xs
xsm
sm
md
lg

“ฉันทวิชญ์”เผยสหรัฐฯ พอใจข้อเสนอไทย คาดเจรจาภาษีจบทันเส้นตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ฉันทวิชญ์” เผยผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พอใจข้อเสนอของไทย ที่ยื่นเสนอเพิ่มในการเจรจาภาษีสหรัฐฯ รอบล่าสุด ทั้งการเปิดตลาด ลดมาตรการกีดกัน และส่งเสริมไทยไปลงทุนสหรัฐฯ รอสหรัฐฯ พิจารณาและยื่นข้อเรียกร้องกลับมา ระบุหากไทยคุยกันภายในจบเร็ว ก็จะทำให้การเจรจากับสหรัฐฯ จบเร็วด้วย มั่นใจทันเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ ยันพาณิชย์เตรียมมาตรการช่วยเหลือไว้แล้ว

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ว่า เมื่อคืนวันที่ 17 ก.ค.2568 ตามเวลาประเทศไทย ทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) และตนได้ร่วมวงการเจรจาด้วย เพื่อพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมของไทยที่เสนอให้สหรัฐฯ ซึ่งยูเอสทีอาร์ มีความพึงพอใจมาก เพราะไทยได้เสนอตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ให้เปิดตลาดสินค้าให้เพิ่มขึ้น ลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (เอ็นทีบี) ทั้งในส่วนของสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม และสนับสนุนธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยหลังจากนี้ สหรัฐฯ จะนำข้อเสนอของไทยไปพิจารณาในรายละเอียด และหากมีอะไรที่ต้องการจากไทยมากขึ้น ก็จะยื่นข้อเรียกร้องเพิ่มเติมกลับมา ซึ่งขณะนี้ กำลังรอให้สหรัฐฯ พิจารณาและยื่นข้อเรียกร้องเพิ่มเติมเข้ามา

“เมื่อสหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมมา เราก็ต้องมาพิจารณาอีกว่า อะไรที่รับได้ หรือไม่ได้ จะตอบสนองข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะในส่วนการเปิดตลาดที่จะมีผลกับภาคส่วนต่าง ๆ ของไทย ทั้งภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม แต่ตอนนี้ เราต้องเร่งพูดคุยกันภายในให้จบ โดยเฉพาะในส่วนที่จะได้รับผลกระทบ เพราะถ้าเราคุยกันเองจบเร็ว ก็จะทำให้คุยกับสหรัฐฯ จบเร็วไปด้วย โดยมองว่า การเจรจามีโอกาสจบทันเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.2568 เพราะทั้ง 2 ฝ่ายได้คุยกันอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณชี้ว่า เขายังคุยกับไทย ไม่ใช่ว่าโทรไปแล้วไม่รับ”นายฉันทวิชญ์กล่าว

นายฉันทวิชญ์กล่าวว่า เรื่องถิ่นกำเนิดสินค้าไทยที่สหรัฐฯ ต้องการให้ใช้วัตถุดิบ ชิ้นส่วน หรือส่วนประกอบของไทย ของสหรัฐฯ และของประเทศพันธมิตรให้มากขึ้น เพื่อผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ภายใต้กฎเกณฑ์การสะสมมูลค่าในประเทศ/ภูมิภาค (อาร์วีซี) นั้น สหรัฐฯ ยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนการใช้วัตถุดิบจากส่วนต่าง ๆ ที่ชัดเจน อยู่ระหว่างการเจรจา ยอมรับว่า ทีมเจรจามีความกังวลในเรื่องการใช้วัตถุดิบในประเทศ (โลคอล คอนเทนต์) เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหวที่อาจกระทบต่อประเทศคู่ค้าอื่นของไทย โดยตนมองว่า ไม่ว่าอัตราภาษีตอบโต้ของไทยจะเป็นเท่าไร ไทยต้องปรับโครงสร้างการผลิต หันใช้สินค้าในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาว

ทั้งนี้ การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ไม่อยากให้มองว่า สหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากไทยฝ่ายเดียว แต่อยากให้มองว่า เป็นโอกาสที่ไทยจะปรับตัว ปรับโครงสร้างการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อไทยในระยะยาว

สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมมาตรการช่วยผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในการปรับตัวไว้แล้ว 3 ส่วน คือ เร่งหาตลาดส่งออกใหม่, ลดกฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก ปรับปรุงกฎเกณฑ์อาร์วีซี ที่ช่วยคำนวณสัดส่วนการใช้วัตถุดิบได้ง่ายขึ้น และช่วยเหลือในการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

“ไม่ว่าไทยจะตกลงอะไรกับสหรัฐฯ จะต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐสภาก่อน เพราะจะมีผลผูกพันกับประเทศในระยะยาว มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนเมื่อไทยลดภาษีนำเข้าให้สหรัฐฯ เป็น 0% ในบางรายการแล้ว จะต้องลดให้ประเทศอื่นอย่างเท่าเทียมกันตามกฎเกณฑ์องค์การการค้าโลกหรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของไทย แต่คิดว่า น่าจะให้สหรัฐฯ ประเทศเดียว เหมือนกับการทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยลดภาษีให้เฉพาะประเทศที่ทำเอฟทีเอด้วยเท่านั้น”นายฉันทวิชญ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น