กนอ.จับมือ กฟผ.ร่วมศึกษาการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสีเขียว รองรับ Green Transition เพื่อให้ไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero ขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) “โครงการศึกษาการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับ Green Transition สู่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่” ขับเคลื่อนอนาคตอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมีนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้
นายเริงฤทธิ์ กุศลกรรมบถ รองผู้ว่าการ (ประจำสำนักผู้ว่าการ) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า การลงนามในครั้งนี้ กนอ.มีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ โดยการนำจุดแข็งและประสบการณ์ขององค์กรมาใช้พัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรม ทั้งในด้านการบริหารจัดการพลังงานสะอาดให้แก่ผู้ประกอบการ การบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจร และอาจนำไปสู่การศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแผนวิสาหกิจของ กนอ.ที่มุ่งเสริมสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป้าหมายหลักเพื่อร่วมกันศึกษารูปแบบและแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมให้พร้อมรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) ของประเทศ และนโยบาย “สะอาด สะดวก และโปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้วย
นายธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังสำคัญระหว่างสองหน่วยงาน ในการช่วยเตรียมความพร้อมให้ภาคอุตสาหกรรมไทยสามารถปรับตัวเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่ง กฟผ.และ กนอ.จะผสานจุดแข็งของทั้งสองหน่วยงานเข้าด้วยกัน ในการศึกษารูปแบบแนวทางการพัฒนาประเภทอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสีเขียว รวมทั้งด้านกฎหมายและระเบียบต่างๆ ให้ครอบคลุม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมปัจจุบันให้เป็นอุตสาหกรรมมูลค่าสูงที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตเป็นพลังงานสะอาด อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน และระบบบริหารจัดการอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มศักยภาพ ลดการปล่อยคาร์บอน และเป็นอุตสาหกรรม Circular เช่น มีการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น เพื่อมุ่งสู่ 'นิคมอุตสาหกรรมสีเขียวต้นแบบ' ในพื้นที่ศักยภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูดการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนในภูมิภาค
วัตถุประสงค์ของความร่วมมือฉบับนี้ เพื่อร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่แนวคิดการออกแบบเบื้องต้น (Conceptual Design) ไปจนถึงการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ (Feasibility Studyโดยการพัฒนาอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับ Green Transition แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ศึกษาแนวคิดการออกแบบและความเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงการ (Pre-Feasibility Study)
ระยะที่ 2 หากผลการศึกษาในระยะแรกมีความเป็นไปได้ จะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียด (Feasibility Study) และ ระยะที่ 3 หากผลการศึกษาเหมาะสมต่อการลงทุน ทั้งสองฝ่ายจะเจรจารูปแบบความร่วมมือเพื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ ความร่วมมือจะมุ่งเน้นศึกษาอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงและใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต เช่น อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
(Green Industry) และอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Industry) เพื่อบริหารจัดการพลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ และอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า แผงเซลล์แสงอาทิตย์ และขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร
ความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนาม โดยทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งคณะทำงานร่วม (Joint Working Group) เพื่อประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้