เปิดผลงาน “จตุพร บุรุษพัฒน์” ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ช่วง 60 วัน มีผลงานยุค “พาณิชย์พึ่งได้” เพียบ ทั้งสืบสานต่อยอดงานหัตถศิลป์ ดึง WIPO ถวายรางวัลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ลดภาระค่าครองชีพผ่านโครงการธงฟ้า จัดโครงการธงเขียว ดูแลต้นทุนเกษตรกร แก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ ขายมันหมื่นล้าน ดันไร่ละพันช่วยชาวนา ขีดเส้นซื้อข้าวโพด บูมสินค้า GI ตรา Thai SELECT รับมือภาษีสหรัฐฯ หาตลาดใหม่ ช่วย SME ดันการค้าออนไลน์ และเปิด MOC Fondue รับแจ้งปัญหาผ่านไลน์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า ในช่วง 60 วัน ที่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น และนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการประกาศนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” และมีนโยบายเร่งด่วน 10 ภารกิจ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศ ลดค่าครองชีพ ดูแลเกษตรกร ขยายตลาดสินค้าไทย และเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจการค้าไทยท่ามกลางวิกฤตความท้าทายทั้งในและต่างประเทศ
โดยมีผลการดำเนินงานสำคัญ ได้แก่ การสืบสาน รักษา และต่อยอดงานศิลปาชีพและงานหัตถศิลป์ไทย จัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ณ หอศิลปาชีพ จ.พระนครศรีอยุธยา และจัดงาน มหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (IP Fair 2025) และนำผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เข้าเฝ้าถวายรางวัล “WIPO Award for Creative Excellence” แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ
การลดภาระค่าครองชีพ ได้จัดโครงการธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อลดรายจ่ายให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และริเริ่มการจัดโครงการธงเขียว เพื่อช่วยเกษตรกร ลดต้นทุนปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืช
แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เข้าไปดูแลราคาผลไม้ และรณรงค์บริโภคผลไม้ทั่วประเทศ ผ่าน Thailand Fruit Festival 2025 ผลักดันมาตรการดูแลข้าว ไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังและนาปี ผลักดันขายมันสำปะหลัง 1.48 ล้านตัน กว่า 10,876.48 ล้านบาท ดูแลราคานมให้กับเกษตรกร ผ่านการเชื่อมโยงตลาด และดูแลราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ด้วยการกำหนดราคาให้โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อ
ผลักดันสินค้าและบริการไทย ได้ผลักดันสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เข้าสู่ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ผลักดันกาแฟไทยเจาะตลาดจีน ยกระดับงานหัตถศิลป์ไทย และสร้างการรับรู้ตรา Thai SELECT ที่มอบให้กับร้านอาหารไทย เป็น Global Brand
รับมือภาษีสหรัฐฯ และเปิดตลาดใหม่ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ MOC One Stop Service ช่วยผู้ประกอบการไทยรับมือมาตรการทางภาษีสหรัฐฯ และเดินหน้าขยายตลาดส่งออก เพื่อผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ทดแทน ทั้งตะวันออกกลางและแอฟริกา
ช่วยเหลือ SME มีการจัดงาน IP Fair จัดแสดงสินค้านวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา จัดมหกรรมแฟรนไชส์ เพื่อช่วยส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์และช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ ผลักดันใช้โครงการ SMEs Pro-active ช่วยผู้ประกอบการ SME เจาะตลาดต่างประเทศกว่า 8,000 ราย รวมมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,500 ล้านบาท และร่วมมือกับสถาบันการเงินให้สินเชื่อผู้ประกอบการ SME
ผลักดันการค้าออนไลน์ โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ที่สำคัญในต่างประเทศ เปิดร้าน TOPTHAI เพิ่มโอกาสขายให้กับ SME และทำการปรับโฉมแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ให้เข้ามาช่วย SME ในการค้าขาย
เปิดให้บริการ MOC Fondue ผ่าน Line OA ให้ประชาชนแจ้งปัญหาและติดตามการแก้ไขได้แบบ Real-time ภายใต้แนวคิด “พาณิชย์พึ่งได้ แค่ทักก็ถึง แก้ไขปัญหาทุกเรื่อง”