สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (SACIT) จัดพิธีบวงสรวงไหว้ครูช่างศิลปหัตถกรรมขึ้นเป็นครั้งแรก เชิญครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิกผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมจากทั่วประเทศเข้าร่วม พร้อมใช้โอกาสนี้ เชื่อมความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพิ่มองค์ความรู้ หวังสืบสานและผลักดันงานหัตถศิลป์ไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทย และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิตผลงาน
ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เปิดเผยว่า SACIT ได้จัดพิธีบวงสรวงไหว้ครูช่างศิลปหัตถกรรมขึ้นเป็นครั้งแรก โดยรวบรวมครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิกผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมจากทั่วประเทศ ร่วมพิธีอันสง่างามและศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลและสะท้อนคุณค่าทางวัฒนธรรมและการสืบสานภูมิปัญญาหัตถศิลป์ไทยทุกแขนงให้คงอยู่ต่อไปในสังคมไทยอย่างภาคภูมิ ณ ศาลาพระมิ่งมงคล ชั้น 1 สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับการจัดพิธีบวงสรวงไหว้ครูช่างศิลปหัตถกรรมในครั้งนี้ มีครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิกผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมจากทั่วประเทศกว่า 200 รายเข้าร่วมพิธี โดยเป็นพิธีทางพราหมณ์ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล มีการถวายเครื่องบวงสรวงสังเวย พร้อมอัญเชิญองค์เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมสวดมนต์ อ่านบทโองการต่าง ๆ เพื่อให้ท่านเสด็จมารับเครื่องบวงสรวงที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยมีปี่พาทย์ทำเพลงหน้าพาทย์ประกอบ และรำถวายมือ ทำให้เป็นพิธีที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีความสมบูรณ์ตามจารีตประเพณีโบราณ
ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้พิธีไหว้ครูในครั้งนี้มีความพิเศษ คือ การนำเครื่องมือเครื่องใช้ในงานช่างที่ใช้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมไทยในแขนงต่าง ๆ อาทิ ฟีม กระสวยในการทอผ้า สะดึงในการปักผ้า มีด สิ่ว ค้อน เข้ามาร่วมในพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลและเชื่อว่าจะทำให้การทำงานหัตถกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น เสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้ประกอบอาชีพช่าง และยังได้รับเกียรติจากครูวรวินัย หิรัญมาศ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ปี 2559 ของ SACIT ในงานหัตถกรรมเครื่องรักและหัวโขน และเป็นผู้เชี่ยวชาญในพิธีพราหมณ์เป็นผู้ประกอบพิธี
“งานศิลปหัตถกรรมไทย ถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ถูกถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จึงถือว่างานช่างเป็นงานมีครู ซึ่งเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา สร้างให้เกิดคุณูปการมากมาย ดังนั้น พิธีไหว้ครูในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาและองค์ความรู้ภูมิปัญญาด้านหัตถศิลป์ไทย และเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที ตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนวิชาและถ่ายทอดประสบการณ์ สืบสานคุณค่าทางจิตวิญญาณของวงการช่างศิลปหัตถกรรมไทย และยังเป็นเวทีแห่งการพบปะ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างช่างฝีมือจากทั่วประเทศ สร้างความสามัคคี เสริมความรัก ความผูกพัน และความร่วมมือของเหล่าบรรดาช่างฝีมือของไทย เพื่อรักษาและส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาไทยให้ยั่งยืนคู่สังคมไทย และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตผลงานต่อไป”ผศ.ดร.อนุชากล่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากพิธีไหว้ครู ได้จัดให้มีการประชุมสมาชิกผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2568 เปิดโอกาสให้ช่างฝีมือจากทั่วประเทศได้เชื่อมความสัมพันธ์อันดีในเครือข่ายผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย พร้อมกับมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บ่มเพาะเพิ่มพูนศักยภาพ ผ่านการอบรมสัมมนาจากผู้ทรงคุณวุฒิในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ แนวโน้มตลาดศิลปหัตถกรรมในภูมิภาคตะวันออกกลาง และความสำคัญของเครื่องหมายการค้ากับงานศิลปหัตถกรรมไทย โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสืบสานและพัฒนา ขับเคลื่อนวงการศิลปหัตถกรรมของไทยให้อยู่คู่สังคมไทย และปรับตัวเข้ากับบริบทของโลกเพื่อก้าวไปสู่ระดับสากลอย่างภาคภูมิ
ครูวรวินัย หิรัญมาศ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ปี 2559 ผู้ประกอบพิธี กล่าวว่า พิธีบวงสรวงไหว้ครูช่างศิลปหัตถกรรมในวันนี้ ได้อันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะเทพในเชิงช่างและศิลปกรรม อย่างพระวิษณุกรรม และพระพิฆเนศ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ประกอบอาชีพช่าง และยังสร้างขวัญ กำลังใจ และแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรม ที่จะเป็นผู้สืบทอดงานหัตถกรรมไทย ได้เห็นคุณค่าของการเรียนรู้ การสืบสาน และการสร้างสรรค์ผลงานหัตถศิลป์ไทยให้คงอยู่ชั่วลูกหลานสืบไป