xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”ลั่นจับจริง กำชับร้านค้าร่วมคนละครึ่ง พลัส ต้องปิดป้ายราคา ห้ามฉวยโอกาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการค้าภายในผนึกกำลังสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ส่งทีมลงพื้นที่ทำความเข้าใจร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ต้องปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย หากอยู่ในระบบ VAT ต้องแจ้งราคาสุดท้าย ร้านอาหารต้องแสดงราคาและค่าใช้จ่ายอื่นให้ครบ ห้ามฉวยโอกาส แลกเงินสด เผยล่าสุดมีร้องเรียน 112 เรื่อง ส่วนใหญ่ขายแพง ไม่ปิดป้ายราคา คิดราคาเพิ่ม ราคาขายไม่ตรงที่จำหน่าย บวก VAT ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินคดีแล้ว

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ประชุมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ทุกราย โดยจะเน้นย้ำว่าร้านค้าต้องติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสุดท้ายที่รวมภาษีไว้แล้ว หากร้านอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากร้านค้าที่เป็นร้านอาหาร จะต้องมีการแสดงราคาอาหาร และหากมีรายการค่าใช้จ่ายอื่น ต้องแสดงไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนซื้อสินค้าหรือเข้ารับบริการ และกรณีร้านค้าที่เข้าโครงการคนละครึ่ง พลัส ร้านค้าต้องจำหน่ายสินค้าในราคาที่เท่ากัน ทั้งผู้ใช้สิทธิ์คนละครึ่งและผู้ชำระเงินสด เพื่อสร้างความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคทุกกลุ่ม

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-4 พ.ย.2568 กรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 112 เรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร การไม่ติดป้ายแสดงราคา การคิดราคาสินค้าเพิ่มเมื่อใช้สิทธิ์คนละครึ่ง และการแสดงราคาจำหน่ายปลีกไม่ตรงกับราคาที่จำหน่าย และกรณีร้องเรียนเรียกเก็บ VAT เพิ่มเติมจากราคาที่ติดป้ายแสดง ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายเอาเปรียบประชาชนและต้องถูกดำเนินคดีอย่างเข้มงวด โดยกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และกรณีมีพฤติกรรมฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยหลังจากได้รับการร้องเรียน กรมได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าที่ถูกร้องเรียนในพื้นที่เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่สายตรวจได้มีการล่อซื้อสินค้าจากร้านค้า และพบพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงขึ้นเมื่อจะใช้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง พลัส และยังมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 68 พ.ศ.2568 ข้อ 3 และข้อ 11 เข้าข่ายผิดตามมาตรา 28 และมีโทษตามมาตรา 40 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 พร้อมปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท


ส่วนในจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบขยายผลจากการร้องเรียน พบว่า ร้านค้ายอมรับว่ามีการคิดราคาจำหน่ายสินค้าโดยบวกภาษีมูลค่าเพิ่มจากประชาชนอีก 7% เพิ่มจากราคาป้ายแสดงราคา โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแจ้งข้อหาจำหน่ายสินค้าไม่ตรงกับป้ายราคาที่แสดง และปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท พร้อมชี้แจงแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งร้านค้าได้รับว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

นอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่นได้ตรวจสอบร้านค้าธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นแห่งหนึ่งในตำบลแดงใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พบว่า มีการรับแลกเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ทั้งที่ร้านปิดกิจการมานานกว่า 3 เดือน ซึ่งเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการ เจ้าหน้าที่ได้เพิกถอนสิทธิ์เข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้า และแจ้งกรมบัญชีกลางระงับการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ทันที เพื่อป้องกันการนำสิทธิ์ของประชาชนไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง

นายวิทยากรกล่าวว่า กรมขอย้ำว่าร้านค้าที่เป็นร้านค้าธงฟ้าทุกแห่ง ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของกรม และกฎเหล็กร้านธงฟ้าอย่างเคร่งครัด ห้ามแลกสิทธิ์สวัสดิการเป็นเงินสด ห้ามบังคับซื้อสินค้า ห้ามขายเกินราคา หรือฉวยโอกาสขึ้นราคา ห้ามจำหน่ายสุรา บุหรี่ เบียร์ และห้ามปฏิเสธการใช้สิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ หากฝ่าฝืนจะถูกเพิกถอนสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทันที

“กรมยังคงติดตาม ตรวจสอบ และให้ความรู้แก่ร้านค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องและป้องกันปัญหาความเข้าใจกฎหมายคลาดเคลื่อน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคต่อไป และหากประชาชนพบเห็นร้านค้าฝ่าฝืน ไม่ติดป้ายแสดงราคาจำหน่าย หรือคิดราคาไม่ตรงป้าย หรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันรักษาความเป็นธรรมทางการค้าและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนอย่างทั่วถึง“นายวิทยากรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น