xs
xsm
sm
md
lg

“ตำมั่ว” รุกตลาด RTE อีสานเจาะรีเทล ผนึก “สิงโต นำโชค” ทำซิงเกิลดึงลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 – เซ็นกรุ๊ป เดินหน้ารุกตลาดรีเทล อาหารพร้อมทาน พร้อมปรุง เสริมเป็นอีกหน่วยธุรกิจหลัก ดันแบรนด์ ตำมั่ว รุกเกมนี้ ล่าสุดผนึก สิงโต นำโชค ปล่อยซิงเกิลอัดแคมเปญอาหารอีสาน


นายศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป เปิดเผยว่า กลยุทธ์การสร้างการเติบโตของธุรกิจทั้งในเชิงรายได้และในเชิงยั่งยืนของเซ็นกรุ๊ปจากนี้ จะต้องทำการขยายหรือกระจายธุรกิจออกไปทั้งในแนวกว้างและแนวลึก เพื่อสร้างโอกาสในการสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยง จากการที่ยึดถือธุรกิจแบบเดิมจากโมเดลการเปิดร้านอาหารเพียงอย่างเดียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 ระบาด ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เรียนรู้ว่า โมเดลร้านอาหารในขณะนั้นได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงปิดเมืองเพราะไม่สามารถเปิดบริการได้ ซึ่งการปรับตัวมาทำเป็นดีลิเวอรี่ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ทำกันมา แต่ต้นทุนก็สูง การบริหารระบบการจัดการมีต้นทุนที่สูงด้วย

ด้วยสถานการณ์เช่นนั้น ทางกลุ่มเซ็นจึงมองไปที่ตลาดรีเทลหรืออาหารพร้อมทาน พร้อมปรุง เพื่อวางจำหน่ายในช่องทางรีเทลหรือแม้แต่ในชองทางร้านอาหารในเครือตัวเองที่มีจำนวนมากเป็นเครื่องมือที่เข้าถึงตลาดได้อย่างดี และเริ่มเอาจริงเอาจังมากขึ้น ซึ่งสอดรับแนวคิดและกลยุทธ์ที่วางไว้ คือ “Everyday ZEN” คือการที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีแบรนด์ในเครือเป็นตัวเลือกในชีวิตประจำวัน และทานได้ทุกมื้อทุที่ ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน มื้อเย็น มื้อพิเศษ หรืออาหารทานเล่น


“นี่จึงทำให้ สินค้าพร้อมทานและพร้อมปรุง เป็นคำตอบที่ตรงจุด เพราะเป็นการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงชีวิตประจำวันของผู้บริโภค สร้างความสะดวกในการทานแม้ไม่ได้เข้ามาที่ร้านก็ตามและสร้างความถี่ในการทานได้มากขึ้นอีกด้วย เพียงเปลี่ยนสถานที่ทานเท่านั้น จากเดิมที่ลูกค้าอาจไปกินที่ร้านแค่สัปดาห์ละครั้ง แต่เมื่อเดินซูเปอร์มาร์เก็ต ก็จะมีโอกาสเจอแบรนด์ของเราอีก เพราะเรามีการวางสินค้าอาหารพร้อมทานพร้อมปรุงเราวางจำหน่า จำหน่ายในโมเดิร์นเทราด เช่น จะทำอาหารทานเองก็ต้องซื้อปลาร้าจากเรา ถ้าอยากกินส้มตำก็มีขายที่โลตัส เป็นต้น” นายศิรุวัฒน์ กล่าว

แบรนด์ตำมั่ว อาจเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในการรุกรีเทล โดยต้องทำตัวให้เป็นยูนิเวอร์แซล แบรนด์ โดยเพาะการสร้างเกมรุกของตำมั่วที่เอาส้มตำพร้อมทานไปขายในโลตัส ที่ให้ความสำคัญจริงไม่ใช่ทำเพื่อสร้างกระแสชั่วคราวเท่านั้น จึงเป็นเสมือนการเอาแบรนด์ไปเอนเกจกับลูกค้า

ด้วยจุดแข็งของตำมั่วคือ 1. เป็นแบรนด์ที่มีสาขามากที่สุดในตลาดรวม ในกลุ่มส้มตำ, 2. ตำมั่ว มีรสชาติและสูตรที่ลูกค้าคุ้นเคยดีอยู่แล้ว, 3. อาหารอีสานเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด


ทั้งนี้ แบรนด์ตำมั่วเพิ่งเข้าสู่ตลาดรีเทลได้ไม่ถึงปี ปัจจุบันมีสินค้ายังไม่มากนัก เริ่มจากสินค้าของสดอย่างส้มตำพร้อมทาน และเตรียมขยายเมนูใหม่ เช่น แกงอ่อมและแกงเห็ดในเดือนถัดไป ตอนนี้ถือว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ต้องมีการเรียนรู้ไปทำไป โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุน เช่นค่าธรรมเนียมในการวางเชล์ฟ เป็นต้น

“ในอีก 3–5 ปีข้างหน้า ZEN ตั้งเป้าให้รีเทลเป็นขาหนึ่งที่เติบโตควบคู่กับโมเดลร้านอาหาร” นายศิรุวัฒน์ กล่าวย้ำ
ล่าสุดแบรนด์ ตำมั่ว เตรียมสร้างสีสันใหม่ด้วยซิงเกิลพิเศษนี้ ซึ่งเรียบเรียงและขับร้องโดย สิงโต นำโชค พร้อมท่อนแร็ปสนุกสนาน ถ่ายทอดความเป็นอีสานร่วมสมัย เนื้อหาที่เชิญชวนให้ทุกคนมาทานเมนูอีสานยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำรสแซ่บ ลาบ น้ำ และเมนูพื้นถิ่นอีสานอีกมากมาย โดยสอดแทรกเอกลักษณ์ “น้ำปลาร้าตำมั่ว” สูตรเฉพาะเพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ว่า ตำมั่วและน้ำปลาร้าตำมั่ว คือส่วนหนึ่งของเมนูอาหารยอดนิยมของคนไทยและชาวอีสาน

พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ “กินเมนูพี่สิงโต กับโค้กซ่าส์” ให้ลูกค้าได้ลองเมนู 10 แนะนำของพี่สิงโต เมนูอร่อยได้แก่ ตำมั่ว, ปีกไก่ทอด, ตำไทย, หมูย่างแจ่วหอม, ลาบหมู, ต้มแซ่บซี่โครงอ่อน, ผัดหมี่มั่ว, ลาบเป็ด, ยำมั่ว, และไส้กรอกอีสาน เมื่อสั่งครบ 5 หรือ 8 เมนูจาก 10 เมนูนี้ รับสิทธิ เครื่องดื่มโค้กรีฟิลไม่อั้น และเมนูพิเศษ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2568 เฉพาะร้านตำมั่ว ที่ร่วมรายการเท่านั้น


นายศิรุวัฒน์ กล่าวว่า“เพลง ‘โคเล โคเล่ มาเด้อกินเข่า’ เป็นสัญลักษณ์ของความสนุกและการรวมตัวกันในช่วงเทศกาล เราต้องการตอกย้ำว่าตำมั่วไม่เพียงเป็นร้านอาหารอีสานที่คนไทยไว้วางใจ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและความสุขในทุกมื้ออาหารของคนไทย”
มิวสิกวิดีโอ “โคเล โคเล่ มาเด้อกินเข่า” จะเผยแพร่พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 30 กันยายน 2568 ทาง YouTube @SINGTONUMCHOK, Spotify และทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ ตำมั่ว
กำลังโหลดความคิดเห็น