xs
xsm
sm
md
lg

“ซิมมอนส์” ชูไทยฮับเซาท์อีสต์เอเชีย รุกตลาดที่นอนพรีเมียมขยายB2B

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 – ตลาดที่นอนพรีเมียมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พุ่ง หลังโควิดจบ คาดโตเฉลี่ย 8% “ซิมมอนส์” ยกตลาดไทยมีศักยภาพ เป็นฐานผลิตและตลาดสำคัญ ชูแผนบุกทั้งบีทูบีและขยายบีทูซี เน้นโรงแรมหรู ผุดโชว์รูมใหม่ย่านทองหล่อ ดันเป้าโต 25%


นายคาซุฮิโระ ฟุทัตสึยะ ประธาน บริษัท ซิมมอนส์ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซิมมอนส์ เอเชีย “Simmons” กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความเคลื่อนไหวและมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สูงสุดสำหรับซิมมอนส์ในเอเชีย แม้จะเป็นตลาดลำดับที่4ในเซาท์อีสต์เอเชีย แต่เป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตดีที่สุด โดยมีตลาดอินโดนีเชียใหญ่ที่สุดเพราะจำนวนประชากรที่มากกว่า รองลงมาคือ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์

ตลาดประเทศไทยไม่เพียงเป็นฐานผู้บริโภคที่กำลังเติบโต แต่ยังเป็น ศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเสาหลักในกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวของเราในภูมิภาค ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดสำคัญอื่น ๆ อย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย
ไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญด้วยการลงทุนสร้างโรงงานผลิตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ด้วยงบ 50 ล้านบาท ที่สมุทรปราการ พื้นที่ 2,000 ตารางเมตร

“กลุ่มชนชั้นกลางและบนที่ขยายตัว ความต้องการผลิตภัณฑ์การนอนพรีเมียมและลักชัวรี่จึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซิมมอนส์ ต้องการ ขยายเครือข่ายรีเทล และความร่วมมือกับธุรกิจโรงแรม และแนะนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนไทย”


สำหรับแนวโน้มตลาดในไทยนั้น พบว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และเลือกลงทุนกับที่นอนคุณภาพสูง อิทธิพลจากประสบการณ์โรงแรมและไลฟ์สไตล์ที่คนไทยที่ได้สัมผัสซิมมอนส์ในโรงแรมหรู ต้องการนำประสบการณ์นั้นกลับไปสู่บ้าน และผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลกลุ่มนี้ศึกษาข้อมูลและซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมองหาทั้งความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือ

ตลาดที่นอนพรีเมียมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเติบโตอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งไทยด้วย โดยเฉพาะสินค้าพรีเมียมเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 6% ถึงมากกว่า 8% ขึ้นอยู่กับประเทศและกลุ่มตลาด

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการขยายตัวของตลาด ได้แก่ การขยายตัวของเมือง การตระหนักรู้ถึงคุณภาพการนอนที่เพิ่มขึ้น, การใช้จ่ายของชนชั้นกลางที่สูงขึ้น และการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าหรูหราได้ง่ายขึ้น ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี


นายอาลอยเซียส ชิว ผู้จัดการทั่วไป (ธุรกิจภูมิภาค) บริษัท Simmons SEA Pte Ltdกล่าวว่า ตลาดรวมที่นอนของไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่แข่งขันรุนแรงทั้งจากแบรนด์ท้องถิ่น แบรนด์นานาชาติ และผู้เล่นดิจิทัลรายใหม่ ๆ

ตลาดที่นอนในประเทศไทย กลุ่ม Sub lower premium ในไทยถูกขับเคลื่อนโดยแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ต่างประเทศที่เข้าถึงง่าย ซึ่งเจาะตลาดแมส แต่Simmons อยู่ในกลุ่มลักชัวรี หรือพรีเมียมและครองส่วนแบ่งตลาดสำคัญในกลุ่มลูกค้าที่มีมูลค่าสุทธิสูง เช่น การอัปเกรดไปสู่ที่นอนพรีเมียมทั้งในโรงแรมและในบ้าน

