กรมพัฒนาธุรกิจการค้าส่งข้าราชการและบุคลากร 17 ราย เข้าอบรมโครงการใช้ประโยชน์จาก AI และ Big Data วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าของไทยผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เผยเสนอโครงการสุดเจ๋ง 4 โครงการ แพลตฟอร์มอัจฉริยะเพิ่มศักยภาพและขยายตลาดสินค้าเกษตร การวิเคราะห์ความคุ้มค่าการพัฒนาผู้ประกอบการ การยกระดับการให้บริการ DBD Call Center 1570 และโครงการ AI Pathways ยกระดับความก้าวหน้าในอาชีพ เตรียมผลักดันให้มีการนำไปใช้จริงต่อไป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ข้าราชการและบุคลากรของกรม จำนวน 17 คน ได้รับทุนจากสำนักงาน ก.พ. เข้าร่วมอบรมโครงการ “การพัฒนาองค์ความรู้ในการใช้ประโยชน์จาก AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าของประเทศไทยผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล” สำหรับการเตรียมและพัฒนากำลังคนภาครัฐในระดับยุทธศาสตร์ (Strategy-based) ด้านการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก และการสร้างแบบจำลองเพื่อใช้ในการแปลผล ทำนายผล หรือแนวโน้มที่น่าจะเกิดขึ้น (Predictive Analysis) สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบการดำเนินนโยบาย การปฏิบัติงานของภาครัฐ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้าของไทย ส่งเสริมพัฒนาภาคธุรกิจและเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ
โดยการอบรมมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เป็นผู้ดำเนินโครงการ ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.2568 และภายหลังการอบรม ข้าราชการและบุคลากรกรมได้นำเสนอ 4 โครงการที่จะช่วยตอบโจทย์ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ได้แก่
1.โครงการ AgriTrade Intelligence แพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อเพิ่มศักยภาพและขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดในประเทศและตลาดโลก โดยแพลตฟอร์มนี้ จะบูรณาการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านการเกษตรและการค้า เพื่อช่วยให้เกษตรกร ผู้ประกอบการสินค้าเกษตร และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจและการค้าโลกมีความผันผวน ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยประสบปัญหาหลายประการ อาทิ ความไม่สมดุลของอุปสงค์อุปทาน ผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ ขาดข้อมูลความต้องการและตลาดในต่างประเทศ และขาดความรู้ความเข้าใจด้านการส่งออก รวมไปถึงขั้นตอนการขนส่ง กฎระเบียบ พิธีทางศุลกากร และข้อกำหนดทางสุขอนามัย (SPS/TBT)
2.โครงการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการพัฒนาผู้ประกอบการ เป็นการนำเทคโนโลยี AI มาสร้างเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการของกรม เพื่อเปรียบเทียบระหว่างงบประมาณในการจัดกิจกรรมกับผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ โดยผลการวิเคราะห์จะนำไปสู่การวางแผนปรับเปลี่ยนกิจกรรมที่สร้างผลกระทบน้อย ให้เป็นกิจกรรมที่สร้างผลกระทบที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่มาเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดนโยบายและแผนงานของกรมให้สามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
3.โครงการยกระดับการให้บริการ DBD Call Center 1570 สู่ศูนย์บริการข้อมูลดิจิทัลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD Digital Contact Center) โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยการปรับเปลี่ยนจากระบบ Call Center 1570 สู่ศูนย์บริการแบบ Contact Center ที่รองรับทุกช่องทางการสื่อสาร ทั้งเสียงและไม่ใช้เสียง เช่น Line, Facebook Messenger, Web Chat, Email และ Mobile Application โดยรวมไว้ในระบบเดียว (Omni-Channel) เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในทุกขั้นตอน เช่น Chatbot วิเคราะห์คำถาม ประเมินคุณภาพเสียง และจัดการข้อมูล เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการให้ทันสมัยและตอบโจทย์ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
4.โครงการ AI Pathways ยกระดับความก้าวหน้าในอาชีพด้วยการวิเคราะห์การฝึกอบรมบุคลากร ผ่านการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อบริหารทรัพยากรบุคคล โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการอบรม ประสบการณ์ และทักษะของบุคลากร เพื่อระบุช่องว่างทักษะ (Skills Gap) และเสนอแนะแผนพัฒนาที่เหมาะสม ช่วยให้การเลื่อนตำแหน่งโปร่งใส สะท้อนศักยภาพจริงของบุคลากร นโยบายรัฐบาล ทิศทางของกระทรวงพาณิชย์และวิสัยทัศน์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในการเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังทำให้องค์กรใช้ทรัพยากรการอบรมได้คุ้มค่า และบุคลากรเห็นเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพอย่างชัดเจน
“กรมจะผลักดันทั้ง 4 มาตรการ เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานจริง รวมทั้งเป็นการสร้าง Policy Sandbox สำหรับข้าราชการและบุคลากรในการคิดวิเคราะห์ วางแผน ดำเนินการ และติดตามผลการทำงานต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาข้าราชการและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มาตรการที่นำเสนอเป็นเพียงเพื่อการอบรมเท่านั้น แต่จะเป็นการเปิดบริบทใหม่การพัฒนาการบริการและการทำงานของกรมด้วย AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในการขับเคลื่อนนโยบายที่มีทั้งวิสัยทัศน์และความเป็นไปได้จริง ที่จะผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน”นางอรมนกล่าว