“เอกนัฏ” หารือตัวแทนชาวไร่อ้อยเพื่อสนับสนุนให้ตัดอ้อยสด100% ในฤดูการผลิต 2568/69 ตั้งเป้าลดอ้อยเผาลงต่ำกว่า 14% เร่งต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสู่น้ำตาลสีเขียว พลาสติกชีวภาพ ประเดิมโอนเงินช่วยเหลือตัดอ้อยสด 100% ตอกย้ำความร่วมมือชาวไร่และโรงงานน้ำตาล ลดเผาอ้อยต่ำสุดในประวัติศาสตร์
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับตัวแทนชาวไร่อ้อยเพื่อสนับสนุนให้กษตรกรชาวไร่อ้อยในฤดูผลิตปี2568/69 ตัดอ้อยสดคุณภาพดี 100% เพื่อลดปัญหาฝุ่นPM 2.5 เพิ่มมากขึ้น หลังจากชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลให้ความร่วมมือในการตัดและรับอ้อยเผาเข้าหีบต่ำในฤดูการผลิต2567/68 พบว่าลดการเผาอ้อยลงต่ำสุดในประวัติศาสตร์จากเดิม 30%เหลือเพียง 14.86%
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมมั่นใจว่าฤดูการผลิตอ้อยครั้งหน้าจะมีอ้อยเผาเข้าหีบต่ำกว่า14% รวมทั้งกระทรวงอุตสาหกรรมมีแผนระยะยาวในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมุ่งเน้นการมูลค่าผลิตภัณฑ์จากอ้อย ไปสู่การผลิตน้ำตาลสีเขียว ไบโอพลาสติก เชื้อเพลิงชีวภาพและเวชภัณฑ์ชีวภาพ เป็นต้น เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ ทำให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคงขึ้น
จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีมติเห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/68 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำรองจ่ายไปก่อนนั้น
ขณะนี้ เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด 100% จะทยอยได้รับเงินชดเชยในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกรผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐของรัฐบาล
เกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/68 โดยมีชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ 126,418 ราย ปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 67.95 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 4,688 ล้านบาท ซึ่งชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือจะต้องสมัครและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ สแกนบัตรประชาชน ณ สถานที่รับจดทะเบียนชาวไร่อ้อยของสำนักงานคณะกรรมอ้อยและน้าตาลทราย และเป็นสมาชิก I - Industry กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ เงินที่โอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เป็นวันแรก มีเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับเงิน 77,044 ราย ปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 55 ล้านตัน เป็นเงิน 3,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60.94% ของเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงิน
ในฤดูการผลิตอ้อยปี2567/68 ลดการเผาอ้อยได้ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14.86% สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รัฐบาลตั้งใจที่จะสนับสนุนและดูแลชาวไร่อ้อยที่ทำดี ให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ร่วมกับ DGA และ ธ.ก.ส. จะเร่งตรวจสอบข้อมูลชาวไร่อ้อยที่ดำเนินการตามเงื่อนไขข้างต้นให้ครบถ้วน คาดว่าจะสามารถโอนเงินงวดต่อไปได้ในสัปดาห์ถัดไป