“Simmons วางตำแหน่งตัวเองเป็นแบรนด์ที่นอนพรีเมียมในภูมิภาค เน้นนวัตกรรม คุณภาพการนอนที่เหนือกว่า และการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ผ่านแคมเปญและพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งกลยุทธ์การตลาดระดับภูมิภาค ใช้แคมเปญที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะประเทศ เช่น “Beautyrest 100 - Advance Your Sleep” ครอบคลุมช่องทางการตลาดที่หลากหลาย ได้แก่ โทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย สื่อสิ่งพิมพ์ และกิจกรรมในร้าน พร้อมครีเอทีฟที่ปรับให้เข้ากับกลุ่มอายุและตลาดในแต่ละประเทศ”


ซิมมอนส์เติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดที่นอนประเทศไทย จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อโซลูชันการนอนระดับพรีเมียม และนวัตกรรมด้านการออกแบบและเทคโนโลยีที่นอน ซึ่งซิมมอนส์ถูกยกให้เป็นคู่แข่งสำคัญของแบรนด์อย่าง Sealy, Tempur และ King Koil

จากรายงานของ Metastat Insight ปีค.ศ. 2024 ระบุว่า ตลาดที่นอนในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 488.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 15,800 ล้านบาท) และมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 4.5% ต่อปี ไปจนถึงปีค.ศ. 2031คาดว่ามูลค่าตลาดรวมจะสูงถึงประมาณ 659.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2031 ซึ่งเป็นผลพวงจากจากสองปัจจัยหลัก คือ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ (โรงแรมและรีสอร์ตยกระดับมาตรฐานความสะดวกสบายให้แขก) และ การตระหนักรู้ของผู้บริโภคต่อคุณภาพการนอนและสุขภาพ ที่เพิ่มขึ้น

ซิมมอนส์อยู่ในตลาดพรีเมียมที่มีการแข่งขันสูง แต่เราตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 25% ต่อปี และตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็น 3 อันดับแรกของตลาดในประเทศไทยภายใน 5 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับสถานะในระดับโลก


ทั้งนี้ปีที่แล้ว ซิมมอนส์สามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่นอนพรีเมียมในประเทศไทยประมาณ 6.5% และมียอดขายรวมมากกว่า 1,030 ล้านบาท

กลบยุทธ์หลักในตลาดประเทศไทยคือ นวัตกรรมและคุณภาพของผลิตภัณฑ์, การตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น, การขยายช่องทางจัดจำหน่าย , ความต้องการจากภาคการโรงแรม และ แนวโน้มการปรับแต่งผลิตภัณฑ์และความยั่งยืน

ล่าสุดปิดตัวโชว์รูมใหม่ล่าสุด “Simmons Gallery ทองหล่อ” บนพื้นที่ขนาด 270 ตารางเมตร ใจกลางย่านสุขุมวิท 55 เพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์การนอนคุณภาพสูง จากเดิมมีแห่งแรกที่ Simmons Gallery สาขาคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ที่เปิดดำเนินการมากว่า 10 ปี โดยที่ Simmons Gallery ทองหล่อ จะเป็นโชว์รูมแรกที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ประกอบในประเทศไทย ได้แก่ Beautyrest Prime & Platinum Series และ BeautySleep Essential Series เพื่อตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กรม โดยมีที่นอนจัดแสดง 15 รุ่นอีกหนึ่งไฮไลต์คือ เทคโนโลยี Body Profiling Machine ซึ่งช่วยวิเคราะห์สรีระและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อแนะนำที่นอนที่เหมาะสมที่สุด

นอกจากนั้นซิมมอนส์ให้ความสำคัญกับทั้งสองกลุ่มธุรกิจ (B2B และ B2C) อย่างเท่าเทียม โดยได้สร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับโรงแรมและที่พักระดับพรีเมียม ตลาด B2B ด้านการบริการจะเติบโตควบคู่กับการฟื้นตัวและการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมในประเทศไทย การพัฒนาโรงแรมใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มหรูและระดับบน




























กำลังโหลดความคิดเห็น