กนอ.จับมือ บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท พัฒนานิคมอุตสาหกรรมบางปะกง สู่โมเดลนิคมฯเชิงนิเวศ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กว่า 6.2พันล้านบาท รองรับอุตฯเป้าหมายในพื้นที่EEC สร้างมูลค่าการลงทุน 2.5หมื่นล้านบาทเสริมแกร่งเศรษฐกิจไทย
นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ร่วมมือกับบริษัท บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด พัฒนานิคมอุตสาหกรรมบางปะกง สู่โมเดลนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนิคมฯแห่งที่ 79 ของ กนอ. โดยจะพัฒนาบนพื้นที่ประมาณ 962-1-78.5 ไร่ ด้วยงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 6,200 ล้านบาท รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ โลหะและวัสดุ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ตอบโจทย์ในการขับเคลื่อน EEC และการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทย
“โครงการนี้พัฒนาในรูปแบบ “นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ” หรือ Eco-Industrial Estate ที่เน้นการบริหารจัดการพลังงาน-สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และความสมดุลกับชุมชนโดยรอบ สร้างอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 2,100 อัตรา คาดหวังจะดึงเม็ดเงินลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพภาคอุตสาหกรรมและยกระดับ GDP ตามเป้าหมายของกระทรวงอุตสาหกรรม”นายสุเมธ กล่าว
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า การร่วมพัฒนานิฯบางปะกง นับเป็นโครงการสำคัญที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่ความทันสมัยและมาตรฐานสากล โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นนิคมฯต้นแบบทั้งด้านการออกแบบระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ภายใต้แนวคิด Eco-Industrial Estate เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตควบคู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน
โดยบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ประกอบการและชุมชนรอบข้าง โดยวางเป้านิคมฯบางปะกงรองรับอุตฯเป้าหมายแห่งอนาคต พร้อมทั้งสร้างโอกาสอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน
โครงการนิคมอุตสาหกรรมบางปะกง ตั้งอยู่ในตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 79 ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินงานโดยบริษัท บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 6,251 ล้านบาท เมื่อเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบจะสร้างมูลค่าการลงทุนรวมของโรงงานกว่า 25,000 ล้านบาท พร้อมกับสร้างงานเพิ่มประมาณ 2,181 ตำแหน่ง ทั้งในระดับนิคมและโรงงาน โครงการครอบคลุมพื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม รองรับด้วยระบบสาธารณูปโภคครบวงจร อาทิ ถนนสายหลักกว้าง 25 เมตร ระบบระบายน้ำฝนที่สามารถรับมือกรณีน้ำท่วม รวมถึงระบบประปาและบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