สศอ.ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทย ด้วยการสนับสนุนการจัดตั้งห้องปฏิบัติการวัดและสอบเทียบเครื่องช่วยหายใจ CPAP/BiPAP ในโรงพยาบาลภูมิภาค ยกระดับมาตรฐานคุณภาพตามเกณฑ์สากล ลดการพึ่งพาการนำเข้า และเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศ โดยมีโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี เป็นต้นแบบ
นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ยกระดับความสามารถของอุตสาหกรรมการแพทย์ของประเทศไทย ผ่านการสนับสนุนการพัฒนาห้องปฏิบัติการวัดและสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลชั้นนำของภูมิภาค โดยเน้นเป้าหมายสำคัญ คือ การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ในการควบคุมคุณภาพเครื่องมือแพทย์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศในระยะยาว ซึ่งจากความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่าง สศอ. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโรงพยาบาลในภูมิภาคที่สามารถพัฒนาห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่ทดสอบเครื่อง CPAP/BiPAP ได้ตามมาตรฐาน ISO 80601-2-70 นับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความสำเร็จในการสร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ภายในประเทศ และเป็นต้นแบบที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้
นอกจากนี้ สศอ. ในฐานะหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบายและมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ได้ขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ซึ่งมี “อุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ครบวงจร” เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของภาคการผลิตไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนเผชิญปัญหาสุขภาพจากโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ เครื่องช่วยหายใจประเภท CPAP/BiPAP เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสศอ. มองเห็นความสำคัญของการสร้างระบบนิเวศ ที่เอื้อต่อการพัฒนาและควบคุมคุณภาพเครื่องมือแพทย์ชนิดนี้ในประเทศ ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อให้เกิดระบบดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
ภายใต้แผนงานบูรณาการดังกล่าว สศอ. ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ โรงพยาบาลในภูมิภาค และหน่วยงานด้านการรับรองมาตรฐาน เพื่อยกระดับความปลอดภัยด้านเครื่องมือแพทย์และขับเคลื่อนการพัฒนาห้องปฏิบัติการที่มีขีดความสามารถครบวงจร ผ่านกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ 1. สนับสนุนการตรวจต้นแบบเครื่อง CPAP/BiPAP ที่ผลิตในประเทศให้เป็นไปตามข้อกำหนดเพื่อใช้ยื่นขอการรับรองต้นแบบกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 2. จัดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจสมรรถนะเครื่อง CPAP/BiPAP ก่อนส่งมอบแก่ผู้ป่วย ตามสิทธิหรือสวัสดิการภาครัฐ เพื่อสร้างมาตรฐานกลางที่สามารถอ้างอิงได้ และช่วยให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพ 3. พัฒนาระบบสอบเทียบเครื่องที่หมดอายุการใช้งาน เพื่อรองรับการใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาเบิกเครื่องใหม่จากภาครัฐโดยอิงกับข้อมูลเชิงวิชาการและมาตรฐานกลาง และ 4. ผลักดันให้โรงพยาบาลมีศักยภาพในการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่อง CPAP/BiPAP ได้ภายในเอง เพื่อสร้างความพร้อมของระบบบริการในระดับสถานพยาบาล
“ในช่วงปี 2562 – 2567 ไทยมีการนำเข้าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์เพื่อสุขภาพทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (Disposable) ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ (Durable) และน้ำยาและชุดวินิจฉัยโรค (Reagent and test kit) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 8.7 ต่อปี และมีการส่งออกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี โดยปี 2567 มีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 97,000 ล้านบาท และมูลค่าการส่งออกประมาณ 130,000 ล้านบาท โดยครุภัณฑ์ทางการแพทย์ (Durable) และน้ำยาและชุดวินิจฉัยโรค (Reagent and test kit) มีสัดส่วนมูลค่านำเข้าสูงกว่ามูลค่าส่งออก อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น สศอ. จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และสร้างความมั่นคงด้านเครื่องมือแพทย์ในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และเพิ่มมูลค่าการผลิตภายในประเทศต่อไป” นายศุภกิจ กล่าว


