xs
xsm
sm
md
lg

“ไทย–ลาว” กระชับสัมพันธ์ เตรียมเปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ปลายปี 68 ส่วนสะพานรถไฟ”ไทย-จีน”คาดเริ่มสร้างปี 70

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน–พิพัฒน์” ยกคณะกระชับสัมพันธ์ไทย–ลาว ทุกมิติ เตรียมเปิดสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) ปลายปี 68 ส่วนสะพานมิตรภาพ 2”หนองคาย–เวียงจันทน์”เชื่อมรถไฟไทย-จีน คาดเริ่มสร้างปี 70

วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. (เวลาท้องถิ่น) ณ สำนักงานนายกรัฐมนตรี และ หอคำ ทำเนียบประธานประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวคณะผู้แทนไทยนำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ โดยมีคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมภารกิจ พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือรอบด้านระหว่างสองประเทศ

โดยภารกิจประกอบด้วยการหารือเต็มคณะกับ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว และการเข้าพบ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว ณ หอคำ ซึ่งทั้งสองฝ่ายย้ำความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน พลังงาน ความมั่นคง และคมนาคมขนส่ง รวมถึงการร่วมกันป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อประโยชน์ของประชาชนไทย–ลาว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้เยือนลาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณท่านนายกสอนไซฯ และรัฐบาลลาวที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทย–ลาวมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นดั่งเครือญาติ ปีนี้ครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต และเป็นโอกาสสำคัญในการสานต่อความร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น”

นายทองลุน ประธานประเทศฯ แสดงความยินดีต่อการเยือนของคณะไทย และยืนยันความพร้อม เข้าร่วมพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) ในช่วงปลายปี 2568 โดยมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานฝ่ายไทย อันเป็นวาระสำคัญที่สะท้อนสายสัมพันธ์อันมั่นคงของสองประเทศ


ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงทิศทางความร่วมมือว่า การเชื่อมโยงคมนาคมไทย–ลาวคือหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค โครงการต่าง ๆ ไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่คือเส้นทางแห่งมิตรภาพ โอกาสทางอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนสองฝั่งโขง

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า โครงการสำคัญระหว่างไทย-ลาว ที่จะเห็นผลเป็นรูปธรรมเบื้องต้นได้แก่ 1. สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) การก่อสร้างแล้วเสร็จ เตรียมเปิดใช้ ธันวาคม 2568 ช่วยย่นระยะเวลา–ต้นทุนขนส่ง เชื่อมไทย–ลาว–เวียดนาม หนุนท่องเที่ยวและการค้าชายแดนภาคอีสาน

2.การปรับปรุงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 (หนองคาย–เวียงจันทน์) เพื่อรองรับการบรรทุกน้ำหนักลงเพลา U20 แทน U15 เดิม เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยการขนส่งสินค้า


3.สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ (ใกล้สะพานแห่งที่ 1) อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาออกแบบรายละเอียด และ จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ตั้งเป้าหมาย เริ่มก่อสร้างปี 2570 แล้วเสร็จปี 2573 เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงลาว - จีน ซึ่งจะเชื่อมมายังจังหวัดหนองคายประเทศไทย

4.ทางรถไฟ เวียงจันทน์–นครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทาง 10 กม. ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมเส้นทางระหว่างสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) (สำหรับรถไฟไทย-ลาว ขนาดความกว้างทาง 1 เมตร) กับสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ (สำหรับรถไฟ ลาว-จีน ขนาดความกว้างทาง 1.435 เมตร) เพื่อรองรับการเชื่อมต่อผู้โดยสารอย่างไร้รอยต่อ หรือเป็นการปิด “missing link” ของระบบราง โดยสปป.ลาวอยู่ระหว่างพิจารณาว่ามีความสนใจที่จะดำเนินโครงการดังกล่าวหรือไม่

“ทั้งหมด มีเป้าหมาย ให้การเดินทางของประชาชนมีความสะดวกขึ้น การขนส่งสินค้า ดำเนินการได้รวดเร็วและมีต้นทุนลดลง เมืองชายแดนคึกคักขึ้น และเพิ่มโอกาสในการสร้างงานให้เยาวชนมากขึ้น เราจะทำให้ไทย–ลาวเป็นแกนกลางโลจิสติกส์ของลุ่มน้ำโขง (GMS) อย่างแท้จริง”

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมดำเนินงานตามนโยบายเพื่อเร่งรัดความร่วมมือกับสสป.ลาวในทุกมิติ ทั้งถนน รถไฟ และระบบขนส่งสาธารณะ
สิ่งสำคัญที่สุดคือผลลัพธ์ที่ประชาชนทั้งสองประเทศจะได้รับ ในการเดินทางที่สะดวกขึ้น หรือโอกาสในการค้าขายและประกอบอาชีพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง






กำลังโหลดความคิดเห็น