UTA ส่งหนังสือบี้ “EEC” ขอความชัดเจนเริ่มงาน "อู่ตะเภาเมืองการบิน" เหตุใกล้กำหนดออก NTP 31 ก.ค.แล้ว ขู่ไม่ขยายเวลาและใช้สิทธิตามกฎหมาย พร้อมเรียกค่าชดเชยเสียหายจากรัฐ 5,100 ล้านบาท จับตา "พิชัย" ประชุมบอร์ด EEC 25 ก.ค.นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ผู้รับสัมปทานโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่าโครงการ 290,000 ล้านบาท ได้ทำหนังสือลงวันที่ 23 ก.ค. 2568 ถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด EEC) และนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.หรือ EEC) เรื่อง แจ้งไม่ขยายเวลาวันที่กำหนดให้เงื่อนไขสำเร็จครบถ้วนเพิ่มเติม และพิจารณาใช้สิทธิตามกฎหมาย และสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
โดยหนังสือระบุว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้ขอให้มีการพิจารณาขยายวันที่กำหนดให้เงื่อนไขสำเร็จครบถ้วน และบริษัทฯ ตกลงขยายวันดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 31 ก.ค. 2568 บริษัทฯ ได้มีหนังสือขอให้ สกพอ.พิจารณาแก้ไขปัญหาของโครงการตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 และต่อมาบริษัท ได้แจ้งปัญหาทั้งหมดในปัจจุบันของโครงการ พร้อมทั้งได้นำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ บัดนี้ ระยะเวลาได้ล่วงเลยมากกว่า 7 เดือน จนพ้นกำหนดวันที่ 18 มิ.ย. 2568 ซึ่งเป็นวันที่เดิมในสัญญาร่วมลงทุนกำหนดให้เงื่อนไขบังคับก่อนสำหรับการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มนับระยะเวลาโครงการ (Notice to Proceed: NTP) สำเร็จครบถ้วน และบริษัทฯ ได้มีการขยายวันดังกล่าวตามที่ สกพอ.ร้องขอออกไปหลายคราวจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 ซึ่งเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว แต่เงื่อนไขบังคับก่อนนั้นก็ยังไม่แล้วเสร็จครบถ้วนและการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันทั้งหมดของโครงการก็ยังไม่ได้ข้อยุติ
ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงขอเรียนว่า บริษัทฯจะไม่ขยายวันที่กำหนดให้เงื่อนไขสำเร็จครบถ้วนออกไปเพิ่มเติมแล้ว และเมื่อพ้นวันที่ 31 ก.ค. 2568 บริษัทฯ จะพิจารณาใช้สิทธิตามกฎหมายและสัญญาร่วมลงทุนกับ สกพอ.ต่อไป ซึ่งรวมถึงการเรียกให้ชดเชยค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บริษัท จนถึงปัจจุบันรวมกันแล้วเป็นจำนวนประมาณไม่น้อยกว่า 5,100,000,000 บาท (ห้าพันหนึ่งร้อยล้านบาท) โดยสรุปข้อมูลค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายทั้งหมดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะเรียกค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายอื่นใดในอนาคตที่จะเกิดขึ้นเพิ่มเติม
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ EEC กล่าวว่า ที่ผ่านมา UTA ได้เคยมีหนังสือถึง EEC สอบถามความคืบหน้าในการส่งมอบหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) โครงการ ซึ่งมีการระบุถึงกำหนดที่จะส่งมอบโครงการในวันที่ 31 ก.ค.นี้แล้วครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทาง UTA ต้องการให้ EEC ให้ความชัดเจนว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเจ้าของโครงการ และมี บจ.เอเชีย เอรา วัน (ซี.พี.) เป็นผู้รับสัมปทาน จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะโครงการนี้มีความเกี่ยวเนื่องกัน อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขในการส่งมอบ NTP ด้วย
"ตอนนี้ทางเอกชนและ EEC ยังมีหลายประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน และการพูดคุยก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา โดยจะมีการประชุมบอร์ด EEC ในวันศุกร์ที่ 25 ก.ค. 68 น่าจะมีความคืบหน้า" นายจุฬากล่าว