เชิงพาณิชย์ จากการให้เช้าพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้า การให้เช่าพื้นที่โฆษณาในขบวนรถและบนสถานีรถไฟฟ้า และรายได้การเชื่อมต่อสถานี จำนวนเงิน 118,454.67 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ 850,000 คน-เที่ยวต่อวัน มีรายได้ 37,876,192 บาทต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 1,557,000 คน-เที่ยวต่อวัน รายได้ 122,928,773 บาทต่อวัน ในปี 2602 สำหรับรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมแบบ PPP Gross Cost เอกชนเป็นตัวแทนในการจัดเก็บรายได้ทั้งหมด โดยรัฐจ่ายค่าจ้างให้กับเอกชน
ทั้งนี้จะสรุปผลการศึกษาเสนอกรุงเทพมหานคร ภายในเดือน มกราคม 2569 จากนั้นจะเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นชอบ ก่อนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการ PPP ให้ความเห็นชอบ และส่งกลับให้กระทรวงมหาดไทย หากได้รับความเห็นชอบจะเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) พิจารณารูปแบบการลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2562 ตามลำดับ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบ


