กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือ WIPO ส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ใช้ทรัพย์สินทางปัญญา และเทคโนโลยีดิจิทัล ปรับปรุงการผลิต พัฒนาวิธีการทำเกษตร สร้างความได้เปรียบทางการค้า และขยายธุรกิจ คัด 4 ราย ที่มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เกษตรอินทรีย์ หุ่นยนต์ใส่ปุ๋ย และอาหารข้าวไร้แป้ง เข้าร่วมโครงการ เผยหลังจบโครงการเตรียมนำโชว์ในงาน IP Fair 2026 ต่อไป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) พร้อมด้วยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ นำผู้ประกอบการและเกษตรกรยุคใหม่ ร่วมโครงการ “Agriculture 4.0 in ASEAN” มุ่งเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SME ในอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยและอาเซียนให้สามารถปลดล็อกศักยภาพด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างความได้เปรียบทางการค้าและขยายธุรกิจสู่ตลาดสากล ตลอดจนใช้เทคโนโลยีชั้นแนวหน้ามาช่วยปรับปรุงผลผลิต พัฒนาวิธีการทำเกษตร และแก้ไขปัญหาการเกษตรในท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการ Agriculture 4.0 in ASEAN เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของ WIPO ที่มุ่งเปิดมุมมองใหม่ให้กับภาคธุรกิจในการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ การบริหารจัดการสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ การต่อยอดเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตร และสร้างโอกาสขยายตลาดสู่ต่างประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเกษตรเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ ในส่วนของไทย มีการจ้างงานในภาคเกษตรมากถึง 31% ของแรงงานไทยทั้งหมด แต่ปัจจุบันเกษตรกรต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต้นทุนการผลิต ความผันผวนของราคาสินค้า จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญของ WIPO เป็นผู้ให้คำปรึกษาเชิงลึกกับผู้ประกอบการแบบตัวต่อตัว
นางอรมนกล่าวว่า โครงการ Agriculture 4.0 in ASEAN เริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางเดือน ก.ย.2568 ที่ผ่านมา และมีกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ธ.ค.2568 โดย WIPO ได้คัดเลือกผู้ประกอบการ SME และธุรกิจสตาร์ตอัปด้าน Agri-Tech ของไทย 4 ราย เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นด้านการใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีในการสร้างนวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรของไทยในมิติต่าง ๆ
โดย 4 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท เอส ซี เฮลท์เทค จำกัด ในด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ 2.บริษัท ไร่ทอง ออร์แกนิกส์ ฟาร์ม จำกัด ในด้านเกษตรอินทรีย์ 3.บริษัท ไทยแฮนด์ เอ.ไอ. จำกัด ในด้านหุ่นยนต์สำหรับการใส่ปุ๋ยเพาะปลูก และ 4.บริษัท เนรมิต ฟู้ดเทค จำกัด ในด้านเทคโนโลยีอาหารข้าวไร้แป้ง ซึ่งผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย จะได้รับคำปรึกษาเพื่อพัฒนานวัตกรรมต้นแบบและต่อยอดเทคโนโลยีสู่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ผ่านกลไกการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (IP Licensing) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนและขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“หลังจากจบโครงการนี้ กรมมีแผนจะนำนวัตกรรมต้นแบบด้าน Agri-tech ของผู้ประกอบการ มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา ประจำปี 2569 (IP Fair 2026) เพื่อสร้างมูลค่าการซื้อขายสินค้าและเปิดโอกาสในการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ภายในงาน พร้อมต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในกิจกรรมอื่น ๆ ของกรมต่อไป”นางอรมนกล่าว
ความร่วมมือระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและ WIPO ในครั้งนี้ เป็นการเชื่อมโยงนวัตกรรมจากภาควิจัยมาต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนภาคเกษตรของไทยในยุคเทคโนโลยีและดิจิทัล โดยสอดคล้องกับแนวนโยบาย IP 4 All หรือ ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อทุกคน โดยเฉพาะ IP for Business และ IP for Innovation ที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยให้สามารถใช้เทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาเป็นกลไกสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีการค้าโลก โดยเชื่อมั่นว่าแนวทางเกษตรกรรมไทย 4.0 จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยพลิกโฉมภาคการเกษตรไทย จากการผลิตเชิงปริมาณไปสู่การสร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรม องค์ความรู้ เทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะช่วยยกระดับสินค้าและบริการด้านการเกษตรของไทยให้มีศักยภาพและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างแท้จริง


