xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มมิตรผล-อีสเอเชียชูการ์ ร่วมงาน Thailand-China Cooperation Expo 2025

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่และผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร พร้อมด้วยองค์กรในเครืออย่าง กลุ่มบริษัทอีสเอเชียชูการ์ (EAS) ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 1 ในมณฑลกว่างซี และรายใหญ่อันดับ 3 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมจัดแสดงนิทรรศการสุดยิ่งใหญ่ในงาน Thailand-China Cooperation Expo 2025 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน โดยมีเป้าหมายในการแสดงศักยภาพและสะท้อนการพัฒนาที่มีร่วมกันตลอด 32 ปี ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความชำนาญเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของทั้งสองประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 32 ปีที่ผ่านมา กลุ่มมิตรผลและกลุ่มบริษัทอีสเอเชียชูการ์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจน้ำตาลของมิตรผลในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีแนวทางในการพัฒนาร่วมกันภายใต้วิสัยทัศน์ 'ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ' ซึ่งไม่เพียงแค่แนวคิด แต่คือหลักการดำเนินธุรกิจที่เรายึดมั่น ทั้งในประเทศไทยและประเทศที่เราเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน เราเล็งเห็นถึงการสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญ รวมถึงประสบการณ์ในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ของทั้งสองประเทศ โดยกลุ่มมิตรผลได้ส่งต่อความรู้ ด้านการทำไร่อ้อยด้วยแนวทางเกษตรสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตน้ำตาล ที่สามารถต่อยอดสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่จีน ในขณะเดียวกันก็ได้นำความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและไฟฟ้าจากจีนเข้ามาพัฒนาศักยภาพในประเทศไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ที่จะสร้างมูลค่าและการเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน”


กลุ่มมิตรผลและกลุ่มบริษัทอีสเอเชียชูการ์ ไม่เพียงดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล แต่ยังร่วมกันวางรากฐานเพื่อการพัฒนาที่แข็งแกร่งใน 4 มิติหลักอย่างครบวงจร ทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการทำไร่อ้อยด้วยเกษตรสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำ “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” บนมาตรฐานการทำไร่อ้อยอย่างยั่งยืนระดับโลก (Bonsucro Standard) ที่ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตฯอ้อยและน้ำตาลของจีนในระยะยาว สอดคล้องกับนโยบาย “Double High” หรือ “โครงการสองสูง” ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลจีนเพื่อพัฒนาแปลงปลูกอ้อยที่ให้ผลผลิตและความหวานสูง โดยอีสเอเชียชูการ์ มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีการจัดการเกษตรสมัยใหม่กว่า 14 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งฝึกอบรมให้ความรู้แก่พนักงานและเกษตรกรอย่างครบวงจร

นอกจากนี้ ยังพลิกโฉมการผลิตน้ำตาลด้วยกระบวนการผลิตที่ไร้ของเหลือทิ้ง เปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีคุณค่า (Waste to Value Creation) นำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำตาลให้ทันสมัย ต่อยอดสู่การผลิตไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยและใบอ้อย ธุรกิจยีสต์จากกากน้ำตาล ธุรกิจปุ๋ย ไปจนถึงธุรกิจอาหารสัตว์โปรตีนชีวภาพ จนเกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สร้างมูลเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยทั้งระบบ ได้รับการรับรองเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Factory Certification) โดยอีสเอเชียชูการ์นำรูปแบบการผลิตพลังงานความร้อนและไฟฟ้าร่วม (Co-generation) ของกลุ่มมิตรผลที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมาปรับใช้ และมีโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยถึง 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 90 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 210,000 ตันต่อปี

ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นอีกหนึ่งมิติหลักที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยมุ่งเน้นการกระจายรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ไปจนถึงดูแลคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ด้านการศึกษาและพัฒนาชุมชน ที่มุ่งเน้นแลกเปลี่ยนความรู้ ความชำนาญ เพื่อพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอน บุคลากร และนักศึกษา ตลอดจนพนักงาน
กลุ่มมิตรผล โดยจับมือกับวิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมชั้นสูงขอนแก่น ลงนามความร่วมมือเพื่อสร้างโอกาสแห่งการแบ่งปันความรู้และเทคโนโลยีร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในจีน ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคนิคภาคอุตสาหกรรมกว่างซี ร่วมจัดตั้ง “สถาบันช่างฝีมืออุตสาหกรรมน้ำตาลไทย-จีน” และ “วิทยาลัยเทคนิคด้านพลังงานไฟฟ้าสมัยใหม่” ที่จัดตั้งร่วมกับ วิทยาลัยอาชีวศึกษาโปลีเทคนิคไฟฟ้ากว่างซี นอกจากนี้ ยังได้ลงนามความร่วมมือกับวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกว่างซี และคณะเกษตร มหาวิทยาลัยกว่างซี เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาร่วมกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น