เค.เอ็น.เอ.อินเตอร์ฟาร์มา ผนึกทีมแพทย์ผู้บริหารคลินิกความงามชั้นนำ และไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี จากไต้หวัน ลงทุนกว่า 2,500 ล้าน เปิดโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านเวชศาสตร์ความงามเป็นครั้งแรก ดันไทยเป็นศูนย์เมดิคัลฮับระดับสากล
นายนาดิ้รชา ปาทาน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.เอ็น.เอ. อินเตอร์ฟาร์มา จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมความงามและเครื่องมือแพทย์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับทีมแพทย์ผู้บริหารคลินิกความงามชั้นนำ ซึ่งนำโดยรัสมิ์ภูมิ คลินิก และบริษัท ไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อบริษัท เอลเธทิคส์ อลิแอนซ์ ออล จำกัด หรือ AAA เพื่อเปิดโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านเวชศาสตร์ความงามเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งอยูที่จังหวัดปทุมธานี ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 2,500 ล้านบาท
“หลังจากบริษัทได้ก่อตั้งมากว่า 3 ปี ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์มาจัดจำหน่าย มูลค่านำเข้าเป็นแสนล้านบาท แต่ยังไม่สามารถผลิตเองได้ในไทย โดยความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมความงามไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทมองเห็นศักยภาพของไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านชีวการแพทย์และเวชศาสตร์ความงามระดับโลกจากไต้หวัน ทำให้เห็นโอกาสที่ไทยจะเป็นผู้ผลิตและส่งออก และร่วมกันผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเครื่องมือแพทย์ด้านเวชศาสตร์ความงาม หรือเมดิคัลฮับในระดับสากลได้”
นายแพทย์อารอน เชีย-เซียน เซีย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ศึกษาตลาดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยที่มีความโดดเด่นในฐานะเมดิคัลฮับของภูมิภาค ทั้งในด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดความงาม รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และการส่งเสริมลงทุนที่เอื้ออำนวย
สำหรับการลงทุนจะแบ่งเป็น เงินทุน 500 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องจักร การวิจัยและพัฒนา และสิทธิบัตรการผลิต 4 รายการซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ในกลุ่มความงาม (Aesthetic) อีกกว่า 2,000 ล้านบาท ที่จะนำมาใช้ในโรงงานแห่งนี้ โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2569 และคาดว่าจะสามารถเริ่มขบวนการผลิตได้ในปี 2570 ซึ่งจะรองรับตลาดในไทย 30% และส่งออก 70% จะเริ่มส่งออกไปจีนและอินโดนีเซียก่อน หลังจากนั้นไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา โดยในปีแรกตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ 500 ล้านบาท จากตลาดส่งออก และคาดว่าจะใช้เวลาคืนทุนใน 3 ปี
นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง และผู้ก่อตั้ง Rassapoom กล่าวว่า ตลาดความงามของประเทศไทยที่มีมูลค่า 76,500 ล้านบาท มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี ซึ่งปีล่าสุดเติบโต 2.8% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจตก แต่ยังมีศักยภาพเติบโตสูง ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า ธุรกิจความงามในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง 5 ปี และเป็นหนึ่งใน 10 ธุรกิจดาวเด่นประจำปี 2568 ซึ่งความร่วมมือกันครั้งนี้ ถือครั้งสำคัญระดับประเทศ ที่ไทยจะมีโรงงานเป็นครั้งแรก และทำให้ผู้บริโภคได้รับบริการด้วยต้นทุนที่ถูกลงอย่างน้อย 30% เพราะไม่ต้องนำเข้าที่มีภาษี 30% และร่วมกันต่อยอดพัฒนาอุตสาหกรรมเวชศาสตร์ความงามไทย และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฮับที่ครบวงจร