กรมการค้าต่างประเทศ แจ้งข่าวผู้ประกอบการ ที่ส่งออก-นำเข้าสินค้าทางเรือ ในระบบตู้คอนเทนเนอร์ เส้นทางย่างกุ้ง-เกาะสอง-ระนอง และระนอง-เกาะสอง-ย่างกุ้ง จะต้องยื่นขอใบอนุญาตผ่าน Myanmar Tradenet 2.0 ซึ่งเป็นระบบออนไลน์ เผยสามารถติดตามการยื่นคำขอ การตรวจสอบ จนถึงการอนุมัติหรือปฏิเสธได้เลย ย้ำศึกษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การค้าคล่องตัวและราบรื่น
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเมียนมา ออกประกาศฉบับใหม่ ที่ 5/2025 Bulletin (Export and Import 5/2025) ลงวันที่ 5 ก.ย.2568 กำหนดแนวทางสำหรับการยื่นเอกสารการค้าชายแดนสำหรับผู้ประกอบการที่ทำการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าทางเรือในระบบตู้คอนเทนเนอร์ในเส้นทางย่างกุ้ง-เกาะสอง-ระนอง และระนอง-เกาะสอง-ย่างกุ้ง จะต้องยื่นขอใบอนุญาตผ่านระบบ Myanmar Tradenet 2.0 ซึ่งเป็นระบบยื่นคำขออนุญาตนำเข้า-ส่งออกผ่านทางออนไลน์ เพื่อปรับปรุงจัดระเบียบการยื่นเอกสารให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
โดยระบบดังกล่าว สามารถติดตามสถานะตั้งแต่การยื่นคำขอ การตรวจสอบ จนถึงการอนุมัติหรือปฏิเสธ ซึ่งสินค้าที่อยู่ในระบบอนุมัติใบอนุญาตนำเข้า–ส่งออกอัตโนมัติ (Automatic Licensing) จะได้รับการอนุมัติทันที หากเอกสารครบถ้วน ขณะที่สินค้าอื่น ๆ ที่ไม่อยู่ในระบบดังกล่าว (Non–Automatic Licensing) จะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบที่อาจใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน
ทั้งนี้ การตรวจสอบสินค้า ณ ท่าเรือขนส่ง จะดำเนินการโดยคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการค้าชายแดน (OSS) ที่มีตัวแทนจากหลายหน่วยงานของเมียนมา เช่น กรมศุลกากร และกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากร โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมที่จำเป็น เช่น ภาษีเงินได้ล่วงหน้า (Advanced Income Tax: AIT) อัตรา 2% และค่าธรรมเนียมความปลอดภัยตู้คอนเทนเนอร์ โดยอ้างอิงจากจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ผู้ประกอบการกรอกไว้ในเอกสาร
อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องมีการ X-Ray สินค้า เจ้าหน้าที่จะนำตู้คอนเทนเนอร์ไปตรวจยังท่าเรือที่ติดตั้งเครื่องสแกนดังกล่าว ผู้ประกอบการจึงต้องจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องตามข้อกำหนด และควรระมัดระวังว่าหากตู้คอนเทนเนอร์ค้างอยู่ที่ท่าเรือนานเกิน 60 วัน อาจถูกดำเนินการตามกฎหมายของเมียนมา ส่วนเรือที่ใช้ขนส่ง จะต้องเป็นเรือที่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าเมียนมา และจะต้องมีการตรวจสอบซีลตู้คอนเทนเนอร์ทั้งที่ท่าเรือต้นทางและปลายทางด้วย
“กรมขอแนะนำให้ผู้ประกอบการศึกษาและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ได้รับการปรับปรุงนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การนำเข้า-ส่งออกสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามกฎหมายของทั้งสองประเทศ และสามารถกลับมาทำการค้ากันได้อย่างราบรื่นต่อไป”นางอารดากล่าว