xs
xsm
sm
md
lg

AOT ตอกย้ำความเป็นผู้นำท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก มุ่งยกระดับบริการแบบ World Class Hospitality พร้อมเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ดีที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



AOT ผู้นำด้านการบริหารท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก มุ่งยกระดับบริการแบบ World Class Hospitality ให้แก่ผู้โดยสาร เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุด พร้อมเร่งพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางอากาศของประเทศสู่มาตรฐานสากล

ในวาระครบรอบ 46 ปีของ AOT เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ตลอด 46 ปีที่ผ่านมา AOT มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางอากาศ อีกทั้งยังมีบทบาทโดยตรงต่อระบบโลจิสติกส์ของประเทศด้วยการพัฒนาท่าอากาศยานให้มีความทันสมัย เพื่อรองรับหน้าที่ “ประตูสู่ประเทศ” พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub)
นอกจากนี้ AOT ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งขยายขอบเขตการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบินและไม่เกี่ยวกับการบิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT
ส่องผลงานสุดปัง และแนวโน้มการเติบโต

AOT มีบทบาทในการบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – พฤษภาคม 2568) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง มีผู้โดยสารรวม 88.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 54.24 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 10.8%) และผู้โดยสารภายในประเทศ 34.29 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 6.9%) ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 544,590 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.9% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 308,777 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.5% และเที่ยวบินภายในประเทศ 235,813 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.9%

สำหรับปีงบประมาณ 2569 (ตุลาคม 2568 – กันยายน 2569) AOT คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารรวมกว่า 130 ล้านคน และเที่ยวบินรวมกว่า 859,000 เที่ยวบิน อีกทั้งคาดว่าจะมีจำนวนสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ (Cargo) ประมาณ 1.64 ล้านตัน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการขนส่งและการบิน


ยกระดับบริการ World Class Hospitality

AOT มุ่งมั่นพัฒนาทั้งคุณภาพการให้บริการและประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย รวดเร็ว และน่าประทับใจ ด้วยแนวคิด “World Class Hospitality” ที่มุ่งเน้นการให้บริการที่เหนือระดับ ทั้งความใส่ใจและการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าบ้านที่ยินดีต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยตลอดการเดินทางเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลเชิงสถิติ แสดงให้เห็นว่า ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง สามารถบริหารจัดการเวลาที่ผู้โดยสารใช้ในการผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหนือกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น

● ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ: ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศใช้เวลาเฉลี่ย 21 นาทีต่อคน, ขาออกระหว่างประเทศ 27 นาทีต่อคน, ขาเข้าภายในประเทศ 14 นาทีต่อคน, และขาออกภายในประเทศ 15 นาทีต่อคน

● ท่าอากาศยานดอนเมือง: ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศใช้เวลาเฉลี่ย 21 นาทีต่อคน, ขาออกระหว่างประเทศ 22 นาทีต่อคน, ขาเข้าภายในประเทศ 8 นาทีต่อคน, และขาออกภายในประเทศ 10 นาทีต่อคน

นอกจากนั้น AOT ยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพการให้บริการ (Airport Service Quality) โดยมีแผนปรับปรุงพื้นที่ให้บริการภายในท่าอากาศยานให้มีความทันสมัย โปร่ง โล่ง สบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสาร เช่น การจัดโซนนิ่งอาคารผู้โดยสารใหม่, จัดพื้นที่สันทนาการ, สนามเด็กเล่น, พื้นที่พักคอยที่ผ่อนคลาย, เพิ่มจุดชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการมากที่สุด AOT มีแผนผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค ผ่านโครงการ Suvarnabhumi Airport Experience Enhancement ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก Concourse C เพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น Kids and Gaming Zone และ Relaxing Co-Working Space Zone พร้อมเปิดใช้งานภายในปี 2569 นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ทั้งในส่วนของอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน ซึ่งคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 2571


เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคต

AOT ยังคงเดินหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ตามปริมาณการเติบโตของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น

● ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ: จะเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ให้แล้วเสร็จในปี 2573 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถจาก 65 ล้านคนต่อปี เป็น 80 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านทิศใต้ ซึ่งประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) และทางวิ่งเส้นที่ 4 (4th Runway)

● ท่าอากาศยานดอนเมือง: คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 ได้ภายในปี 2569 และเปิดให้บริการเพื่อรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศในปี 2573 พร้อมปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศในปี 2575

● ท่าอากาศยานเชียงใหม่: จะดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จในปี 2576 ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี

● ท่าอากาศยานภูเก็ต: จะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถเป็น 18 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573

● ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย: มีแผนจะพัฒนาให้รองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2576


แสวงหารายได้นอกกิจการการบิน เสริมความยั่งยืน

แม้ AOT จะมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการให้บริการผู้โดยสารและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenue) แต่จากการให้ข้อมูลโดยนางสาวปวีณา ระบุว่า AOT ยังมีแผนแสวงหารายได้อื่นเพื่อสนับสนุนสภาพคล่องและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) ด้วยพื้นที่ศักยภาพรอบสนามบินทั้ง 6 แห่งที่จะสามารถนำมาสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจหลายด้าน

ทั้งนี้ AOT ได้จัดงาน AOT Property Showcase เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก มีนักลงทุนแจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่กับ AOT จำนวน 28 โครงการ สำหรับประกอบธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น โรงแรม, โครงการ MRO, โครงการ Private Jet Terminal, โครงการ Logistics Hub Training Center, ศูนย์ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า, โชว์รูมรถยนต์, สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโครงการ Attraction in Terminal โดย AOT ได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจเริ่มเสนอโครงการเข้ามา เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ AOT ต่อไป

“AOT จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีเยี่ยมในระดับสากล ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน, การบริการ และนวัตกรรม มุ่งยกระดับการเดินทางให้สะดวก ปลอดภัย ทันสมัย และเป็นมิตรกับผู้โดยสาร เพื่อยืนหยัดในบทบาทผู้นำด้านการบริหารท่าอากาศยาน และเป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบคมนาคมทางอากาศเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป” นางสาวปวีณา กล่าวย้ำในตอนท้ายด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น


กำลังโหลดความคิดเห็น